อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 844 ไม้ตาย
“ครืน……”
พื้นดินล้วนสั่นไหว ราวกับมีกองกำลังนับพันวิ่งมุ่งมา
“ปังปังปัง…….”
กลางฟากฟ้ามีดอกบัวหิมะปะทุออกเจ็ดดอก ดอกหนึ่งงดงามแวววับจับตากว่าอีกดอกหนึ่ง
จากการที่ดอกบัวหิมะระเบิดออก กลางนภาก็มีดอกบัวหิมะขนาดมหึมาลอยมาทีละดอกๆ
ไม่…..
นั่นไม่ใช่ดอกบัวหิมะ
แต่เป็นร่มดอกบัว
และเบื้องล่างของร่มดอกบัวก็เป็นหญิงสาวที่งดงามไร้ที่เปรียบผู้หนึ่ง
บรรดาหญิงสาวทั้งหมดสวมชุดสีขาวทั้งตัวแบบเดียวกัน รูปร่างอรชร โค้งเว้ามีเสน่ห์ รัศมีเทพเซียนลอยละล่อง ราวกับเทพนารีแห่งเก้าสวรรค์ลงมาจุติ งดงามจนหาที่เปรียบมิได้
ประกอบกับดวงตาอันทรงเสน่ห์ของพวกนาง ลูกศิษย์จำนวนไม่น้อยมองจนตะลึงไปตามๆกัน
พวกนางมาด้วยร่มดอกบัว ทุกที่ที่ผ่าน ยังไม่เห็นแม้กระทั่งว่าพวกนางลงมืออย่างไร ลูกศิษย์ของรองหัวหน้าเผ่าซือคงทางนี้ก็ล้มลงไปทีละคนๆแล้ว
ในฝูงชนไม่รู้ว่าผู้ใดตะโกนเสียงดังออกมาเสียงหนึ่ง
“อย่ามองที่ดวงตาของพวกนาง นั่นเป็นวิชาเสน่ห์ รีบ ปิดตาลง”
ผู้หญิงที่งดงามขนาดนี้ ผู้ชายทั่วไปจะตัดใจปิดตาลงได้อย่างไร
มีลูกศิษย์บางส่วนที่ปิดตาลงในทันที ทว่าก็ไม่ทันแล้ว แต่ละคนล้วนล้มลงไปอย่างหาสาเหตุไม่ได้ เหมือนตายทั้งเป็น
ลูกศิษย์มากมายตกหลุมพราง สุดยอดผู้อาวุโสตงหลิงและรองผู้อาวุโสซือคงจึงคลุมตาข่ายขนาดมหึมาอันหนึ่ง ตาข่ายขนาดใหญ่เปล่งแสงสว่างจ้าละลานตา บังคับให้เหล่าลูกศิษย์ไม่สามารถลืมตาได้ ทำได้เพียงปิดตาทั้งคู่ของตัวเองไว้ด้วยความเจ็บปวด
“วิชาเสน่ห์ไม่ได้หายไปหลายร้อยปีแล้วหรือ? ทำไมจึงปรากฏขึ้นที่นี่ได้?”
“ไม่รู้สิ ผู้หญิงเหล่านี้มาจากที่ไหน? ดูเหมือนว่าพวกนางจะไม่ใช่คนของเผ่าเทียนเฟิ่น”
“รองหัวหน้าเผ่า แย่แล้วเกิดเรื่องใหญ่แล้ว ผู้หญิงเหล่านี้ทุกคนเชี่ยวชาญการใช้ยาพิษ บรรดาลูกศิษย์มากมายล้วนถูกผงยาพิษของพวกนางทำร้ายเข้าแล้ว”
รองหัวหน้าเผ่าซือคงโกรธจัด เขาโบกมือทันที สั่งให้นักธนูยิงสอยผู้หญิงเหล่านี้ก่อน
ฉึบฉึบฉับ……
ฝนธนูเปลี่ยนทิศทาง ยิงไปทางผู้หญิงเหล่านั้นอย่างหนาแน่น
ทันทีที่พวกผู้หญิงหมุนร่มดอกบัว ก็ไม่รู้ว่าร่มดอกบัวเหล่านั้นทำจากวัสดุอะไร คิดไม่ถึงว่าจะสามารถฝืนขวางกั้นฝนลูกธนูไว้ได้ ไม่เพียงแต่ขวางกั้นไว้ได้เท่านั้น พวกนางยังเริงระบำอยู่กลางอากาศ และปากก็ส่งเสียงหัวเราะคิกคักออกมาอีก
เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของพวกนาง ลูกศิษย์ของรองหัวหน้าเผ่าซือคงทางนั้น ก็ปิดหูไว้ด้วยความเจ็บปวดอย่างไม่ทราบสาเหตุ แต่ละคนเลือดไหลออกปากออกจมูก เจ็บปวดจนร้องครวญคราง
ที่ตามมาพร้อมกับพวกนาง ยังมีเหล่าทหารที่สวมชุดเกราะสีเงิน แต่ละคนมือถือปืนโลหะเงิน ที่หน้าก็สวมหน้ากากสีเงิน
ทหารเหล่านี้แต่ละคนล้วนขี่ม้าศึก แรงสังหารดุดัน ความดุร้ายหนักแน่น ราวกับเป็นปีศาจอสุรกายที่ปีนขึ้นมาจากขุมนรกเช่นนั้น
อำนาจความเย็นยะเยือกบนตัวของพวกเขารุนแรงเกินไป อีกทั้งดวงตาของแต่ละคนก็ดูลึกล้ำ เพียงแค่มองแวบเดียวก็รู้ว่าคนเหล่านี้ล้วนเป็นยอดฝีมือ ต่อกรด้วยไม่ง่ายอย่างแน่นอน
ที่ยากยิ่งกว่าก็คือ พวกเขามีกำลังคนเกือบจะหลายพันคนเลยทีเดียว
ทันทีที่คนเหล่านี้ออกมา ก็ล้อมรอบรองหัวหน้าเผ่าซือคงและคนอื่นๆไว้แล้ว
พวกเขาไม่ได้ฆ่าคน ราวกับว่ากำลังรอคำสั่งของเวินเส้าหยีอยู่
เพียงแค่คำเดียวของเวินเส้าหยี พวกเขาก็จะเข้าสังหารทุกทิศทางทันที
รองหัวหน้าเผ่าซือคงหัวเราะด้วยความเย็นชาอย่างอดไม่ได้ “ดี ที่แท้เจ้าก็ซ่องไม้ตายไว้มากมายได้ถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้ข้าประเมินเจ้าต่ำไปแล้วจริงๆ”
“พวกเขามีไว้ต่อกรกับคนภายนอก เส้าหยีไม่เคยคิดมาก่อนว่าวันหนึ่งจะต้องเอามาใช้ต่อกรกับคนของตัวเอง”
“เกรงว่าเจ้าคงจะเตรียมการก่อกบฏยึดอำนาจไว้ล่วงหน้ามานานแล้วสินะ ดังนั้นจึงได้แอบปลูกฝังยอดฝีมือไว้มากขนาดนี้”
“รองหัวหน้าเผ่า เพียงแค่ท่านยอมถอนกำลังทหารสงบศึก สงครามสนามนี้ก็จะเลี่ยงไปได้ในทันที หากว่าท่านยังคงดึงดัน ข้าก็ทำได้เพียงสู้ด้วยจนถึงที่สุดแล้ว”
ในเผ่าหยก เขาเห็นลูกศิษย์มากมายมากมายเกินไปที่เสียชีวิตไปกับตาตัวเองเพราะต้องการปกป้องเขา
ตอนนี้…..
เขาไม่สามารถมองดูลูกศิษย์ที่ซื่อสัตย์ภักดีเสียชีวิตไปเพื่อที่จะปกป้องเขาอย่างนิ่งเฉยได้อีก
เขาไม่ทำเพื่อตัวเอง
แต่ทำเพียงเพื่อคนในเผ่าที่กล้าหาญและภักดีทั้งหมด
ด้วยเหตุนี้……แม้ว่าเขาจะสูญเสียวิทยายุทธ ก็ต้องพยายามที่จะคุ้มครองพวกเขาไว้อย่างสุดความสามารถ