“ไอ้คนชั่วช้าพวกนี้ หากวันนี้ข้าไม่จัดการสะสางเรื่องในเผ่าแทนหัวหน้าเผ่า ข้าก็ไม่คู่ควรที่จะเป็นรองหัวหน้าเผ่าของเผ่าเทียนเฟิ่น ฆ่า…..”
คำว่าฆ่าคำหนึ่งนี้ของรองหัวหน้าเผ่าซือคง พูดได้อย่างราบรื่นคล่องปาก ไม่เป็นห่วงชีวิตของลูกศิษย์ใต้บังคับบัญชาแม้แต่น้อย จิตใจคิดเพียงแต่จะโค่นล้มเวินเส้าหยีและคนอื่นๆเท่านั้น
เดิมทีเขาก็มีพวกเยอะอยู่แล้ว แล้วบวกกับคนสนิทของเขาที่ได้ย้ายเพิ่มเข้ามาอีกมากมายหลายคน ตำหนักเฉินอวี่ที่กว้างโล่ง เวลานี้หนาแน่นเต็มไปด้วยผู้คน คึกคักอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ดวงตาของเวินเส้าหยีฉายแสงแห่งความเจ็บปวด
มือที่ยกขึ้นของเขาไม่ได้ปล่อยวางมาสักที จนกองกำลังของรองหัวหน้าเผ่าซือคงพุ่งสังหารเข้ามาแล้ว เขาถูกบังคับจนต้องกัดฟัน ทำสัญญาณปล่อยมือลง
ทำสัญญาณเอามือลง เท่ากับเริ่มการทำสงคราม
“ตูมตาม……”
อำนาจความดุดันของคนเกราะเงินขี่ม้าศึกจำนวนนับพันหมื่นถาโถมเข้ามา ปืนหนึ่งนัดของพวกเขาเข้าไป คนก็กระเด็นไปหนึ่งคน
เผ่าเทียนเฟิ่นที่ยิ่งใหญ่นี้กลับมีไม่กี่คนที่จะสามารถต้านทานพลม้าของพวกเขาได้
พวกเขาได้รับการฝึกฝนมาอย่างถูกต้อง เดี๋ยวเป็นค่ายกลสี่เหลี่ยม เดี๋ยวเป็นค่ายกลรูปงู เดี๋ยวเป็นค่ายกลจักรวาล เดี๋ยวก็เป็นค่ายกลสองลักษณ์ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ทำให้คนป้องกันไม่ทัน และกองกำลังเกราะเงินทุกคนล้วนร่วมมือกันได้อย่างลงตัว โจมตีได้อย่างมีระดับ พริบตาเดียวฝั่งของรองหัวหน้าเผ่าซือคงก็ถูกโจมตีจนวุ่นวายยับเยิน
โชคดีที่ แม้พวกเขาจะทำร้ายคนทางฝั่งของรองหัวหน้าเผ่าซือคงอย่างสาหัส แต่กลับมีความเมตตา ไม่ได้เอาชีวิตของพวกเขาไปโดยตรง
หญิงสาวที่งดงามไร้ที่เปรียบอยู่ด้านบน กองทัพเกราะเงินอยู่ด้านล่าง ขนาบโจมตีทั้งสองด้าน ฝั่งของรองหัวหน้าเผ่าซือคงก็ปรากฏสถานการณ์ความพ่ายแพ้ออกมาแล้ว
สุดยอดผู้อาวุโสซ่งหยวนและคนอื่นๆดูจนอึ้งไปแล้ว
เวินเส้าหยีที่พวกเขาเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก เขาเลี้ยงดูปลูกฝังกองกำลังที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ พวกเขากลับไม่รู้ด้วยซ้ำ
คนเหล่านี้อยู่ในเผ่าเทียนเฟิ่น พวกเขาก็ไม่เคยเห็นมาก่อน…….
ไม่ใช่ว่าเผ่าเทียนเฟิ่นไม่อนุญาตให้บ่มเพาะกองกำลังเป็นการส่วนตัวหรือ?
ไม่……
กฎของเผ่าเทียนเฟิ่นคือ นอกจากหัวหน้าเผ่าและหัวหน้าเผ่าน้อยแล้ว ทุกคนก็ล้วนห้ามฝึกอบรมกองกำลัง
เขาเป็นหัวหน้าเผ่าน้อย เป็นข้อยกเว้น ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ละเมิดกฎของเผ่า
สามารถฝึกฝนบ่มเพาะผู้ใต้บังคับบัญชาชั้นยอดขนาดนี้ได้ สมกับเป็นคนที่เขาเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจริงๆ
สุดยอดผู้อาวุโสซ่งหยวนปลื้มใจ
แม้จะไม่มีตาเฒ่าเช่นพวกเขาเหล่านี้ เจ้าหนูเส้าหยีก็มีผู้คนอีกมากมายคอยปกป้อง คิดว่าคงจะไม่มีผู้ใดที่จะทำร้ายเขาได้แล้ว
กู้ชูหน่วนพยายามซ่อนตัวอยู่ให้ไกลที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดึงเข้าไปมีส่วนร่วมในสงคราม และเลี่ยงไม่ให้พวกเขาสังเกตเห็น
จากคนเหล่านี้ที่เวินเส้าหยีบ่มเพาะมา หากพวกเขาปรากฏตัวในสงครามที่เผ่าหยกวันนั้น ก็ไม่รู้ว่าเผ่าหยกจะมีคนบาดเจ็บล้มตายไปมากน้อยเท่าไหร่
ถ้ารองหัวหน้าเผ่าซือคงไม่ได้ข่มเหงกดขี่กันเกินไปในวันนี้ คาดว่าไม้ตายของเวินเส้าหยีก็คงจะไม่ได้เอาออกมาอีกตลอดไป
เวินเส้าหยีแอบซ่องสุมกองกำลังลับๆ แล้วรองหัวหน้าเผ่าซือคงจะไม่ได้แอบบ่มเพาะกองกำลังอย่างลับๆได้อย่างไร
ในศึกวันนี้ พวกเขาทั้งคู่จะต้องมีฝ่ายชนะอย่างแน่นอน
ฝ่ายที่ชนะจะสามารถปกครองทั้งเผ่าเทียนเฟิ่นได้ เกรงว่ารองหัวหน้าเผ่าซือคงก็คงจะเคลื่อนกองกำลังลับที่เขาอบรมบ่มเพาะออกมาเป็นแน่
เป็นดังคาด……
ไม่รู้ว่ารองหัวหน้าเผ่าซือคงทำอย่างไร ในสถานที่ไกลๆคนกลุ่มใหญ่เข้ามาด้วยท่าทางอันโหดเหี้ยมอีกกลุ่มหนึ่ง แม้ว่าคนพวกนี้จะสวมชุดของลูกศิษย์เผ่าเทียนเฟิ่น แต่พวกเขาทั้งหมดล้วนมีแรงสังหารที่น่าเกรงขาม เห็นคนก็ฆ่า แววตาเย็นชาดั่งดาบอันแหลมคม แค่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่ศิษย์ที่แท้จริงของเผ่าเทียนเฟิ่น
บนพื้นไม่รู้ว่ามีลูกศิษย์ที่ถูกทำร้ายให้บาดเจ็บไปมากมายเท่าไหร่ และไม่รู้ว่ามีลูกศิษย์ถูกฆ่าไม่มากมายเพียงใด เลือดสีแดงสดรวมเข้าด้วยกันอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์น่ารันทดสยดสยอง
สงครามยังคงดำเนินต่อไป ทั้งเผ่าเทียนเฟิ่นตกอยู่ในสงครามภายใน
กู้ชูหน่วนถอนตัวออกมาทันเวลา มาถึงถ้ำเล็กๆแห่งหนึ่ง
ในถ้ำเล็กๆ เสี่ยวลู่และคนอื่นๆกำลังรออยู่ที่นั่นแล้ว
“นายหญิง ตามคำสั่งของท่านสร้างปัญหาเสริมไปนิดหน่อยให้เผ่าเทียนเฟิ่น ตอนนี้ภายในของเผ่าเทียนเฟิ่นวุ่นวายไปหมดทุกหัวระแหง พวกเราจะฉวยโอกาสตอนนี้จัดการพวกเขาให้สิ้นซากไปในคราเดียวเลยหรือไม่”
“รีบอะไร รอให้พวกเขาตีกันให้จบซะก่อน ยังไม่รู้เลยว่าเผ่าเทียนเฟิ่นยังจะมีพวกตาแก่หนังเหนียวที่เข้าฌานอยู่อีกหรือไม่”