อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่770 สงบสุข
นางเข้าหาโดยมีเป้าหมายแต่แรก……
กู้ชูหน่วนรู้สึกผิดอย่างมาก
ถึงแม้พวกนางจะสมัครใจ ทั้งชีวิตนี้นางจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองเด็ดขาด
เวินเส้าหยีกับจอมมารจะบอกว่าไม่ปวดใจก็คงไม่จริง
พวกเขาอยากให้กู้ชูหน่วนร้องไห้ออกมาเหมือนฮัวฉีหลัว
แต่นางกลับกันฟันแน่น ไม่ร้องออกมาเลย แต่แค่มองดูลูกศิษย์เผ่าน้ำแข็งกระโดดลงไปทีละคนโดยไม่ละสายตาเลย ไม่กะพริบตาเลยด้วยซ้ำ
ไม่มีใครรู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่
และไม่มีใครรู้ด้วยว่า ตอนนี้นางปวดใจมากแค่ไหน
เป็นเพราะแบบนี้ จอมมารกับเวินเส้าหยีถึงได้ปวดใจมากขึ้น
พี่น้องร้อยกว่าคน เพื่อช่วยนางลบล้างคำสาปเลือด ใช้วิธีการแบบนี้ตายอย่างอนาถต่อหน้านาง คนปกติทั่วไปจะรับไหวได้ยังไง
ทันใดนั้นจอมมารก็กอดร่างกายที่เย็นเฉียบของกู้ชูหน่วนไว้ แล้วพูดสะอื้นว่า “พี่สาว พี่จะร้องก็ร้องออกมาเถอะนะ อาโม่ให้พี่พิงไหล่ก็ได้”
กู้ชูหน่วนไม่ตอบ ยังคงมองดูพี่น้องสละชีพเพื่อตัวเองตาไม่กะพริบ
ปวดหัวใจจนถึงขีดสุด บางทีอาจจะชินชาไปแล้วก็ได้
“พี่สาว……”
จอมมารยื่นมือไปปิดตาของนางไว้ แต่นางกลับปัดออก
นางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า
“พวกนางจะไม่ตายไปเปล่าๆแน่นอน”
อึ้ง……
จอมมารไม่รู้ว่ากู้ชูหน่วนหมายความว่ายังไง แค่หันไปมองเวินเส้าหยี
เวินเส้าหยีจับมือขวาตัวเองไว้แน่น มือขวาของเขาหัก ตอนนี้ยังเจ็บมาก
เห็นจอมมารมองมาด้วยความสงสัย เขาจึงตอบด้วยเสียงที่แหบแห้งว่า “นางจะทำทุกอย่างเพื่อหลอมมุกมังกร ไม่ให้พวกนางตายไปเปล่าๆ”
เวินเส้าหยีก็อยากกอดร่างกายที่ผอมแห้งของนางเหมือนจอมมารเหมือนกัน
แต่เขาไม่มีตำแหน่งและไม่มีสิทธิ์ จึงต้องคอยอยู่เคียงข้างนางเงียบๆ
จอมมารเหมือนจะเข้าใจ
“เสียสละไปเยอะขนาดนั้น ถ้ายังหลอมมุกมังกรไม่ได้อีก โลกนี้ไม่ยุติธรรมเลย”
ผู้อาวุโสหกหลับตาลงอย่างเศร้าใจ ทนดูภาพที่โหดร้ายต่อไปไม่ไหว
มีเพียงฮัวฉีหลัว ยังคงตบแผงกั้นนั้นไม่หยุด ร้องไห้จนใจแทบขาด
“ไม่……ไม่นะ……พี่……พี่……พวกพี่อย่ากระโดดนะ ข้าขอร้องล่ะนะ พวกพี่อย่ากระโดดเลย”
“เสี่ยวฉีหลัว ต่อไปเจ้าจะต้องเชื่อฟังที่นายหญิงพูดนะ และต้องปกป้องนายหญิงให้ดีด้วย”
“พี่……ข้าขอร้องพวกพี่ล่ะ พวกพี่อย่ากระโดดเลยนะ”
ไม่ว่านางจะร้องไห้อย่างปวดใจมากแค่ไหน ไม่ว่านางจะร้องขอมาแค่ไหน
ลูกศิษย์หนึ่งร้อยห้าคนนั้นก็ไม่หยุดสังเวยชีวิตตัวเองเพราะคำพูดของนางเลย
ในที่สุด……
ภายใต้ความเสียใจของพวกเขา ลูกศิษย์หนึ่งร้อยห้าคนก็สละชีพทั้งหมดแล้ว
เบ้าหลอมยาอันกว้างใหญ่ เหลือแค่ไป๋จิ่นคนเดียว
ไป๋จิ่นกำหมัดแน่น นานมากกว่าจะปล่อยออก นางพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เหลือแค่ข้าคนเดียวแล้ว นายหญิง……ดูแลตัวเองให้ดี……”
ฮัวฉีหลัวร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง “ไม่นะ……พี่ไป๋จิ่น……ทำไมพี่ถึงโหดร้ายเช่นนี้……พี่จะตายไม่ได้นะ……พี่หน่วน ทำไมพี่ไม่พูดอะไรเลยล่ะ พี่รีบขอร้องพี่ไป๋จิ่นสิ ขอร้องให้พวกนางอย่าจากพวกเราไปเลย”
กู้ชูหน่วนเงยหน้าขึ้นอย่างเชื่องช้า พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “เจ้าวางใจได้ ข้าจะดูแลน้องฉีหลัวเอง ขอโทษด้วยนะ……”
“ไป๋จิ่นขอบพระคุณนายหญิง ขอให้นายหญิง……ถอนคำสาปเลือดได้เร็ววัน”
“ได้……”
“ลาก่อนนายหญิง……”
ไป๋จิ่นฉีกยิ้มกว้าง กางมือออก และกระโดดลงเบ้าหลอมยาด้วยรอยยิ้ม
เหมือนกับพี่น้องคนอื่นที่ไม่ลังเลและไม่มีความแค้น มีแต่ความสมัครใจ
“โครม……”
ไฟปะทุขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับเสียงคร่ำครวญ ราวกับว่าเป็นการไว้ทุกข์อาลัยให้กับวัยที่กำลังเป็นดอกไม้งามของพวกนาง และต้องมาเหี่ยวเฉาตายแบบนี้
ชี่พิฆาตในเบ้าหลอมยาหายไปหลังจากที่ไป๋จิ่นกระโดดลงไป ขนาดชี่พิฆาตของชั้นแรกก็ยังหายไปด้วยเลย