อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 817 เผาผลาญพลังวิญญาณ
เวินเส้าหยีปฏิเสธอย่างไม่คิดทันควัน
เขาจะให้สุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยเสียสละตัวเองเพื่อช่วยเขาไม่ได้
การมาเผ่าหยกคราวนี้ เขาแบกรับชีวิตของผู้คนมากมายเกินพอแล้ว
สุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยคล้ายมองความคิดของเขาออกแต่ทีแรก จึงจี้จุดของเวินเส้าหยี
“เผ่าเทียนเฟิ่นจะขาดเจ้าไม่ได้ ไอ้แก่อย่างข้าตายไปก็ไม่เสียดาย แต่เจ้าต้องอยู่ต่อ”
“ข้าสูญเสียวรยุทธ์แล้ว กระดูกสะบักก็ใช้การไม่ได้แล้ว ไม่เป็นที่ภาคภูมิของเผ่าเทียนเฟิ่นอีก”
ครั้นได้ยินถ้อยคำของเวินเส้าหยี สุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยก็โมโหยั้งไม่อยู่ ฉายความอาฆาตรุนแรงออกมาจากดวงตา
เผ่าหยก…
ดีนี่เผ่าหยก…
เข่นฆ่าพวกเขามากมายยังพอว่า นี่ยังถึงกับทำลายความหวังในอนาคตของเผ่าเทียนเฟิ่น
หากไม่ใช่เพราะเขาบาดเจ็บหนักเกินไปและยังต้องพาเวินเส้าหยีไปจากที่นี่ เวลานี้สุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยก็อยากพุ่งเข้าไปลากพวกเขาให้ตกตายไปตามกัน ลากไปตายได้เท่าไรก็เท่านั้น
“กระดูกสะบักถูกทำลายไปแล้วจะทำไม อย่างไรใต้หล้าก็ต้องมีคนที่ต่อกระดูกสะบักให้เจ้าได้ หัวหน้าเผ่ามีความสามารถสูงเทียมฟ้า เอาไว้เจ้ากลับเผ่าเทียนเฟิ่นแล้ว เขาก็อาจช่วยเจ้าฟื้นฟูพลังยุทธ์ได้”
“ข้าไม่ต้องการฟื้นฟูพลังยุทธ์ ข้าแค่อยากให้ท่านมีชีวิตอยู่” เวินเส้าหยีสะอื้น
เขาอยากทำลายจุดที่สกัดเอาไว้เหลือเกิน แต่จนใจที่เวลานี้เขาไม่มีกำลังภายในสักนิด ได้แต่วิงวอนสุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยอย่าได้เผาผลาญพลังวิญญาณ
ความอาฆาตบนตัวสุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยพลันอันตรธานหายไป แล้วแทนที่ด้วยความรักใครเอ็นดูอย่างหนึ่ง
เขาลูบศีรษะและบาดแผลที่มีเลือดไหลตามตัวเวินเส้าหยีด้วยความอาลัยอาวรณ์ ครั้นดวงตาฉายประกายหนึ่ง พลังวิญญาณก็เริ่มถูกเผาผลาญ
“ได้ฟังคำพูดนี้ ให้ปู่อั้นเฮยทำอะไรก็คุ้มค่าแล้ว”
“ท่านปู่ ท่านหยุดเดี๋ยวนี้นะ…พวกเราหาทางกันใหม่เถอะ”
“เจ้าจงจำคำพูดข้า บนโลกนี้อย่าได้เชื่อใครนอกจากตัวเจ้าเอง เจ้าคือหัวหน้าเผ่าน้อยเพียงคนเดียวของเผ่าเทียนเฟิ่น ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเห็นแก่เผ่าเทียนเฟิ่นเป็นหลัก แบกรับภาระยิ่งใหญ่ของเผ่าเทียนเฟิ่น”
“ท่านปู่…”
เวินเส้าหยีกระวนกระวายใจยิ่ง พยายามทลายจุดให้ได้
เมื่อพลังวิญญาณถูกเผาผลาญ ร่างกายสุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยก็เปล่งดวงแสงพร่างพราวออกมา
ดวงแสงห่อหุ้มเวินเส้าหยีเป็นชั้น
แสงเจิดจ้าแยงตาจนเวินเส้าหยีแทบลืมตาไม่ขึ้น
ร่างกายสุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยที่อยู่ตรงหน้าเลือนรางไปทีละน้อย กระทั่งหายไปจากทางเข้าเหวลึกอนันต์ในท้ายสุด เหลือเพียงคำพูดย้ำประโยคหนึ่ง
“อย่าเกี่ยวข้องอะไรกับกู้ชูหน่วนอีกเลย นางอยู่คนละโลกกับเจ้า พวกเจ้าถูกลิขิตให้เป็นปรปักษ์ต่อกัน หากเจ้ายังนึกถึงปู่หยู่เย่และปู่อั้นเฮย หลังจากเจ้าฟื้นฟูวรยุทธ์แล้วก็ฆ่านางเสีย แก้แค้นให้พวกเรา”
“อ้า…”
เวินเส้าหยีโหยหวนหวีดหวิวเสียงหนึ่ง
เขาพยายามขัดขืนสุดชีวิต พลังแก่กล้าสายหนึ่งพาเขาเข้าเหวลึกอนันต์ พลังสายนั้นราวกับลมหมุนเชี่ยวกราก หมุนวนจนสมองเขามึนงงและหมดสติไปในที่สุด
ในจุดไม่ไกล กู้ชูหน่วนเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่ทั้งหมด
นางหาพวกเขาไม่พบ ครั้นสมองฉุกคิดก็นึกถึงจุดที่อันตรายที่สุด บางทีนั่นอาจเป็นจุดที่ปลอดภัยที่สุด ดังนั้นนางจึงมาที่เหวลึกอนันต์ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเห็นสุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยเผาผลาญพลังวิญญาณช่วยเวินเส้าหยีออกจากเผ่าหยกพอดี
ตอนนี้นางว้าวุ่นใจนัก
อั้นเฮยและหยู่เย่โหดเหี้ยมทารุณกับเผ่าหยกยิ่ง แต่ต้องพูดว่าพวกเขาดีกับเวินเส้าหยีจากใจจริง
อั้นเฮยกล่าวถูกต้อง
ชาตินี้นางถูกลิขิตให้เป็นปรปักษ์กับเวินเส้าหยี ความแค้นระหว่างพวกเขาถ่ายทอดมานานนม ไม่สามารถคลี่คลายให้สลายไปได้
หลังจากผ่านเรื่องราวมากมาย บางทีการเจอกันครั้งหน้านางคงกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของเวินเส้าหยีไปแล้ว
กู้ชูหน่วนหัวเราะเยาะ
ไหนเลยยังจะมีการพบครั้งต่อไปอะไรอีก
การพบพานในคราวหน้า บางทีนางอาจไปเจอยมบาลแล้ว