อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 908 เจ้าก็แค่ขยะ
ลุงเกิงพูดขึ้นมาอย่างตกตะลึงว่า “แย่แล้ว นางกำลังใช้ก้อนหินทำลายค่ายกล”
ไป๋หลี่หมิงพูดขึ้นมาอย่างไม่สะทกสะท้านว่า “ลุงเกิง เจ้าอายุมากเกินไปแล้วหรือเปล่า ตาลายไปแล้วมั้ง แค่นางที่เป็นคนที่ไม่มีประโยชน์คนหนึ่งก็สามารถทำลายค่ายกล? อย่าพูดไปเรื่อย”
“ค่ายกลต้านทานไม่ไหวแล้ว คุณชาย พวกเจ้ารีบไปจากที่นี่ ไม่อย่างนั้นหมาป่าหิมะเยอะขนาดนี้ เกรงว่าพวกเราก็จะรับมือไม่ไหว”
ไป๋หลี่สงหัวเราะเย้ย พร้อมพูดขึ้นว่า “ลุงเกิง ค่ายกลนี้อย่างน้อยก็ต้องมีพลังถึงขั้นระดับสองขึ้นไปถึงจะสามารถทำลายได้ หากคนที่ไม่มีประโยชน์คนนั้นสามารถทำลายได้ ข้าจะยอมตัดหัวแล้วให้เจ้าเตะเล่น”
“ปัง…..”
ไป๋หลี่สงเพิ่งพูดเสร็จ ค่ายกลก็ระเบิด ถูกกู้ชูหน่วนทำลายได้แล้วจริงๆ
นางทำลายค่ายกลได้แล้วก็ช่างเถอะ กลับไม่รู้ว่าเอาท่อนไม้มาจากไหน ฟาดหมาป่าหิมะที่กระโจนใส่ชาวบ้านจนปลิวลอยไป
นางเป็นเพียงผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง
ยังเป็นเพียงคนที่ไม่มีประโยชน์ชีพจรยุทธ์ขั้นหนึ่งคนหนึ่งเท่านั้น แต่เมื่อต่อสู้กับหมาป่าหิมะ ราวกับมีแรงกำลังเป็นพันจิน ทุกครั้งที่ฟาดถูกหมาป่าหิมะนั้น ล้วนได้รับบาดเจ็บสาหัส เคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ไป๋หลี่หมิงนวดสีตา
คนที่ไม่มีประโยชน์คนนั้น สามารถ…..สามารถยืนอยู่ท่ามกลางหมาป่า ทั้งท้าทายทั้งฟาดทั้งเตะทั้งฟันทั้งทุบ ทุกการเคลื่อนไหวนั้นรวดเร็วและไร้ความปรานี กล้าหาญองอาจ
ยังมีแววตาของนาง ไม่รู้เมื่อไร ไม่มีความอ่อนแอเชื่อฟังแบบเดิมแล้ว กลายเปลี่ยนเป็นเฉียบคม มีความเชื่อมั่นอย่างมาก
นี่นี่นี่……
เห็นผีกลางวันแสกๆหรือ?
ไป๋หลี่สงกลืนน้ำลาย พร้อมพูดขึ้นว่า “นางคือมู่หน่วน คนที่ไม่มีประโยชน์คนนั้นจริงๆหรือ? ชีพจรยุทธ์ชั้นหนึ่งคนหนึ่งเท่านั้น มีวิทยายุทธที่ดีขนาดนี้ได้อย่างไร?”
“คุณชาย เร็ว รีบหนีไป…..”
ลุงเกิงพูดขึ้นมาอย่างร้อนใจ
ชาวบ้านพวกนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหมาป่าหิมะ
เมื่อพวกเขาถูกหมาป่าหิมะกินหมด หมาป่าหิมะจะต้องหันกลับมาทำร้ายพวกเขา
ด้านล่างภูเขาหมาป่าหิมะ
กู้ชูหน่วนหายใจหอบ อาศัยความสามารถด้วยสัญชาตญาณของนางฟาดหมาป่าหิมะจนปลิวกระเด็นไป พยายามปกป้องชาวบ้านให้ได้มากที่สุด
แต่นางเพียงคนเดียว ไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถปกป้องชาวบ้านได้ทั้งหมด มีชาวบ้านไม่น้อยที่ถูกหมาป่าหิมะกัดจนเลือดสาด
ร่างกายของนางร่างนี้ อ่อนแอเกินไป
ต่อให้นางมีกระบวนท่าต่อสู้มากแค่ไหน แต่ภายใต้ร่างกายนี้ไม่สามารถที่จะใช้ได้
ราชาหมาป่าหิมะยังจ้องเขมือบอยู่
“ซือหย่วน เอารีบพาพวกชาวบ้านออกไปจากภูเขา เร็ว…..”
“ได้……”
“อึ๊บอึ๊บอึ๊บ…..”
ไป๋หลี่หมิงที่อยู่บนภูเขาสูง ไม่เพียงไม่ยอมถอย ยังสั่งคนใช้ธนูยิงพวกชาวบ้านที่ถอยหนี
ชาวบ้านกว่าสิบคนหลบไม่ทัน ต่างถูกธนูยิงตาย
“ท่านปู่ ท่านปู่เป็นยังไงบ้าง…..ท่านปู่…..”
ท่านปู่หลินวิ่งอยู่ข้างหน้า เป็นโชคร้ายถูกธนูยิงจนตายคาที่ ไม่ทันแม้แต่จะพูดจาเพียงประโยคเดียว
“ใครกล้าหนีออกจากภูเขาหมาป่าหิมะ อย่าหาว่าลูกธนูของข้าไม่มีตา” ไป๋หลี่หมิงพูดเตือน
กู้ชูหน่วนโกรธโมโหจัด
เอาพวกเขามาเป็นตัวล่อ ให้เป็นอาหารหมาป่าหิมะบนภูเขาหมาป่าหิมะ นางยังไม่ได้คิดบัญชีกับพวกเขา
ตอนนี้ยังจะมาขัดขวางทางนี้ของนาง ยิงชาวบ้านบริสุทธิ์ตาย แม้แต่ท่านปู่หลินก็ถูกฆ่าแล้ว
ใครทนได้ แต่นางทนไม่ได้
ราชาหมาป่าหิมะยังจ้องเขมือบอยู่ มีโอกาสที่จะสั่งให้รุมโจมตีนางได้ทุกเมื่อ
สายตากู้ชูหน่วนเย็นชา
ฉวยโอกาสตอนที่ราชาหมาป่าหิมะ ยังไม่สั่งโจมตีทั้งหมด นางใช้ท่อนไม้ในมือสาดไปที่ราชาหมาป่าหิมะ ในขณะเดียวกันก็ใช้ก้อนหินในมือโยนไปที่ไป๋หลี่หมิงกับไป๋หลี่สง
ราชาหมาป่าหิมะเป็นราชาในหมู่หมาป่า ยังเป็นสัตว์อสูรขั้นหนึ่ง มีประสาทสัมผัส จะถูกกู้ชูหน่วนทำร้ายง่ายๆได้อย่างไร
แต่ลุงเกิงที่อยู่ข้างกายไป๋หลี่หมิงเป็นยอดฝีมือระดับสองคนหนึ่ง จะปล่อยให้ไป๋หลี่หมิงถูกทำร้ายด้วยก้อนหินของนางได้อย่างไร
ก้อนหินชุดแรกถูกลุงเกิงสะเทือนกระเด็น
ก้อนหินชุดที่สองก็ถูกลุงเกิงสะเทือนกระเด็น
ราชาหมาป่าหิมะเห็นว่าหมาป่าหิมะไม่สามารถฆ่าผู้หญิงตัวผอมคนนั้นได้ และนางยังกล้าท้าทายตนเอง หมาป่าส่งเสียงหอน ใช้ความรวดเร็วดั่งสายฟ้าแลบ กระโจนมาหากู้ชูหน่วน
ราชาหมาป่าหิมะโจมตีกู้ชูหน่วน ตามหลักแล้วกู้ชูหน่วนต้องตายแน่
ทุกคนต่างก็คิดว่านางจะต้องไม่สามารถมีชีวิตรอดได้แน่
ใครจะไปคิด กู้ชูหน่วนกลับอมยิ้มที่มุมปาก ร่างกายหายวับ ไม่รู้ว่านางเคลื่อนไหวยังไง ไม่เพียงไม่หลบ กลับเผชิญหน้ากับราชาหมาป่าหิมะที่กระโจนตรงมาหา
ในขณะที่อยู่ห่างจากราชาหมาป่าหิมะเพียงไม่กี่นิ้ว ร่างกายก็แกว่งไปตามเถาวัลย์ กระโจนไปยืนอยู่ตรงปากถ้ำตรงที่ราชาหมาป่าหิมะยืนอยู่เมื่อกี้ เก็บไข่หมาป่าหิมะขึ้นมา
อึ๊บ……
แล้วยิงไข่หมาป่าหิมะไปที่ไป๋หลี่หมิง
ลุงเกิงนึกว่าเป็นก้อนหินอีก จึงทำลายจนไข่แตก
เสียงหอนดังขึ้น……..
ไข่แตก ราชาหมาป่าโกรธจัด
ราชาหมาป่าเปล่งแสงอันเยือกเย็นรุนแรง เสียงหอนดังขึ้น หมาป่าหิมะทั้งหมดเปลี่ยนเป้าหมาย ต่างกระโจนมาหาไป๋หลี่หมิง
และ……
ภายในถ้ำยังมีหมาป่าหิมะระดับหนึ่งออกมาอีกหลายตัว แต่ละตัวล้วนเต็มไปด้วยความอาฆาตกระโจนมาหาอย่างไม่หยุดยั้ง
ไป๋หลี่หมิงตกตะลึง
“ทำไม….ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้….มีหมาป่าหิมะระดับหนึ่งเพียงตัวเดียวไม่ใช่หรือ? สัตว์อสูรระดับหนึ่งมากมายขนาดนี้มาจากไหน?”
“หนีไป…..”
ลุงเกิงชักดาบ ต่อสู้รับมือกับหมาป่าหิมะพวกนั้นพร้อมกับองครักษ์คนอื่น
หมาป่าหิมะโกรธจัด แต่ละตัวล้วนดุร้ายโหดเหี้ยม องครักษ์ของตระกูลไป๋หลี่ไม่น้อย ล้วนถูกหมาป่าหิมะกัดตายคาที่
ลุงเกิงก็ถูกหมาป่าหิมะระดับหนึ่งหลายตัวรุมทำร้าย
เขาอยู่ในขั้นระดับสอง ต่อสู้กับราชาหมาป่าหิมะที่อยู่ในขั้นระดับหนึ่งตัวหนึ่งนั้นไม่ใช่ปัญหา
แต่ที่นี่กลับมีราชาหมาป่าหิมะที่อยู่ในขั้นระดับหนึ่งถึงห้าตัว จำนวนมากรุมหนึ่ง ลุงเกิงต้านทานไม่ไหว
ไป๋หลี่หมิงตกตะลึงจนใบหน้าขาวซีด โชคดีที่เขามีองครักษ์ไม่น้อย องครักษ์พวกนี้ยังพอพาเขาหลบหนีไปได้
ชิงเฟิงถามขึ้นว่า “นายท่าน เราจะช่วยไหม?”
องครักษ์พวกนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหมาป่าหิมะ
หากพวกเขาไม่ช่วย
งั้นวันนี้พวกเขาไม่รอดแน่
เย่จิ่งหานเพียงหมุนขลุ่ยหยกขาวเล่นไปมา ดวงตาที่เยือกเย็นคู่นั้น ยังคงจ้องมองดูกู้ชูหน่วน ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
เย่จิ่งหานเงียบ
เจี่ยงเสวียพอรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ชิงเฟิงกลับยังไม่รู้เรื่อง
ไม่รู้ว่าพวกเขาดูแข็งแกร่งหรือเปล่า หรือเพราะเจี่ยงเสวียวางค่ายกลไว้ หมาป่าหิมะพวกนั้นไม่มาโจมตีพวกเขาเลย
ลุงเกิงถูกกัดจนเลือดในกายไหลเป็นธาร
ไป๋หลี่หมิงปล่อยสัญญาณขอความช่วยเหลือ
ไป๋หลี่สงตะโกนพูดกับเย่จิ่งหานว่า “โว้ย เจ้าเป็นขุนนางผู้อาวุโสต่างแคว้นที่ตระกูลไป๋หลี่จ้างมาด้วยราคาแพงไม่ใช่หรือ ตอนนี้คุณชายเราตกอยู่ในอันตราย เจ้ายังไม่รีบลงมือช่วยพวกเรา”
“เพี๊ยะๆๆ…..”
เจี่ยงเสวียฟาดตบหน้าไป๋หลี่สงไปหลายสิบทีอย่างรุนแรง จนฟันหน้าของเขาหลุดหมด
“นายท่านของข้า ใช่ว่าเจ้าจะร้องเรียกไปเรื่อยได้”
“เดิมพวกเจ้าก็มีหน้าที่ดูแลปกป้องคุณชาย หากคุณชายเป็นอะไร….อ้าก….”
ไป๋หลี่สงพูดไม่ทันจบ เจี่ยงเสวียก็โยนเขาเข้าไปในกองหมาป่าหิมะ
แล้วไป๋หลี่สงก็ถูกหมาป่าหิมะกัดจนตาย แม้แต่ศพก็ถูกหมาป่าหิมะกินจนหมด แม้แต่ซากก็ไม่เหลือ
ไป๋หลี่หมิงหวาดกลัว ไม่ทันได้สนใจขอร้องให้เย่จิ่งหานช่วยเหลือ
สั่งให้คนของเขาปกป้องพาเขาหนีไป
มีองครักษ์คอยปกป้อง เดิมเขาสามารถหนีไปได้
แต่……
กู้ชูหน่วนกลับตัวเองเป็นเหยื่อ ล่อหมาป่าหิมะมาหาเขาอีกครั้ง
“มู่หน่วน เจ้าก็แค่คนที่ไม่มีประโยชน์ในตระกูลธรรมดาคนหนึ่ง กล้าคิดทำร้ายข้า เจ้ากล้ามากใช่ไหม?”
“เจ้ารู้จักข้า?”
“พูดไปเรื่อย คุณหนูสามตระกูลมู่ คนที่ไม่มีประโยชน์ที่มีชื่อเสียงในแคว้นปิง มีใครไม่รู้จักบ้าง วันนี้เจ้ากล้าทำร้ายข้าขนาดนี้ รอหลังจากข้ากลับไป ข้าจะเอาชีวิตเจ้าแน่……อ้าก…..”
ไม่รอให้เขาพูดเสร็จ กู้ชูหน่วนก็เตะเขาไปยังท่ามกลางฝูงหมาป่า
นางหัวเราะเย้ย พร้อมพูดขึ้นว่า “ต่อให้เจ้าเป็นถึงกษัตริย์ ในสายตาข้าเจ้าก็เป็นแค่เศษสวะ หนึ่งชีวิตแลกกับชีวิตนับสิบ เจ้าได้กำไรด้วยซ้ำ”