อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 847 ทำไมหุบเขาตันหุยถึงได้เข้าช่วย?
กู้ชูหน่วนออกจากถ้ำ ยืนดูอยู่บนที่สูง ชำเลืองมองลงไป แสงไฟของเผ่าเทียนเฟิ่นที่ยิ่งใหญ่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า มีเงาคนฆ่าฟันกันอยู่ทั่วทุกหัวระแหง
ในนั้นที่ตำหนักเทียนตูดุเดือดเป็นที่สุด
สงครามมาถึงจุดนี้แล้ว เชื่อว่าไม่ช้าก็จะสามารถจบลงได้แล้ว
กู้ชูหน่วนยืนอยู่ที่ปากถ้ำตลอด สามวันเต็มๆ สังเกตการณ์ทุกความเคลื่อนไหวทุกย่างก้าวของเผ่าเทียนเฟิ่น
แสงไฟเริ่มแรกจากรุนแรงที่สุด จนตอนนี้ค่อยๆน้อยลงไปเรื่อยๆแล้ว
หลายสถานที่ในนั้นก็มองไม่เห็นไฟสงครามแล้ว นอกจากตำหนักเทียนตู ที่นั่นเปลวไฟเผาไหม้อย่างยิ่งใหญ่ ต่อเนื่องกันสามวันสามคืนเต็มๆ
หากยังคงเผาไหม้ต่อไปเช่นนี้ เกรงว่าทั้งตำหนักเทียนตูก็คงจะถูกเผาเป็นเถ้าถ่านแล้ว
สามวันที่ผ่านมานี้ในจิตใจของกู้ชูหน่วนยังคงมีความกังวลอยู่ไม่สิ้นสุด
กลัวว่าเวินเส้าหยีที่ไม่มีแรงสู้นั้นจะถูกรองหัวหน้าเผ่าซือคงผู้โหดเหี้ยมอำมหิตสังหาร
“รายงาน……นายหญิง ไม่รู้ว่ารองหัวหน้าเผ่าซือคงเกณฑ์นักฆ่าฝีมือดีกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งมาจากที่ไหน ได้ทำการควบคุมเผ่าเทียนเฟิ่นไว้ทั้งหมดแล้วขอรับ”
นักฆ่า?
สำนักวิญญาณมืด?
สำนักวิญญาณมืดไม่ได้ถูกนางทำลายล้างไปแล้วหรือ?
นักฆ่าที่เหลือทั้งหมดก็ตายอยู่ที่จวนแม่ทัพหมดแล้ว ยังจะมีคนมากมายขนาดนั้นอีกได้อย่างไร?
ก้มหน้าชำเลืองมองไป ตำหนักเทียนตูรวมถึงอีกหลายๆที่ของเผ่าเทียนเฟิ่นล้วนมีคนชุดดำวิ่งพรวดไปมาหนาแน่นไปหมด แค่มองดูก็รู้แล้วว่าจำนวนคนไม่น้อยเลย
“เรียนนายหญิง สำนักวิญญาณมืดถูกทำลายล้างไปหมดแล้วจริง แต่นอกจากสำนักวิญญาณมืดแล้ว ก็ยังมีองค์กรนักฆ่าอีกองค์กรหนึ่งชื่อว่าสำนักดาราวิกาล สำนักดาราวิกาลก็คือกองกำลังที่ไอแก่ชั่วซือคงบ่มเพาะขึ้นมาเองกับมือ เพียงแต่โดยปกติแล้วสำนักดาราวิกาลปรากฏตัวในยุทธภพน้อยมาก ด้วยเหตุนี้คนส่วนมากในยุทธภพจึงไม่รู้จัก”
“ครั้งนี้นอกจากสำนักดาราวิกาลแล้ว ไอแก่ชั่วซือคงยังได้ร่วมมือกับหุบเขาตันหุยอีกด้วย และไม่รู้ว่าพวกเขาเอื้อประโยชน์อะไรให้หุบเขาตันหุยบ้าง หุบเขาตันหุยที่ยิ่งใหญ่ถึงได้เคลื่อนลูกศิษย์ทั้งหมดของหุบเขาออกมา ทุ่มเทกำลังทุกอย่างช่วยเหลือไอแก่ชั่วซือคง”
“ไม่เพียงแค่นี้ หุบเขาตันหุยยังได้เอายาฉุนตานของหุบเขาที่มีอายุหลายร้อยมีไปให้ไอแก่ชั่วซือคงทั้งหมดอีก ทำให้ศักยภาพของไอแก่ชั่วซือคงเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก”
หุบเขาตันหุย?
กู้ชูหน่วนงงงันเล็กน้อย
จากที่นางรู้ เจ้าหุบเขาของหุบเขาตันหุยไม่ได้มีความประสงค์ที่จะเข้าแทรกแซงกับเรื่องใดๆในยุทธภพ คิดเพียงแต่จะเอาตัวรอดเท่านั้น
ช่วยเหลือไอแก่ชั่วซือคงแล้ว ก็เท่ากับเป็นศัตรูกับหอหนึ่งในหล้า สำนักอสุรา เผ่าหยก เผ่าน้ำแข็งและหน่วยต่างๆของพวกเขา เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าหุบเขาตันหุยจะบุ่มบ่ามเช่นนี้เด็ดขาด
และน่าหลันหลิงลั่วก็มีการผูกสัมพันธ์กับนางอยู่บ้างเล็กน้อย เป็นศัตรูกับพวกนางไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับพวกเขาสักนิด
ในนั้นจะต้องมีแผนการเป็นแน่
“เวินเส้าหยีล่ะ?” กู้ชูหน่วนกล่าว
“ยังถูกกักอยู่ที่ตำหนักเทียนตู ฝ่าออกไปไม่ได้ ลูกน้องได้รับบาดเจ็บล้มตายแสนสาหัส น่าจะฝืนอยู่ได้ไม่นานแล้ว….”
บรรดาผู้คนของเผ่าหยกดีอกดีใจกับความโชคร้ายนี้
มีเพียงบนใบหน้าของกู้ชูหน่วนที่ไม่ได้มีความยินดียินร้ายใดๆ
นางเพ่งมองไปทางตำหนักเทียนตูอยู่นาน ริมฝีปากบางๆขยับเล็กน้อย กล่าวเบาๆ “เสี่ยวลู่ เจ้าตามข้าไปที่ตำหนักเทียนตูรอบหนึ่ง”
ผู้อาวุโสของเผ่าหยกก็มาแล้ว ได้ยินคำพูดนี้ของนาง จึงเอ่ยถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ “หัวหน้าเผ่า ท่านจะไปทำอะไรที่ตำหนักเทียนตู ตรงนั้นเป็นที่ที่วุ่นวายที่สุดของเผ่าเทียนเฟิ่น พวกเขาไม่ว่าใครจะแพ้ชนะ ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา รอให้ผลออกมาพวกเราค่อยไปก็ไม่สาย”
“ข้าเป็นหัวหน้าเผ่า หรือว่าท่านเป็นหัวหน้าเผ่า”
“ขอรับ……” เหล่าผู้อาวุโสไม่กล้าพูดมาก ทำได้เพียงถอยไปด้วยความโกรธเคือง
กู้ชูหน่วนและเสี่ยวลู่แปลงโฉมไปเป็นลักษณะที่อัปลักษณ์ในเดิมที อาศัยความชำนาญในวิชาตัวเบารวมทั้งตัวตนพิเศษ ตลอดทางที่มาถึงตำหนักเทียนตูก็ราบรื่นไร้อุปสรรค
ทั่วทุกที่ของเผ่าเทียนเฟิ่นเต็มไปด้วยซากศพ เลือดไหลนองเป็นแม่น้ำ เทียบกับสถานการณ์อันน่าอนาถของเผ่าหยกวันนั้นก็มีเพียงคำว่ามากกว่า
ตำหนักเทียนตูถูกล้อมรอบไว้ด้านในสามชั้นด้านนอกสามชั้น จนพวกเขาก็ไม่สามารถเข้าไปได้ ทำได้เพียงหลบอยู่ด้านนอกแล้วชำเลืองมองดูสถานการณ์ภายใน
กู้ชูหน่วนมองดูเวินเส้าหยีและคนอื่นๆล้มเหลวในการฝ่าวงล้อมอีกครั้งผ่านประตูที่กั้นไว้ และขอบเขตก็เริ่มแคบลงเรื่อยๆ
บทที่ 846 เวินเส้าหยีพ่ายแพ้
บทที่ 848 ไม่อยากจะเชื่อ