อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม – บทที่ 851 แล้วชีวิตของข้าไม่ใช่ชีวิตงั้นหรือ

บทที่ 851 แล้วชีวิตของข้าไม่ใช่ชีวิตงั้นหรือ

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 851 แล้วชีวิตของข้าไม่ใช่ชีวิตงั้นหรือ?
โจมตีขนาบข้างสองด้าน คนของเวินเส้าหยีไม่เพียงล้มไปคนแล้วคนเล่า โดยพื้นฐานแล้วก็เหมือนกับการถูกตัดฟางช่วงชีวิตไปเช่นนั้น

แม้จะเป็นเช่นนี้ พวกเขาก็ยังล้อมกันเป็นกลุ่ม พยายามคุ้มกันหัวหน้าเผ่าและสุดยอดผู้อาวุโสซ่งหยวนไว้

สุดยอดผู้อาวุโสซ่งหยวนอัดอั้นต่อเนื่องกันมาหลายวันแล้ว อัดอั้นจนถึงขีดสุดนานแล้ว ลูกศิษย์ที่ซื่อสัตย์ภักดีล้มลงไปคนแล้วคนเล่า เขาอดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วเช่นกัน

ดวงตาของซ่งหยวนเฉียบคม คิดไม่ถึงว่าจะเผาผลาญพลังแห่งจิตวิญญาณของตัวเอง เพื่อเพิ่มกำลังภายในด้วยความรวดเร็วแล้ว

พลังอันแข็งแกร่งพวยพุ่งปกคลุมทั่วทั้งตำหนักเทียนตู ทุกคนรู้สึกถูกกดดันจนอดไม่ได้แทบอยากจะหมอบลงไปที่พื้น ในใจไม่กล้ามีความคิดจะต่อต้านแม้แต่น้อย

นี่คืออำนาจความน่าเกรงขามของผู้แข็งแกร่งขั้นสูงสุดระดับหก

ทุกคนต่างพากันตกใจ

โดยเฉพาะเวินเส้าหยี

เขาเคยประสบกับภาพอันน่าเศร้าสลดของสุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยที่ได้เผาผลาญพลังแห่งจิตวิญญาณแล้วครั้งหนึ่ง สำหรับลมปราณเช่นนี้ เขาเข้าใจแจ่มแจ้งกว่าผู้ใด

“ไม่….. ปู่ซ่งหยวน อย่าเลย หยุด……”

เวินเส้าหยีตะโกนเสียงดัง คิดจะพุ่งเข้าไป แต่ก็ถูกคนของรองหัวหน้าเผ่าซือคงขวางไว้ ทำได้เพียงมองดูสุดยอดผู้อาวุโสซ่งหยวนเผาผลาญพลังแห่งจิตวิญญาณทั้งหมดเพื่อฟื้นกลับสู้ขั้นสูงสุดอีกครั้งโดยทำอะไรไม่ได้เลย

ซ่งหยวนคำรามเสียงดัง “เสือไม่แสดงอำนาจ พวกเจ้าก็คิดว่าข้าเป็นแมวป่วยงั้นหรือ? ไอ้ชั่วซือคง เจ้าน่าหลันคนใจทราม ยังมีไอ้คนเลอะเลือนตงหลิงอีก วันนี้ข้าจะฆ่าพวกเจ้าทั้งสามก่อน”

“ตูม……”

คนที่เข้าใกล้สุดยอดผู้อาวุโสซ่งหยวนล้วนถูกสะเทือนกระเด็นไป ที่ตายก็ตาย บาดเจ็บก็บาดเจ็บ ไม่รู้ว่าบนพื้นเพิ่มวิญญาณอาฆาตไปอีกมากมายเพียงใด

ลมปราณพลังนี้ทรงพลังเกินไปแล้ว แม้แต่กู้ชูหน่วยและเสี่ยวลู่ก็แทบจะถูกสะเทือนไปด้วย

“สุดยอดผู้อาวุโสซ่งหยวน คัดออกแล้ว” กู้ชูหน่วนกล่าว

เผาผลาญพลังแห่งจิตวิญญาณ ก็ยืนยันแล้วว่าคนคนนี้อยู่ไม่ไกลจากความตายแล้ว ไม่มีภัยคุกคามใดๆอีก

นี่เป็นเรื่องที่ดีสำหรับพวกนาง เผ่าหยกจะได้ไม่ต้องสิ้นเปลืองแรงและกำลังเพื่อต่อกรกับเขา

เสี่ยวลู่แทบอยากจะให้ซ่งหยวนจัดการผู้ที่แข็งแกร่งของเผ่าเทียนเฟิ่นให้หมดไปก่อนที่จะตาย

ซ่งหยวนพุ่งตรงไปที่ซือคงและคนอื่นๆ

ซือคงโบกมือ ให้เหล่าผู้อาวุโสใต้บังคับบัญชาของตัวเองและยอดฝีมือของน่าหลันหลิงลั่วเข้าไปสกัดกั้นสุดยอดผู้อาวุโสซ่งหยวนไว้ก่อน

ผู้ใต้บังคับของเข้าขึ้นหน้าไปแล้ว เสียดายตรงความต่างของศักยภาพ พวกเขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของซ่งหยวนที่อยู่ภายใต้ความโกรธได้อย่างไร

และลูกน้องของน่าหลันหลิงลั่วก็ไม่ได้เข้าไปด้วย แต่ยืนอยู่สองฝั่ง มองดูสงครามด้วยความเย็นชา

“ปังปังปังปัง…….”

ผู้อาวุโสคนแล้วคนเล่าของเผ่าเทียนเฟิ่นกระอักเลือดแล้วล้มลงไปกับพื้น

ดวงตาทั้งคู่ของสุดยอดผู้อาวุโสซ่งหยวนแดงก่ำราวกับฆ่าจนเสียสติไปแล้วเช่นนั้น ปากก็บ่นพร่ำ “พวกเจ้าช่วยเหลือไอ้ชั่วซือคง เข่นฆ่าพวกเดียวกัน แม้แต่เด็กผู้หญิงคนชราก็ไม่เว้น พวกเจ้าทุกคนสมควรตาย”

“ไม่……ปู่ซ่งหยวน ท่านรีบหยุดเดี๋ยวนี้”

มือสองข้างของเวินเส้าหยีถูกมัด เขาพยายามตะโกนอย่างสุดกำลัง

เขารู้ว่าทุกๆวินาทีที่เผาผลาญ พลังชีวิตของเขาก็จะต้องสูญสิ้นไปหลายปี

หากเผาผลาญเช่นนี้ต่อไป เขาก็จะไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้เกิดใหม่ด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงการมีชีวิตรอดแล้ว

ซ่งอวี่เป็นหลานชายแท้ๆของสุดยอดผู้อาวุโสซ่งหยวน เมื่อเห็นปู่ของตัวเองเผาไหม้พลังแห่งจิตวิญญาณต่อหน้าต่อตา จิตใจของเขาก็เป็นทุกข์เช่นกัน แต่สิ่งที่เขาทำได้ก็เพียงแค่พุ่งฝ่าฟันออกไป ร่วมมือกับซ่งหยวน พาหัวหน้าเผ่าและหัวหน้าเผ่าน้อยออกไปเท่านั้น

รองหัวหน้าเผ่าซือคงผลักคนที่อยู่ข้างๆออกไปทีละคนๆ “ไป สกัดกั้นตาแก่หนังเหนียวนั่นไว้”

เข้าไปก็คือความตาย เหล่าผู้อาวุโสเหล่านั้นจะกล้าเข้าไปที่ไหน

แต่ก็ไม่สามารถฝ่าฝืนคำสั่งรองหัวหน้าเผ่าซือคงได้ เมื่อขัดขืน หากไม่ถูกเขาสังหาร ก็จะถูกเขาคิดบัญชี พวกเขาทำได้เพียงจำใจเข้าไปเท่านั้น

“น่าหลันหลิงลั่ว ทำไมคนของท่านจึงไม่เข้าไป?” ไฟโทสะอัดอั้นอยู่ในใจของรองหัวหน้าเผ่าซือคง

เดิมทีคนที่เผาผลาญพลังแห่งจิตวิญญาณจะไม่สามารถยืนหยัดอยู่ได้นาน

เพียงแค่ถ่วงเวลาเขาไว้ ก็ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะไม่สูญสิ้นพลังจนตาย

น่าหลันหลิงลั่วกล่าว “นู้น ไม่ใช่ว่ายังมีหัวหน้าเผ่าอีกหรือ? หัวหน้าเผ่าเป็นถึงระดับเจ็ด หากว่าพวกเขาทั้งสองเคลื่อนไหวโจมตีพร้อมกัน ทุกคนวิ่งเข้าไปต่อสู้กับซ่งหยวนหมดแล้ว แล้วใครจะมาคุ้มกันหัวหน้าเผ่า?”

ซือคงหงุดหงิดใจ

หัวหน้าเผ่าจิตมารครอบงำ จนถึงตอนนี้ยังสลบไร้สติ มีอะไรให้กังวลกัน

ร่วมมือร่วมใจกันกำจัดซ่งหยวนตาแก่อมตะผู้นี้ซะก่อนยังดีกว่า

เขาก็เป็นระดับหก แต่เขายังไม่ถึงขั้นสูงสุด บวกกับซ่งหยวนที่มีแรงสังหารดุดันเช่นนี้ ศักยภาพก็แข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนอีกครึ่งหนึ่ง

ไม่ว่าเขาจะโง่แค่ไหน ก็ไม่สามารถเข้าไปขวางเขาโดยตรงได้

“ฟู่วฟู่วฟู่ว…..”

คนกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าตายไป

แม้ว่าคนเหล่านี้จะเป็นลูกน้องของซือคง แต่เวินเส้าหยีก็ยังคงปวดใจ

เหตุร้ายที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อเนื่องมาหลายวัน น้ำตาใสๆของเวินเส้าหยีก็ไหลลงมาอย่างจนปัญญา ดวงตาที่อ่อนโยนชำเลืองมองดูการเข่นฆ่ากันทั่วทุกหัวระแหง สุดยอดผู้อาวุโสซ่งหยวนที่เอ่ยปากพูดคำหยาบคาย

“ไอ้ชั่วซือคง เจ้ามีความสามารถก็เข้ามาเองสิวะ เจ้าคิดว่าลากคนอื่นเข้ามาตายแทนเจ้ามากมายขนาดนี้ แล้วเจ้าจะรอดพ้นภัยพิบัตินี้ไปได้หรือ? หึ”

“เจ้าคนน่าหลันคนใจทราม เจ้าไม่ได้หยิ่งยโสมากนักหรือ? ตอนนี้ยังจะทำตัวเป็นเต่าหดหัวอยู่ทำไมกัน?”

“ไอ้คนเลอะเลือนตงหลิง เจ้ามันเป็นกากเดนที่เทียบไม่ได้แม้แต่กับหมู เจ้ามันก็เหมือนขี้ในห้องส้อมเช่นนั้น ทั้งเหม็นทั้งน่าขยะแขยง”

น่าหลันหลิงลั่วไม่แยแส มองดูสงครามอย่างเย็นชา

ซือคงโมโหจนหน้าเขียว

สุดยอดผู้อาวุโสตงหลิงทนไม่ไหวอีกต่อไป ฝ่ามือฟ้าฟาดฟาดฟันเข้ามาทันที

อย่างน้อยเขาก็เป็นสุดยอดผู้อาวุโส แต่กลับถูกซ่งหยวนด่าต่อหน้าทุกคนจนยิ่งกว่าหมูกว่าหมา หากว่าเขาไม่เข้าไป หลังจากนี้ยังจะลืมตาอ้าปากในเผ่าได้อย่างไรอีก?

สุดยอดผู้อาวุโสทั้งสองต่อสู้กันยกใหญ่ สถานการณ์ยิ่งน่าสะพรึง เศษกระเบื้องแต่ละชิ้นถูกกระพือขึ้น ในตำหนักเทียนตูส่งเสียงระเบิดออกมาอยู่บ่อยๆ รวมทั้งเสียงด่าทันกันของทั้งสอง

ทางหนึ่งซ่งหยวนก็สังหารทุกคนด้วยความโกรธ อีกทางซ่งอวี่และคนอื่นๆก็กวาดชำระสนามสงคราม บวกกับการเข่นฆ่าอย่างโหดเหี้ยมของน่าหลันหลิงลั่วที่ผ่านมา เวลานี้กลับอยู่อย่างนิ่งเฉยไม่ได้ทำอะไร จึงทำให้ซ่งอวี่และคนอื่นๆโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง

เขาให้ผู้ใต้บังคับบัญชาพาหัวหน้าเผ่าที่สลบไร้สติออกไปก่อน ตัวเองกลับฝ่าฟันไปอยู่ข้างกายของเวินเส้าหยี คิดจะพาเวินเส้าหยีจากไปพร้อมกัน

ซือคงจะปล่อยให้เวินเส้าหยีไปได้อย่างไร

เข้ามาสังหารด้วยตัวเองแล้ว

เวินเส้าหยีผลักมือของซ่งอวี่ออกไป กล่าวเสียงดัง “ไป พาพ่อของข้าออกไปจากที่นี่ก่อน”

“หัวหน้าเผ่าน้อย….”

“ไป…..”

เป้าหมายของซือคงคือเขา

บวกกับเวินเส้าหยีมีเงื่อนไขที่จะควบคุมความเสถียรกับซือคงได้ ซ่งหยวนก็ยืนหยัดอยู่ได้ไม่นานแล้ว

ซ่งอวี่ทำได้เพียงกัดฟันอีกครั้งแล้วล้มเลิกการช่วยเหลือเวินเส้าหยี สกัดกั้นอยู่ด้านหลังเพื่อคุ้มกันส่งหัวหน้าเผ่าออกไป

น่าหลันหลิงลั่วที่นั่งสังเกตการณ์อยู่ในเดิมทีได้ส่งคนไปขวางกั้นพวกเขาไว้อีกครั้ง เข่นฆ่าโดยไม่ละเว้น

เวินเส้าหยีกล่าวด้วยความแค้นเคือง “รองหัวหน้าเผ่า ข้าจะเตือนท่านเป็นครั้งสุดท้าย หยุดการลงมือเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นข้าจะให้คนทำลายเผ่าเทียนเฟิ่นไปซะเดี๋ยวนี้”

“น่าหลันหลิงลั่ว ท่านได้ยินหรือไม่? รีบหยุดซะ”

การต่อสู้ครั้งนี้ จะช้าจะเร็วพวกเขาก็ชนะ ทำไมต้องรีบร้อนในเวลานี้ด้วย

น่าหลันหลิงลั่วกล่าว “รองหัวหน้าเผ่า เวินเส้าหยีตั้งใจจะครองตำแหน่งหัวหน้าเผ่ามาตลอด เขาจะตัดใจทำลายเผ่าเทียนเฟิ่นทั้งเผ่าไปได้อย่างไร?”

ความหมายในคำพูดของน่าหลันหลิงลั่วก็คือ เวินเส้าหยีเป็นห่วงเป็นใยเผ่าเทียนเฟิ่น และในนั้นก็ยังมีพ่อของเขาอีก เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำลายเผ่าเทียนเฟิ่นโดยสิ้นเชิง ก็เพียงแค่ข่มขู่เท่านั้น

“หากว่าเขาทำลายจริงๆล่ะ?”

“ข้าน่าหลันหลิงลั่วไม่ได้คิดถึงชีวิตหรือไง? ข้าพาลูกศิษย์มานับหมื่น และจะไม่คิดห่วงชีวิตหรือไงกัน? รองหัวหน้าเผ่า พวกเราหุบเขาตันหุยทุ่มเททุกอย่างเพื่อช่วยท่าน คิดไม่ถึงว่าท่านจะขี้ขลาดเช่นนี้ ช่างทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ”

“หากว่าท่านอยากให้ข้าหยุดลงมือก็ได้ เช่นนั้นสงครามภายในของเผ่าเทียนเฟิ่น พวกเราหุบเขาตันหุยก็จะไม่เข้าร่วมด้วยอีก”

บทที่ 850 จะตายก็ตายด้วยกัน

บทที่ 852 เป็นเขา

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

Status: Ongoing

กู้ชูหน่วน เดิมทีเป็นอัจริยะแพทย์สาวยุคปัจจุบัน การข้ามภพหนึ่ง พาเธอย้อนเวลาไปที่ยุคโบราณที่ไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนาม สิ่งที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงก็คือ เพิ่งจะมาถึงสถานที่แปลกหูแปลกตานี้แท้ๆ เธอก็ต้องเสียตัวให้กับชายแปลกหน้าอย่างไม่มีทางเลือก หลังจากมีการพัวพันซึ่งกันและกัน เดิมทีกู้ชูหน่วนคิดว่าแต่นี้ต่อไป ต่างคนต่างไป จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก สุดท้ายกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เย่จิ่งหานกลับคอยตอแยเธอไม่เลิก โชคชะตาฟ้าลิขิต เธอค่อยๆครอบครองใจของเย่จิ่งหานไปเรื่อยๆ จนทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัก อย่างโงหัวไม่ขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท