อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่887 คลายผนึก
“อาหน่วนอยู่ไหน?”
เย่จิ่งหานกระชากตัวสุดยอดผู้อาวุโสขึ้นมา แล้วถามด้วยสีหน้าร้อนรนใจ
สุดยอดผู้อาวุโสหายใจหอบ พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงว่า “อยู่ที่หุบเขาเจวี๋ยเฟิง เผ่าเทียนเฟิ่นมีสุดยอดผู้อาวุโสคนหนึ่งที่จำศีลภาวนาถึงขั้นสูงสุดระดับเจ็ด เขาจำศีลออกมา เห็นเผ่าเทียนเฟิ่นถูกทำลายจนพังพินาศ เขาโกรธมาก จึงบุกเข้ามาโจมตีเผ่าหยก อาหน่วน…อาหน่วนกำลังต่อสู้กับเขาอยู่”
เย่จิ่งหานกับพวกผู้อาวุโสหกก็ถึงโล่งอก
นางยังไม่ได้เริ่มสังเวย แสดงว่านางยังมีชีวิตอยู่
ไม่นาน พวกเขาก็เริ่มกังวลขึ้นมาอีกครั้ง ระดับสี่สู้กับระดับเจ็ด ก็เหมือนกับไข่เจอกับหิน
เย่จิ่งหานพวกเขารีบวิ่งไปที่หุบเขาเจวี๋ยเฟิง
จอมมารพูดอย่างตกตะลึงว่า “คนระดับเจ็ดไม่ใช่เผ่าหยกเหรอ? งั้นพี่สาวก็มีอันตรายน่ะสิ นี่! เย่จิ่งหาน เจ้ารอข้าด้วย ข้าไม่รู้ทางไปหุบเขาเจวี๋ยเฟิง”
สุดยอดผู้อาวุโสพยายามลุกขึ้นมา อยากจะตามไปหุบเขาเจวี๋ยเฟิงด้วย แต่เขาบาดเจ็บสาหัสเกินไป
ยังดีที่ผู้อาวุโสรองมาถึง พยุงตัวเขาขึ้นมา
“เร็ว รีบพาข้าไปหุบเขาเจวี๋ยเฟิงเร็ว”
“สุดยอดผู้อาวุโส ข้าว่าท่านบาดเจ็บหนักมากเลยนะ ข้าพาท่านไปรักษาก่อนดีกว่าไหม”
“เจ้าจะรู้อะไร เผ่าหยกถูกพิษคำสาปโลหิตทรมานมานานหลายปี ชาวเผ่าน้อยลงทุกปีๆ ค่ายกลกับดักมากมายก็ไม่แข็งแกร่งเหมือนเมื่อก่อนแล้ว จัดการระดับหกพอไหว แต่จัดการกับระดับเจ็ดคงไม่ไหวหรอก”
“ถ้าข้าเดาไม่ผิด อาหน่วนอาจจะคลายผนึกออก เพื่อฆ่ายอดฝีมือระดับเจ็ดเผ่าเทียนเฟิ่นนั่น”
“ว่าไงนะ คลายผนึก? งั้นคำสาปโลหิตของหัวหน้าเผ่าจะทำยังไง?”
จะทำยังไงได้ล่ะ?
นางอยากสังเวยอยู่แล้ว ยังจะสนใจเรื่องคลายผนึกอีกเหรอ?
และเพราะเหตุนี้ เขาถึงร้อนรนกว่าเดิม
หุบเขาเจวี๋ยเฟิง ที่นี่มีกับดักมากมาย ทุกที่เต็มไปด้วยสุดยอดค่ายกล และตอนนี้นอกจากเศษซากของค่ายกลแล้ว ก็คือหลุมฝ่ามือขนาดใหญ่หลายหลุม
ต้นเมเปิลบนหุบเขาเจวี๋ยเฟิงถูกถอนออกทั้งราก ล้มระเนระนาดบนพื้น ต้นเมเปิลไม่น้อยถูกแรงพิฆาตของฝ่ามือเผา ตอนนี้ยังมีเสียงไม้แตกกรอบแกรบอยู่
รอยยิ้มบนใบหน้าของจอมมารไม่รู้ว่าหายไปเมื่อไหร่ พอเห็นฝ่ามือแต่ละที่ ดวงตาของเขาก็เบิกโพลง
“เป็นแรงพิฆาตฝ่ามือที่แข็งแกร่งจริงๆ เป็นหลุมใหญ่ขนาดนี้ ความสามารถน่าจะถึงระดับเจ็ดได้ และ…นี่เป็นการต่อสู้ระหว่างยอดฝีมือระดับเจ็ด พวกเจ้าดูสิ นี่เป็นพิฆาตฝ่ามือที่มีแรงแตกต่างกัน เผ่าหยกก็มียอดฝีมือระดับเจ็ดด้วยเหรอ?”
สีหน้าของผู้อาวุโสหกแย่ลง
“เผ่าหยกผ่านความทุกข์ทรมานมามากมาย จะมีระดับเจ็ดได้ยังไง หลายร้อยปีมานี้ ก็มีแค่…”
เฮือก…
ยังพูดไม่ทันจบ พวกเขาทุกคนก็นึกถึง ‘กู้ชูหน่วน’ พร้อมกัน
เย่จิ่งหานตะโกนอย่างไม่สนใจ “กู้ชูหน่วน เจ้าอยู่ไหน เจ้าออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ กู้ชูหน่วน…”
“พี่สาว ข้าเอาดอกพุดซ้อนทั้งภูเขามาขอพี่สาวแต่งงาน พี่สาวอย่าเป็นอะไรไปนะ”
พวกเขามีกำลังภายในที่แข็งแกร่ง เสียงก็ดัง ทั้งเผ่าหยกแทบจะได้ยินเสียงสะท้อนกลับของพวกเขากันหมด
“ตะโกนอะไร ข้ายังไม่ตาย”
เสียงไพเราะเสนาะหูดังขึ้นมาช้าๆ ทุกคนตกตะลึง
เป็นเสี่ยงของกู้ชูหน่วน
ทุกคนหันไปมองพร้อมกัน กลับเห็นสุดทางป่าต้นเมเปิลมีหญิงชุดแดงเดินมาช้าๆ
หญิงชุดแดงมีรูปโฉมสวยพริ้งจนงามล่มเมือง ผมสีดำขลับของนางปล่อยสยาย ลอยพลิ้วไปตามสายลมที่พัดผ่าน ชายกระโปรงของนางโบกพลิ้วตามสายลม บวกกับที่มีใบเมเปิลร่วงลงมา งดงามจนไม่เหมือนมนุษย์ทั่วไป
นางยังคงเป็นนางคนเดิม แต่บางทีก็ไม่เหมือนคนเดิม
เพราะบนตัวของนางมีท่าทีที่ผ่านโลกและเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปทั้งหมด
ร่างกายเบาบางจนเหมือนขนนกลอยพลิ้ว
ไม่รู้ว่าทำไม พวกเขาถึงรู้สึกว่ากู้ชูหน่วนในตอนนี้ไม่เหมือนกับนางในเมื่อก่อน
พวกเขายังรู้สึกว่านางในตอนนี้มีความลึกลับแปลกๆ
สิ่งที่ทำให้พวกเขาแปลกใจคือ ในมือนางถือหัวคนที่อาบเลือดมาด้วย