อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม – บทที่ 910 เจ้าโอหัง

บทที่ 910 เจ้าโอหัง

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 910 เจ้าโอหัง
สีหน้าประมุขตระกูลมู่ย่ำแย่ มือทั้งคู่กำหมัดแน่น

ในฐานะที่เป็นประมุขตระกูลมู่ เขากลับไม่สามารถปกป้องตระกูลมู่ ทำได้เพียงมองดูคนอื่นเข้ามาทำร้ายถึงที่ต่อหน้าต่อตา ทั้งบีบบังคับขู่เข็ญ พูดจาหยามเกียรติ ทำร้ายทารุณคนของตระกูลมู่ตามอำเภอใจ เขากลับช่วยอะไรไม่ได้เลย

ความรู้สึกแบบนี้…..

อึดอัดอย่างมาก

“ชีวิตทั้งหมดในจวนมู่ของพวกเจ้า ยังเทียบแขนข้างหนึ่งของหลานข้าไม่ได้ ข้าให้โอกาสพวกเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย เอาตัวมู่หน่วนออกมา”

สีหน้าไป๋หลี่หมิงขาวซีด หายใจรวยริน เห็นได้ชัดว่าบาดเจ็บสาหัส แต่ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงยืนยันที่จะมาจวนมู่

ไป๋หลี่หมิงพูดขึ้นว่า “ท่านปู่ ท่านจะพูดมากกับพวกเศษสวะพวกนี้ทำไม ฆ่าพวกเขาเลย ข้าไม่เชื่อว่า พวกเขาตายหมดแล้ว มู่หน่วนยังกล้าหดหัวเป็นเต่าอยู่ไหม”

ประมุขตระกูลมู่อดกลั้นความโกรธไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “มู่หน่วนเป็นคู่หมั้นซ่างกวนหมิงหลางของตระกูลซ่างกวน หากเกิดอะไรขึ้นกับตระกูลมู่ของเรา ตระกูลไป๋หลี่ของพวกเจ้าจะจบเรื่องได้ง่ายๆจริงหรือ?”

“คู่หมั้น? ฮ่าๆ เจ้าเฒ่า ใครบนโลกนี้ไม่รู้บ้างว่าเรื่องการแต่งงานนี้ถือเป็นความอัปยศ ตระกูลซ่างกวนไม่เห็นด้วยกับงานแต่งงานนี้เลย ไม่อย่างงั้นมู่หน่วนอายุตั้งสิบแปดแล้วยังไม่ได้แต่งงาน”

กู้ชูหน่วนเอามือลูบคาง

นางเป็นคู่หมั้นของซ่างกวนหมิงหลาง?

งานแต่งงานของนาง คนอื่นสามารถตัดสินใจแทนได้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

“ไม่ว่าตระกูลซ่างกวนจะเห็นด้วยกับงานแต่งงานครั้งนี้หรือไม่ งานแต่งงานก็ถูกกำหนดไว้เมื่อหลายสิบปีก่อนแล้ว ในนามแล้วมู่หน่วนก็คือคู่หมั้นของซ่างกวนหมิงหลาง”

ประมุขตระกูลมู่กำลังพูดเตือน

พูดเตือนพวกเขาว่า ต่อให้คนของตระกูลซ่างกวนไม่ยอมรับ เพื่อหน้าตาแล้ว ยังไงก็ไม่ยอมปล่อยตระกูลไป๋หลี่ไปง่ายๆแน่

ไป๋หลี่หมิงหัวเราะเย้ย พร้อมพูดขึ้นว่า “ตระกูลไป๋หลี่ของเราเกรงกลัวตระกูลซ่างกวนหรือ”

ไป๋หลี่เจิ้นเงียบ ไม่รู้ว่าหวาดกลัวตระกูลซ่างกวนหรือเปล่า

ชายวัยกลางคนที่คุกเข่าอยู่บนพื้นทนต่อไปไม่ไหวแล้ว กระอักเลือดออกมาอีกครั้ง ร่างกายที่คุกเข่าอยู่ก็ล้มลง

เขาดิ้นรนที่จะลุกขึ้นมา ปล่อยให้แส้พวกนั้นฟาดตีบนหลังของตนเองต่อไป แส้ที่ฟาดลงมาทุกครั้งล้วนติดเนื้อของเขาไปด้วย แต่เขาเพียงแค่กัดฟันพร้อมพูดกับตระกูลไป๋หลี่ว่า

“เลี้ยงลูกได้ไม่ดี เป็นความผิดของพ่อ สิ่งที่อาหน่วนกระทำ ข้าชดเชยแทน พวกเจ้าอย่าทำอะไรตระกูลมู่”

คำว่าอาหน่วน ทำให้ร่างกายกู้ชูหน่วนสั่นไหว

อาหน่วน……

ชื่อเรียกที่คุ้นเคย

นางสืบรู้ความเป็นมาของนาง แต่นางไม่มีความทรงจำเลย

แต่ชื่ออาหน่วน กลับทำให้นางคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก

ผู้ชายคนนี้……

เป็นพ่อแท้ๆของนาง?

“ทหาร ฟาดเขาให้ตาย แล้วตัดแขนขาออกมาให้สุนัขกิน ลูกตาควักออกมาเตะเป็นลูกบอล”

“คุณชายไป๋หลี่ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ควรให้อยู่ในความเหมาะสม” ประมุขตระกูลมู่พูดเตือน

“ถุ๊ย ตระกูลที่ตกต่ำแล้วตระกูลหนึ่ง กล้าทำให้ข้าไม่พอใจ อย่าว่าแต่คน แม้แต่สัตว์สักตัวข้าก็จะไม่เหลือให้พวกเจ้า”

คำพูดนี้คนตระกูลมู่ต่างโกรธโมโหมาก

หยามกันเกินไป อวดดี

หยามกันเกินไปจริงๆ……

หากถึงขั้นนั้นจริงๆ ก็สู้ตายกันไปข้างหนึ่ง สู้กับพวกเขาให้รู้แล้วรู้รอด

พ่อของกู้ชูหน่วนชื่อมู่ซิน เป็นลูกคนโตในตระกูล แต่ไม่มีความพลังแม้เพียงขั้นหนึ่ง

เขากัดฟันพร้อมพูดขึ้นว่า “คุณชายไป๋หลี่ เมื่อครึ่งเดือนก่อน ท่านกับพวกพี่น้องหลายคนทุบตีทารุณจนอาหน่วนแทบขาดใจ ยังโยนนางลงไปในป่ารกร้าง ปล่อยให้ตายอย่างตามมีตามเกิด พวกเราก็ไม่ได้ไปหาพวกท่าน ตอนนี้…..ตอนนี้นางทำเช่นนี้ ก็เพียงเพื่อปกป้องตนเองเท่านั้นเอง?”

“คนที่ไม่มีประโยชน์คนหนึ่งเท่านั้นเอง ข้าอยากทำอะไรก็ได้ อยากฆ่าก็ฆ่า แต่นางกลับวางแผนให้หมาป่าหิมะกัดแขนของข้าขาด เจ้ารู้ไหมว่าแขนของข้าสำคัญขนาดไหน?”

ไม่เพียงเท่านี้ นางยังโยนไข่หมาป่าหิมะ

ในใต้หล้ามีใครไม่รู้บ้างว่า มีเพียงราชาหมาป่าหิมะระดับหนึ่งเท่านั้นที่สามารถฟักไข่ได้ หมาป่าหิมะทั่วไปจะคลอดลูกเท่านั้น

ไข่หมาป่าหิมะนั้นล้ำค่ามาก ตอนที่พวกมันฟักไข่ ความสามารถจะสูงถึงระดับหนึ่ง โดยไม่จำเป็นต้องฝึกฝน

และไข่หมาป่าหิมะ ถือเป็นไข่ล้ำค่าของเผ่าหมาป่าหิมะ

เมื่อถูกทำลาย หมาป่าหิมะทั่วใต้หล้าจะมาแก้แค้นพวกเขา

วันสองวันมานี้ ตระกูลไป๋หลี่ของพวกเขาถูกหมาป่าหิมะโจมตีไม่น้อยแล้ว

หากไม่ใช่เพราะพวกเขามีกำลังคนเยอะ คงถูกหมาป่าหิมะกัดตายทั้งเป็นแล้ว

คิดถึงแขนของตน ยังมีเรื่องของไข่หมาป่าหิมะ ไป๋หลี่หมิงโกรธโมโหอย่างที่สุด

เขาชักดาบออกมาด้วยตนเอง ฟันไปที่แขนของมู่ซินอย่างรุนแรง

“ปัง…..”

สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ ดาบนั้นฟันแขนของมู่ซินไม่ขาด

ถูกสะเทือนจนเอียง

สายตาไป๋หลี่เจิ้นเย็นชา หันไปมองทางด้านกู้ชูหน่วนอย่างเฉียบคม

สีหน้าไป๋หลี่หมิงย่ำแย่ พร้อมพูดขึ้นว่า “ใคร ข้ากล้าขัดขวางข้าฆ่าคน”

กู้ชูหน่วนเขย่งเท้า กระโดดลงมาอย่างแผ่วเบา ราวกับเทพสตรีของโลกแห่งสวรรค์

ในขณะที่ลงมา นางแย่งแส้ที่กำลังฟาดตีมู่ซิน แล้วสะบัดมือ ฟาดตีบ่าวใช้ตระกูลไป๋หลี่ที่ฟาดตีมู่ซินกระเด็นลอยไป

“มู่หน่วน ที่แท้ก็เป็นเจ้า ในที่สุดเจ้าก็กล้าออกมาแล้ว”

ไป๋หลี่หมิงโกรธจนหัวเราะออกมา พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านปู่ คนที่ไม่มีประโยชน์คนนี้แหละ นางวางแผนทำร้ายข้าจนเสียแขน ท่านต้องแก้แค้นให้ข้า”

มู่ซินใจร้อนดุจดังไฟไหม้ เขาอยากลุกขึ้นมา แต่เพราะบาดเจ็บสาหัส แม้แต่คลานก็ไม่ไหว

“อาหน่วน เจ้ากลับมาได้อย่างไร ไป รีบหนีไปจากที่นี่”

“ไป จะให้ไปไหน?” คนตระกูลไป๋หลี่ล้อมรอบกู้ชูหน่วนไว้

กู้ชูหน่วนหัวเราะ จ้องมองดูไป๋หลี่เจิ้น ใบหน้างดงามล่มเมืองเผยให้เห็นถึงท่าทีมั่นใจ

“ใครบอกว่าข้าจะไป? ข้ามู่หน่วน ในเมื่อกล้าออกมา ก็ไม่เกรงกลัวพวกเจ้า”

“เจ้าโอหัง”

ไป๋หลี่เจิ้น อดไม่ได้ที่จะมองพิจารณาดูกู้ชูหน่วน

ข่าวลือบอกว่านางเป็นเพียงคนที่ไม่มีประโยชน์ชีพจรยุทธ์ชั้นหนึ่งคนหนึ่ง

ยังเป็นคนอ่อนแอ งี่เง่าขี้ขลาด

แรงฟาดแส้เมื่อกี้นั้น คนอื่นอาจจะไม่รู้ แต่เขาเห็นอย่างชัดเจน แรงฟาดนั้นโดนจุดฝังเข็มที่สำคัญของพวกเขา

อาการหนักถึงตายได้ อย่างเบาก็พิการ

กระดูกของคนใช้สองคนนั้นถูกนางฟาดตีจนหัก

ลงมือโหดเหี้ยมมาก

เมื่อมองดูความมั่นใจของนาง ท่าทีโอหัง แววตาฉายแววมั่นใจอย่างไม่หวาดกลัว

ดูยังไงก็ไม่เหมือนผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง

หรือข่าวลือผิดพลาด?

ไม่เพียงไป๋หลี่เจิ้น คนตระกูลมู่ก็สงสัยว่ากู้ชูหน่วนกลายเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร

ไม่เห็นเพียงครึ่งเดือนสั้นๆ ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน กลายเปลี่ยนเป็นคนใหม่แล้วอย่างนั้น

กู้ชูหน่วนเอื้อมมือเรียวขาวออกมา ปัดไรผมบนหน้าผากเล็กน้อย แล้วก็หัวเราะ

“พูดง่าย วัยรุ่นไม่โอหัง จะรอให้แก่เหมือนท่านแล้วค่อยโอหังหรือ?”

คำพูดประโยคนี้เต็มไปด้วยความท้าทาย

ตระกูลไป๋หลี่ตั้งตนสูงส่งอยู่ตลอดเวลา เคยถูกคนยั่วยุเสียที่ไหน

ยังเป็นเพียงตระกูลตกต่ำตระกูลหนึ่ง

ไป๋หลี่เจิ้นพูดขึ้นว่า “ทหาร ฟาดตีกระดูกของนางให้หักทั้งตัวก่อน แล้วค่อยนำตัวนางกลับไปที่ตระกูลไป๋หลี่ ยกให้หมิงเอ๋อร์จัดการตามอำเภอใจ”

“ขอรับ”

คนตระกูลมู่ต่างหวาดกลัวไม่น้อย โดยเฉพาะมู่ซิน ครุ่นคิดแทบแย่ว่าจะปกป้องกู้ชูหน่วนยังไง

กู้ชูหน่วนกลับสีหน้าเรียบเฉย กำหมัดแน่นจนเสียงดัง ราวกับเตรียมตัวต่อสู้

คนของตระกูลไป๋หลี่กำลังจะลงมือ

คนใช้คนหนึ่งรีบมารายงาน กระซิบพูดข้างหูของไป๋หลี่เจิ้น

สีหน้าไป๋หลี่เจิ้นเปลี่ยนไป

“เจ้าพูดว่าอะไรนะ? พูดผิดไปหรือเปล่า?”

“เปล่า ข้าน้อยฟังมาอย่างชัดเจน”

ไป๋หลี่เจิ้นถลึงตาจ้องมองกู้ชูหน่วน ราวกับไม่พอใจ แต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่ง ทำได้เพียงสะบัดแขนเสื้อ

“กลับ”

ไป๋หลี่หมิงอึ้ง

“ท่านปู่ ไม่ง่ายเลยกว่าที่เราจะเจอตัวมู่หน่วน แล้วจะปล่อยนางไปแบบนี้หรือ? นางเป็นคนทำให้แขนของข้าขาดนะ”

  

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

Status: Ongoing

กู้ชูหน่วน เดิมทีเป็นอัจริยะแพทย์สาวยุคปัจจุบัน การข้ามภพหนึ่ง พาเธอย้อนเวลาไปที่ยุคโบราณที่ไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนาม สิ่งที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงก็คือ เพิ่งจะมาถึงสถานที่แปลกหูแปลกตานี้แท้ๆ เธอก็ต้องเสียตัวให้กับชายแปลกหน้าอย่างไม่มีทางเลือก หลังจากมีการพัวพันซึ่งกันและกัน เดิมทีกู้ชูหน่วนคิดว่าแต่นี้ต่อไป ต่างคนต่างไป จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก สุดท้ายกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เย่จิ่งหานกลับคอยตอแยเธอไม่เลิก โชคชะตาฟ้าลิขิต เธอค่อยๆครอบครองใจของเย่จิ่งหานไปเรื่อยๆ จนทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัก อย่างโงหัวไม่ขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท