สุดยอดผู้อาวุโสกับผู้อาวุโสใหญ่ตามไปทันที
แต่จนใจที่พวกเขาบาดเจ็บหนักเกินไป เพิ่งขยับตัวก็ล้มลงเสียแล้ว ได้แต่ให้คนอื่นๆ รีบติดตาม ต้องตามหาให้พบแล้วสังหารในทันที จะได้ไม่เกิดเรื่องบานปลาย
กู้ชูหน่วนเดินซวนเซไปตามหาพวกเขาด้วยร่างกายที่บาดเจ็บ
ในฐานะที่เป็นหัวหน้าเผ่าหยก นางควรสังหารเผ่าเทียนเฟิ่นให้หมดทุกคน
แต่เวลานี้ นางกลับหวังให้เวินเส้าหยีรอดชีวิตหนีออกไปจากเผ่าหยกได้
ณ ทางเข้าเหวลึกอนันต์ของเผ่าหยก เวินเส้าหยีและสุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยล้มตึงอยู่กับพื้นเสียงดัง
เวินเส้าหยีเจ็บจนขมวดคิ้วมุ่น
เขาอดทนต่อความเจ็บปวดคลานขึ้นมา จากนั้นภาพที่ประทับในม่านตาเขาก็คือสุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยที่ดูแลเขามาตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่
สุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยมีบาดแผลเต็มตัว ถูกกัดขยี้เป็นรูและมีเลือดไหลออกมาหลายแห่ง
ทั้งยังมีหลายจุดที่ถูกกัดเนื้อแหว่งหายไป บาดแผลคล้ายกับเขามาก นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นรอยแผลจากการกัดขยี้ของสัตว์ร้าย
แต่สุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยเจ็บหนักมากกว่าเขา
เพราะขาข้างหนึ่งของเขาถูกกัดจนเหลือแต่กระดูก มิหนำซ้ำมือข้างหนึ่งก็ถูกกัดขาดทั้งอย่างนั้น ดังนั้นตอนนี้เขาจึงเหลือเพียงมือและขาอย่างละข้าง
“ท่านปู่อั้นเฮย ทำไมท่านถึงบาดเจ็บอย่างนี้ได้…”
เวินเส้าหยีน้ำตาร่วงพรูอย่างกลั้นไม่อยู่อีก เขาสั่นเทิ้มอยากลูบมือและเท้าของอั้นเฮยแต่ก็ไม่กล้าแตะ เกรงว่าแตะแล้วมือและเท้าของเขาจะขาด
อั้นเฮยหอบหายใจหนักเอ่ย “ยังไม่ใช่เพราะนางมารกู้ชูหน่วนนั่นหรอกหรือ นางใช้เจ้าเป็นเหยื่อล่อให้ข้าเข้าเหวลึกอนันต์ ทำให้เข้าบุกเข้าเหวลึกอนันต์ชั้นที่สิบเจ็ด สุดท้ายยังใช้อุบายให้ข้าตกลงชั้นสิบแปดอีก บาดแผลพวกนี้ก็ได้รับมาจากที่นั่น”
เวินเส้าหยีตะลึง ราวกับถูกแช่แข็งไปทั้งตัว
อั้นเฮยนึกว่าเขากังวลเรื่องอาการบาดเจ็บของตน จึงอดทนต่อความทรมานกล่าวปลอบใจ “วางใจเถอะ ปู่อั้นเฮยเจ้าอายุปูนนี้แล้ว มีอะไรที่ไม่เคยเจอมาบ้าง นี่เป็นเพียงบาดแผลเล็กน้อย ปู่อั้นเฮยไม่เจ็บ”
เนื้อตัวถูกกัดจนแทบเหลือแต่กระดูก จะไม่เจ็บได้อย่างไร
อยู่รอดมาถึงตอนนี้ได้ก็อัศจรรย์แล้ว
เขาเคยเข้าเหวลึกอนันต์ ข้างในอันตรายมากจนไม่อาจพรรณนาด้วยวาจา
“เส้าหยี ปู่อั้นเฮยคงอยู่เป็นเพื่อนเจ้าไม่ได้อีกแล้ว หนทางข้างหน้าเจ้าต้องเป็นผู้เดินเอง”
เวินเส้าหยีแสร้งว่ากลั้วหัวเราะเหมือนเป็นเรื่องเล็ก “ท่านพูดเพ้อเจ้ออะไร ท่านเป็นยอดฝีมือระดับหกเชียวนะ โลกนี้ยังจะมีใครฆ่าท่านได้อีก”
“ระดับหกแล้วอย่างไร ถึงจะเป็นระดับเจ็ดก็ไม่ได้ร้ายกาจที่สุดในโลกหล้า เจ้าเป็นเด็กจิตใจดีบริสุทธิ์ ข้ารู้ว่าเจ้าอยากสลายความแค้นระหว่างเผ่าเทียนเฟิ่นกับเผ่าหยกมาตลอด เรื่องในวันนี้เจ้าก็เห็นแล้ว บุญคุณความแค้นระหว่างสองเผ่าไม่อาจคลี่คลายได้ หากไม่ใช่เจ้าตายก็คือข้าตาย”
เวินเส้าหยีนิ่งงัน ไม่อยากรับเรื่องนี้
“ท่านบาดเจ็บหนัก ข้าจะแบกท่าน พวกเราไปหาทางออกด้วยกันเถอะ ในเมื่อเราเข้ามาได้ก็ต้องออกไปได้”
สุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยรั้งเขา ในดวงตาแก่ชราขุ่นมัวคู่นั้นมีความอนาทรกังวลอยู่ลึกๆ เช่นเดียวกับสุดยอดผู้อาวุโสหยู่เย่
“ข้ารู้ว่าเจ้ารู้สึกดีกับกู้ชูหน่วน แต่นางเป็นหัวหน้าเผ่าหยก ทุกอย่างต้องเห็นแก่ผลประโยชน์ของเผ่าหยกเป็นหลัก ภาระใหญ่หลวงในชาตินี้ของนางก็คือรวบรวมมุกมังกร ถอนคำสาปโลหิตของเผ่าหยก จากนั้นก็กำจัดพวกเราเผ่าเทียนเฟิ่นด้วยกำลังทั้งหมด เจ้าอย่าโง่อีกเลย เจ้ากับนางเดิมก็อยู่กันคนละขั้ว ชาตินี้คบหาเป็นมิตรสหายไม่ได้หรอก”
“ท่านพูดเรื่องพวกนี้กับข้าทำไมกัน”
“ข้าหาเส้นทางออกจากเผ่าหยกได้แล้ว นั่นก็คือเผาผลาญพลังวิญญาณของระดับหกขั้นสูง ผลาญพลังยุทธ์ทั้งหมดขับเคลื่อนค่ายกลขนส่ง เท่านี้ก็ออกจากเผ่าหยกได้แล้ว ถึงข้าจะบาดเจ็บไม่น้อย แต่หากทุ่มสุดตัวก็น่าจะส่งเจ้าออกไปได้”
เวินเส้าหยีตะลึง
“เผาผลาญพลังวิญญาณ? จะเผาผลาญพลังวิญญาณได้อย่างไร พอเริ่มขึ้น วิญญาณท่านก็จะแตกสลาย พวกเราหาทางอื่นออกไปเถอะ”
“นอกจากหนทางนี้แล้วก็ไม่มีวิธีอื่น พวกมันเผ่าหยกคงไม่รู้หรอก ว่าใช้ค่ายกลขนส่งไปจากเหวลึกอนันต์ชั้นที่สิบแปดได้ ฮ่าๆ…สวรรค์ไม่ทอดทิ้งพวกเราเผ่าเทียนเฟิ่น”