“ฟู่ว….”
“ปัง…..”
กลางอากาศ เงาร่างสองร่างกระแทกลงมา กั้นน่าหลันหลิงลั่วออกจากเวินเส้าหยีพอดี
หนึ่งในนั้นคือสุดยอดผู้อาวุโสซ่งหยวน เขากำลังจะหมดลม บางจนแทบมองไม่เห็นเงาคน ลมปราณบนร่างกายก็เกือบจะว่างเปล่า
ไม่รู้ว่าเวินเส้าหยีเอาความแข็งแรงมาจากไหนสะบัดหลุดจากพันธนาการของลูกน้อง พุ่งเข้าไปข้างกายของซ่งหยวน
เขาประคองซ่งหยวนขึ้น แต่ร่างกายที่เขาสัมผัสได้กลับเป็นความโปร่งใส
“ปู่ซ่ง….”
ซ่งหยวนยื่นมือไปเช็ดเลือดที่มุมปาก คิดจะดิ้นรนลุกขึ้นมา แต่ทำอะไรไม่ได้แรงไม่พอ ก็ยังคงล้มไปแล้ว
เขามองไปที่รองหัวหน้าเผ่าซือคงที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเข้าขั้นอันตรายเหมือนกันด้วยความผิดหวัง กล่าวด้วยความไม่ยินยอม
“ขาดไปเพียงกระบวนท่าเดียว ขาดเพียงแค่กระบวนท่าเดียวเท่านั้น ข้าก็จะสามารถฆ่าเขาได้แล้ว”
แต่ร่างกายของเขากลับยืนหยัดต่อไปไม่ไหว
สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรมจริงๆ
ที่ให้คนชั่วช้าสามานย์เช่นเขานี้ยังสามารถโลดเต้นอยู่บนโลกต่อไปได้
“ปู่ซ่ง ท่านบอกข้า ข้าต้องทำอย่างไรจึงจะสามารถช่วยท่านได้?”
เวินเส้าหยีทำอะไรไม่ถูกจนปัญญา เหมือนกับตอนที่อยู่ในเหวลึกอนันต์เช่นนั้น
เมื่อได้ยินคำพูดของเวินเส้าหยี แววตาของซ่งหยวนก็อ่อนโยนลง เขาเอื้อมมือไปคิดจะสัมผัสเวินเส้าหยี แต่สิ่งที่สัมผัสได้คือความโปร่งใส
ในคำพูดของซ่งหยวนมีความขมขื่นเล็กน้อย แต่ในคำพูดกลับไม่ได้เป็นอะไร
“ปู่ซ่งแก่แล้วล่ะ มีชีวิตอยู่มามากกว่าร้อยปีแล้ว ควรจะตายไปนานแล้ว สามารถอยู่ได้นานขนาดนี้ ก็ถือว่าสวรรค์เมตตาแล้ว เจ้าหนูเส้าหยีเจ้าอย่าเศร้าไปเลย เจ้ารู้หรือไม่ตั้งแต่เด็กจนโต ปู่ซ่งกลัวที่สุดก็คือการเห็นเจ้าเสียใจ”
“จะเป็นลูกชายแท้ๆของหัวหน้าเผ่าหรือไม่ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือ เจ้าก็คือเจ้า เจ้าคือเจ้าหนูเส้าหยีที่สง่างามมีจิตใจเมตตาผู้นั้น”
“จำไว้ ตำแหน่งหัวหน้าเผ่าพวกเราไม่เป็นก็ได้ แต่พวกเราห้ามให้ใครมารังแก ใครกล้ารังแกเจ้า เจ้าก็ต่อยเขาไป ต่อยไปแรงๆ”
“ปู่ซ่ง ท่านอย่าพูดเรื่องพวกนี้อีกเลย บอกข้ามาก่อน ว่าข้าต้องทำอย่างไรจึงจะช่วยท่านได้?”
“ช่วยไม่ได้แล้วล่ะ เกรงว่าข้าคงจะไม่มีทางอยู่เป็นเพื่อนเจ้าได้อีกแล้ว เด็กน้อย อย่าได้เสียใจไปเลย แม้ว่าดวงจิตวิญญาณของปู่ซ่งจะแตกสลายแต่ความคิดก็ยังจะอยู่กับเจ้าตลอดไป”
“กระดูกสะบักของเจ้าจะต้องต่อได้แน่ ข้าเชื่อ เจ้าเป็นคนดีขนาดนี้ สวรรค์คงจะไม่ใจร้ายกับเจ้านักหรอก”
“ปู่ซ่ง……”
“อย่าร้อง เจ้าหนูเส้าหยี ผู้น่าสงสารของข้า เป็นข้าที่ไร้ความสามารถ ไม่สามารถช่วยเจ้าบุกฝ่าออกไปได้ ข้าไม่ยอม ไม่ยอม…..”
“หากข้าตายแล้ว เจ้าอยู่อย่างโดดเดี่ยวเพียงลำพัง จะทำอย่างไร จะทำอย่างไร ฟู่ว……”
ไม่รู้ว่าเพราะตระหนกเกินไปหรือไม่ หรือเพราะพลังชีวิตทั้งหมดโดนเผาไหม้ไปหมดแล้ว ซ่งหยวนกระอักเลือกออกมา ร่างกายเปลี่ยนเป็นแสงสว่างเป็นจุดๆ หายไปอย่างไร้ร่องรอย
“ท่านปู่ซ่งหยวน…..”
เวินเส้าหยีพยายามคว้าไว้ แต่ก็คว้าอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงคุกเข่าลงไปด้วยความห่อเหี่ยวใจ
ในเผ่าหยก สุดยอดผู้อาวุโสทั้งสี่เสียชีวิตไปตามๆกัน ลูกศิษย์หลายพันคนถูกกู้ชูหน่วนและคนอื่นๆสังหาร
ในเผ่าเทียนเฟิ่น ลูกศิษย์หลายพันหมื่นคนถูกซือคงและน่าหลันสังหาร แต่ละเรื่องราวจารึกอยู่ในสมองอย่างชัดเจน
และคนเหล่านี้ ล้วนทำเพียงเพื่อปกป้องเขาผู้เดียว
บนร่างกายของเขาแบกรับความหนักหน่วงถึงแก่ชีวิตไว้มากมายมากมายเกินไป
ในอดีต เขาคิดว่าตราบใดที่เขาปฏิบัติต่อผู้คนด้วยความจริงใจ สุภาพอ่อนโยน ก็จะต้องใช้ความดีเปลี่ยนความแค้นได้แน่ จะต้องทำให้โลกนี้งดงามยิ่งขึ้นได้แน่
ตอนนี้มองไปรอบๆ
เขาคิดผิดแล้ว
ผิดพลาดไปอย่างใหญ่หลวง
โลกใบนี้เป็นโลกกินคน
เพียงแค่ตัวเองแข็งแกร่งเพียงพอเท่านั้น จึงจะไม่ถูกรังแก
เพียงแค่ตัวเองแข็งแกร่งเพียงพอเท่านั้น จึงจะสามารถปกป้องคนที่ตัวเองต้องการปกป้องได้
ไม่ว่าเจ้าจะใจดีมีเมตตาเพียงใดคนอื่นก็จะคิดบัญชีกับเจ้า
และตอนนี้ กระดูกสะบักของเขาถูกดึง…..
เผ่าเทียนเฟิ่นก็กำลังเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่ที่สุดในรอบพันปี
เขาไม่มีไพ่อะไรเหลือที่จะสามารถพลิกตัวได้อีก
ทำได้เพียง……ตายไปพร้อมกับพวกเขา……