อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม – บทที่ 792 สงครามใหญ่

บทที่ 792 สงครามใหญ่

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 792 สงครามใหญ่
“ไม่ได้”

สุดยอดผู้อาวุโสปฏิเสธไปตรงๆโดยไม่แม้แต่จะคิด “ตอนนั้นเพื่อช่วยเจ้าผนึกคำสาปโลหิตไว้ ได้สละชีวิตสุดยอดผู้อาวุโสไปห้าคนเต็มๆ ผนึกของเจ้าไม่ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ จะเปิดออกโดยง่ายดายไม่ได้”

“เผ่าหยกกำลังเผชิญกับหายนะครั้งใหญ่ ข้าในฐานะหัวหน้าเผ่า มีภาระหน้าที่ต้องป้องกันลมฝนให้แก่ราษฎรในเผ่า”

คำพูดของกู้ชูหน่วนเปลี่ยนไป สีหน้าก็แฝงด้วยความโศกเศร้าเล็กน้อย

“ยิ่งไปกว่านั้น…..ท่านไม่ได้บอกว่า ข้าคือมุกมังกรเม็ดที่แปดรึไง จะหลอมรวมมุกมังกรเพื่อแก้คำสาปโลหิตให้ได้ ก็จำเป็นต้องเลือดหัวใจทั้งหมดของข้าไม่ใช่หรือ? ในเมื่อจุดจบได้กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว ก็รีบเปิดผนึกให้เร็วที่สุดจะดีซะกว่า ยังจะสามารถทำประโยชน์เพื่อเผ่าหยกได้มากหน่อย และทำประโยชน์เพื่อคนใต้หล้าได้มากขึ้นอีกหน่อยด้วย”

เหมือนสุดยอดผู้อาวุโสจะคาดเดาการเลือกของนางได้ล่วงหน้าแล้ว เขาถอนใจอย่างจนปัญญา ส่ายหัวเบาๆ “ก็ยังไม่ได้ ผนึกไม่สามารถเปิดได้ เผ่าหยกยังไม่ถึงก้าวสุดท้าย อย่าได้ท้อถอย”

เขาเข้าฌานมานานหลายปีดีดัก ศึกษามาตลอดว่าหลังจากที่อาหน่วนอุทิศเลือดหัวใจทั้งหมดแล้ว จะสามารถรักษาชีวิตของนางได้อย่างไร

แม้ว่าจะศึกษาออกมาไม่ได้ แต่เขากลับศึกษาวิธีที่จะรักษาจิตวิญญาณของนางไว้ชั่วคราวได้แล้ว

บางทีหลังจากที่อาหน่วนน้อยของเขาอุทิศเลือดหัวใจแล้ว เพียงแค่จิตวิญญาณไม่ดับ ก็อาจจะมีโอกาสมีชีวิตอีกครั้งได้ เขาจะทำใจเปิดผนึกให้นางได้อย่างไร

กู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว “ท่านทำเช่นนี้ทำไม แม้ว่าจะถ่วงเวลาได้ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้ว”

“บางทีข้าอาจจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ แต่ข้าจะใช้วิธีการของตัวเองมาปกป้องเผ่าหยก ปกป้องเจ้า” สุดยอดผู้อาวุโสจ้องมองกู้ชูหน่วนอย่างแน่วแน่ ใบหน้าเหี่ยวๆนั่นปริยิ้มออกมา

เพื่อนางแล้ว การสละชีวิตของตัวเขาเอง เพื่อปกป้องวิญญาณของนางให้ปลอดภัย ก็คุ้มค่าแล้ว

เพียงแต่…..

เขาต้องพยายามคิดวิธีทำให้วิญญาณเกิดใหม่ให้ได้โดยเร็วที่สุด

เมื่อเห็นว่าไม่สามารถหารือกับสุดยอดผู้อาวุโสได้อีก กู้ชูหน่วนจึงถือโอกาสจากไป ไม่อยากเสียเวลากับเขาอีกต่อไปแล้ว

“ตาเฒ่า ตาแก่หนังเหนียวไม่ยอมตายของเผ่าเทียนเฟิ่นที่สกัดกั้นอยู่ด้านหลังนั่นมอบให้ท่านแล้ว ท่านอย่าบอกข้าเชียวว่า เพียงแค่ตาแก่ของเผ่าเทียนเฟิ่นตัวเล็กๆผู้หนึ่งท่านก็รับมือไม่ได้น่ะ”

สุดยอดผู้อาวุโสเผลอหัวเราะออกมาแล้ว

ยัยหนูนี่ คิดว่าเขาเซียนเกินไปหรือไม่ ศักยภาพของเขาและพวกเขาไม่ได้ต่างกัน หากต้องจัดการเขาทิ้งไปจริงๆ ตัวเองก็ต้องหนังหลุดไปชั้นหนึ่งแล้ว

“วางใจเถอะ รับรองว่าจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวัง”

เผ่าเทียนเฟิ่นและเผ่าหยกเริ่มทำสงครามใหญ่อย่างเป็นทางการ

กู้ชูหน่วนสองมือไขว้หลัง ยืนอยู่ที่ถาดทราย ฟังคนรับใช้ทีละคนรายงานสถานการณ์สงคราม

“เรียนหัวหน้าเผ่า ผู้อาวุโสหกทำตามคำสั่งของท่าน ให้ประชาชนในเผ่ารวมตัวกันล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดกำลังรออยู่ที่ปากทางลับ และชั่วขณะนี้เผ่าเทียนเฟิ่นก็ยังไม่ได้พบเห็นเหล่าประชาชนขอรับ”

“รายงาน……สุดยอดผู้อาวุโสได้บีบให้ตาแก่อมตะของเผ่าเทียนเฟิ่นที่สกัดกั้นอยู่ด้านหลังเข้าไปในค่ายกลแห่งความตายแล้ว ฝืนบังคับให้ตาแก่อมตะของเผ่าเทียนเฟิ่นผู้นั้นสิ้นแรงจนตายแล้วขอรับ”

ฟืด……

ผู้อาวุโสหลายคนในห้องประชุมต่างตกตะลึงแล้ว

เพิ่งจะผ่านไปนานเพียงใด สุดยอดผู้อาวุโสก็จัดการขั้นสูงสุดระดับหกของเผ่าเทียนเฟิ่นได้คนหนึ่งแล้วรึ?

ความเร็วเช่นนี้จะเร็วเกินไปแล้วหรือไม่?

ผู้อาวุโสไป๋เฉ่ากล่าว “ค่ายกลแห่งความตายเป็นค่ายกลปลิดชีพโบราณค่ายกลหนึ่งของเผ่าหยก แม้ว่าจะเป็นระดับเจ็ดเข้าไป เพียงแค่ไม่ระวังก็อาจจะนองเลือดได้ สุดยอดผู้อาวุโสได้เปรียบด้วยโอกาสภูมิประเทศและความสามัคคี ดังนั้นจึงสามารถชนะได้ในเวลาอันสั้นขนาดนี้สินะ”

กู้ชูหน่วนกล่าว “สุดยอดผู้อาวุโสเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ตอบหัวหน้าเผ่า สุดยอดผู้อาวุโสไม่ได้เป็นอะไรมาก จากที่ท่านรับสั่ง ให้จงใจแยกตาแก่อมตะที่เป็นผู้นำทั้งสามของเผ่าเทียนเฟิ่นออกจากกัน และไล่โจมตีให้พ่ายไปทีละคน”

“รายงาน……ในการสกัดกั้นโจมตีเผ่าเทียนเฟิ่นและคนอื่นๆของผู้อาวุโสรอง ล้มเหลวแล้วขอรับ ทั้งยังได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย บรรดาพี่น้องก็บาดเจ็บล้มตายกันอย่างน่าอนาถมาก ยังดีที่ผู้อาวุโสใหญ่และคนอื่นๆเข้าช่วยได้ทันการ แต่ผู้อาวุโสใหญ่และคนอื่นๆก็ถูกคนของเผ่าเทียนเฟิ่นรุมล้อมไว้แล้วขอรับ สถานการณ์ไม่ค่อยดีนัก”

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

Status: Ongoing

กู้ชูหน่วน เดิมทีเป็นอัจริยะแพทย์สาวยุคปัจจุบัน การข้ามภพหนึ่ง พาเธอย้อนเวลาไปที่ยุคโบราณที่ไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนาม สิ่งที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงก็คือ เพิ่งจะมาถึงสถานที่แปลกหูแปลกตานี้แท้ๆ เธอก็ต้องเสียตัวให้กับชายแปลกหน้าอย่างไม่มีทางเลือก หลังจากมีการพัวพันซึ่งกันและกัน เดิมทีกู้ชูหน่วนคิดว่าแต่นี้ต่อไป ต่างคนต่างไป จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก สุดท้ายกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เย่จิ่งหานกลับคอยตอแยเธอไม่เลิก โชคชะตาฟ้าลิขิต เธอค่อยๆครอบครองใจของเย่จิ่งหานไปเรื่อยๆ จนทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัก อย่างโงหัวไม่ขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท