“เจ้ามารร้ายทั้งหลาย! คิดมาสร้างเรื่องในเขตแดนของนิกายสวรรค์ล้ำคาดข้า สมควรตาย!”
เสียงร้องลั่นหนึ่งดังขึ้นมาจากท้องฟ้า มันย่อมจะเป็นตัวหลิงว่านเฉิงที่พุ่งตัวเข้ามาแล้ว
เวลานี้เจ้านิกายทั้งห้านั้นพุ่งตัวมาจนถึงที่เกิดเหตุสิ้น!
พันธมิตรโอสถนั้นเตรียมการมาไว้อย่างดีมีหรือที่ทางห้าเจ้านิกายจะไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย?
เจ้านิกายสวรรค์ทั้งห้านั้นพุ่งตัวออกมารับหน้าพร้อมๆ กันมันจะต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่โตแค่ไหน?
แต่ในเวลาเดียวกันนั้นเองมันกลับมีปราณดาบสายหนึ่งพุ่งขึ้นฟ้าเข้าไปเผชิญกับเจ้านิกายทั้งห้า
เมื่อคนทั้งหลายได้เห็นภาพนั้นพวกเขาต่างก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมา!
มันจะเป็นใครกัน? คนที่กล้าจะไปเผชิญหน้ากับห้าเจ้านิกายพร้อมๆ กันด้วยตัวคนเดียวเช่นนี้?
แน่นอนว่ามันย่อมจะเป็นเสี่ยวเฟยไป่แล้ว
อึดใจเดียวนี้เสี่ยวเฟยไป่ก็เข้าไปปะทะกับเจ้านิกายทั้งห้าอย่างดุดัน
พริบตาเดียวนั้นเสี่ยวเฟยไป่ก็แลกกระบวนท่ากับเจ้านิกายทั้งห้าไปกว่าร้อยกระบวนท่าแล้ว
ทำให้เวลานี้เจ้านิกายทั้งห้าไม่อาจจะผละตัวไปจากเขาได้
และเวลาสั้นๆ นี้มันก็ทำให้พื้นที่หน้าห้างเมฆเฉื่อยนั้นกลายเป็นสนามรบ
เวลานี้เหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์ของห้านิกายเองก็ต่างพุ่งตัวออกมารับมือมือสังหารทั้งหลาย
เพียงแค่ว่าพวกเขานั้นลงมือได้ช้ากว่าพวกคนจากพันธมิตรโอสถอย่างมาก
แม้ว่าจะออกมาแต่มันก็ตามกัดไว้ทันแค่ไม่กี่คน
เวลานี้มันยังมียอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกอีกยี่สิบกว่าคนที่หลุดรอดเข้ามาถึงตัวเย่หยวนได้
เมื่อเฟิงซวนยี่ได้เห็นเช่นนั้นเขาก็แทบหัวใจหยุดเต้น ได้แต่คิดในหัวว่าจบสิ้นกันแล้ว!
ด้วยพลังของเย่หยวนนั้นมีหรือที่จะรอดชีวิตออกไปจากการปิดล้อมของยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกนับยี่สิบได้?
คนที่ใกล้ที่สุดนั้นห่างจากเย่หยวนไปเพียงแค่ราวสองร้อยเมตรเท่านั้น!
ระยะแค่นี้มันเป็นระยะเพียงแค่อึดใจสำหรับเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยก!
ตั้งแต่ที่เริ่มมีเรื่องมาจนถึงเวลานี้มันผ่านไปแค่ไม่กี่วินาทีแต่ตัวเย่หยวนนั้นกลับไม่คิดขยับ ราวกับว่าเขานั้นกลัวจนทำอะไรไม่ถูก
เมื่อเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกทั้งหลายได้เห็นเช่นนั้นรอยยิ้มมันก็ปรากฏขึ้นบนหน้าของพวกเขาทั้งหลาย
การได้สังหารยอดอัจฉริยะที่เอาชนะบุตรศักดิ์สิทธิ์ลงนั้นมันย่อมจะทำให้พวกเขาสะใจอย่างมาก!
เมื่อหวงฟู่หยุนซือบนหอคอยได้เห็นเช่นนั้นเขาก็ยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก “ไม่ว่ามันจะเป็นยอดอัจฉริยะสักเพียงใด มันก็ไร้ค่าหากตายลง! เด็กน้อย เจ้ามันอวดฝีมือจนเกินตัวไป!”
แต่ไม่นานรอยยิ้มของเขาก็ต้องจางหายลงไป
เพราะเวลานี้เหล่ายอดฝีมือที่พุ่งเข้าไปหาเย่หยวนนั้นกลับหยุดเท้าลงแทบจะพร้อมกัน!
และตัวเย่หยวนนั้นก็เดินผ่านการปิดล้อมของคนทั้งหลายออกมาอย่างง่ายดาย
สีหน้าของหวงฟู่หยุนซือเปลี่ยนสีก่อนจะร้องขึ้น “นี่มัน… เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่?”
แต่จู่ๆ สายตาของเขาก็ต้องเบิกกว้างเพราะเห็นว่าบนหัวของยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกคนหนึ่งมันมีไอน้ำลอยขึ้นมา
ได้เห็นเช่นนั้นตัวหวงฟู่หยุนซือก็เข้าใจได้ทันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่เบื้องล่าง
“พิษหรือ? นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่คนหนึ่งมันจะกลั่นพิษอะไรมาใช้เล่นงานยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกนับยี่สิบได้พร้อมๆ กันขนาดนี้?” หวงฟู่หยุนซือนั้นเกิดคำถามขึ้นมาอย่างสงสัยสุดใจ
ภาพนี้เองมันก็ปรากฏต่อสายตาของเฟิงซวนยี่และหลัวหยุนชิงทั้งหลายด้วย
ได้เห็นเย่หยวนเดินฝ่าออกมาเช่นนั้นแล้วพวกเขาก็ต้องขนลุกไปทั้งกาย!
เจ้าเด็กคนนี้มันยังมีไม้ตายซ่อนไว้อยู่!
แม้ต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกนับยี่สิบแต่เขากลับเดินออกมาได้อย่างไร้บาดแผลใด!
ได้เห็นเย่หยวนค่อยๆ เดินออกมาเช่นนั้นเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกทั้งหลายต่างต้องผงะไปตามๆ กัน
มันมิใช่ว่าพวกเขาไม่อยากสังหาร แต่พวกเขานั้นไม่อาจสังหาร!
เพราะพิษที่ใช้ออกมานี้แม้ว่ามันจะไม่ถึงชีวิตแต่มันก็มากพอจะหยุดการเคลื่อนไหวของพวกเขาได้ชั่วขณะ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนึ่งในพิษที่ถูกใช้นั้นมันทำให้พวกเขาชาไปทั้งร่าง
ยอดฝีมือที่นำหน้ามานั้นได้แต่ต้องอ้าปากค้างอย่างไม่อยากทำใจเชื่อ
ก่อนหน้านี้เขาสัมผัสได้ว่าตัวเองถูกพิษเข้า
ที่สำคัญไปกว่านั้นเขากลับถูกพิษเข้าหลายต่อหลายชนิด!
เขานั้นพบว่าตัวเองได้เข้ามาอยู่ในระยะค่ายกลพิษ
หากให้ลองเดาๆ ดูแล้วเขาคงถูกพิษเข้านับร้อยชนิด!
ที่สำคัญไปกว่านั้นฤทธิ์ของพิษแต่ละอย่างนั้นมันกลับเล่นงานแตกต่างกันไปสิ้น
บ้างก็เล่นงานเส้นชีพจร บ้างก็เล่นงานปราณเทวะ บ้างก็เล่นงานวิญญาณดั่งเดิม
เมื่อพิษนับร้อยๆ อย่างนี้มันถูกใช้งานออกมาพร้อมๆ กันมันย่อมทำให้พวกเขาทั้งหลายแทบไม่อาจขยับเคลื่อนไหวร่างกายได้!
เหมือนดั่งเครื่องจักรที่ต้องหยุดทำงานลง
ศัตรูอยู่ตรงหน้าแต่พวกเขากลับไม่มีแรงพอจะลงมือสังหาร!
ให้ตายเถอะ!
เหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกทั้งหลายต่างไม่กล้าปล่อยพิษไว้ต่อและใช้พลังทั้งหมดค่อยๆ ขับมันออกจากร่าง
เพียงแค่ว่ารอบๆ นั้นมันมียอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกจากนิกายสวรรค์ทั้งห้ารออยู่ก่อนแล้ว เวลานี้เมื่อคนทั้งหลายไม่อาจขยับตัวได้เช่นนี้มันย่อมจะกลายเป็นความตายอย่างไม่ต้องสงสัย
แน่นอนว่าไม่กี่วินาทีจากนั้นเหล่ายอดฝีมือของด้านห้านิกายสวรรค์ก็มาถึงในที่สุด
ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกที่อยู่หลังสุดของกลุ่มคนนั้นถูกสังหารตายไปลงในทันที!
เมื่อพลาดโอกาสนี้ไปแล้วเหล่ามือสังหารชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกต่างก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบไป
และเย่หยวนก็เข้ามาอยู่กลางวงล้อมป้องกันของยอดฝีมือทันที
“ฮ่าๆๆ ช่างเป็นเด็กที่น่ากลัวจริง เจ้าไม่ทำให้ข้าผิดหวังเลย! เย่หยวน รอก่อนเถอะ เจ้านิกายคนนี้จะไปหาเจ้าแล้ว!”
เมื่อเฟิงซวนยี่ได้เห็นเย่หยวนรอดชีวิตออกมาอย่างปลอดภัยนั้นเขาก็อดหัวเราะขึ้นไม่ได้ก่อนจะหันไปหาเหล่าเจ้านิกายที่เหลือทั้งสี่ “เจ้าหมอนี่ข้าฝากพวกเจ้าจัดการต่อด้วย ข้าจะไปปกป้องเย่หยวน!”
“ไป!” หยางเจี๋ยนั้นร้องตอบกลับไป
ไม่ว่าเสี่ยวเฟยไป่จะแข็งแกร่งสักแค่ไหนมันก็ไม่มีทางจะเก่งกาจการร่วมมือของห้าเจ้านิกายไปได้
การปรากฏตัวของเขานั้นมันทำได้เพียงแค่เป็นการซื้อเวลาเท่านั้น
เวลานี้เมื่อแผนพลาดท่าลงแล้ว แค่ให้สี่เจ้านิกายกดดันมันก็พอจะรับมือตัวเขาได้
เฟิงซวนยี่นั้นผลักตัวเสี่ยวเฟยไป่ออกไปก่อนจะพุ่งเข้าไปหาเย่หยวนราวลูกศรที่หลุดจากคันธนู
เสี่ยวเฟยไป่เองนั้นยังมีใบหน้าเย็นเยือกแต่ท่ามกลางการต่อสู้ที่ดุดันเช่นนี้เขาก็ยังต้องขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา
เขานั้นรู้ดีว่าแผนครั้งนี้คงพลาดลงแล้ว!
แต่ว่ากำลังฝีมือของเสี่ยวเฟยไป่มันก็ยังทำให้เจ้านิกายทั้งห้าต้องตกตะลึง
แม้จะต้องเจอการรุมโจมตีจากเจ้านิกายทั้งห้าแต่ตัวเสี่ยวเฟยไป่ก็ยังซื้อเวลาไปได้อย่างมาก!
กำลังฝีมือของเขานี้มันเรียกได้ว่าเหนือล้ำ!
เจ้านิกายทั้งห้านั้นรู้แก่ใจดีว่ากำลังฝีมือของเสี่ยวเฟยไป่คนนี้มันไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกเขาเลย!
“เจ้าเป็นใครกันแน่?!” หยางเจี๋ยถามขึ้นมา
เสี่ยวเฟยไป่ขยับมือรับและตอบกลับมา “เสี่ยวเฟยไป่จากโถงยุทธสวรรค์แห่งพันธมิตรโอสถ! ศึกในวันนี้ข้าได้เห็นแล้วว่าเจ้านิกายทั้งห้านั้นมีกำลังสมนามจริง! น่าเสียดายที่ข้านั้นไม่อาจจะอยู่ต่อสู้ได้นานนัก! วันหน้าเสี่ยวผู้นี้หวังว่าจะได้รับการสั่งสอนจากพวกท่านทั้งหลายอีก ลาก่อน!”
ปราณดาบจากร่างของเสี่ยวเฟยไป่พุ่งทะยานก่อนจะถูกฟันกวาดออกมา
ดาบนี้มันเป็นดาบที่สุดแสนรุนแรงอย่างเหนือล้ำ!
เมื่อหลัวหยุนชิงสัมผัสได้ถึงพลังนี้เขาก็ต้องเงยหน้าขึ้นมามองอย่างตกตะลึง
สายตาของเขานั้นมันแสดงถึงจิตต่อสู้ที่หนักแน่น
เสี่ยวเฟยไป่นี้มีดาบที่ทำให้แม้แต่เขายังต้องตกตะลึง!
แข็งแกร่งมาก!
พันธมิตรโอสถนั้นมันช่างมียอดฝีมือหลบซ่อนอยู่มากมายนัก!
หลังผลักเจ้านิกายทั้งสี่กลับไปด้วยดาบนี้แล้วร่างของเสี่ยวเฟยไป่ก็ขยับพุ่งตัวหายไป
“ถอย!” ก่อนจะจากไปนั้นเขายังทิ้งคำสั่งเอาไว้ด้วย
เหล่ายอดฝีมือของพันธมิตรโอสถนั้นรู้ดีว่าเรื่องนี้คงไม่มีทางชนะได้แล้วจึงตัดสินใจพุ่งหนีหายไปคนแล้วคนเล่า
บนหอคอยสูงนั้นเองหวงฟู่หยุนซือเองก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้น “ค่ายกลร้อยพิษ! ไม่นึกเลยว่าเจ้าเด็กคนนี้มันจะมีวิชาพิษที่เหนือล้ำไปด้วย! ช่างน่ากลัวนัก!”
พูดจบตัวหวงฟู่หยุนซือเองก็พุ่งตัวจากไปเช่นกัน
เห็นเงาของเสี่ยวเฟยไป่พุ่งตัวไปลิบที่ขอบฟ้าเหล่าเจ้านิกายทั้งสี่ต่างก็ได้แต่ทำหน้าเครียด
“ข้าไม่นึกเลยว่าพันธมิตรโอสถนั้นมันกลับจะมียอดฝีมือระดับนี้อยู่! กำลังฝีมือของเขานั้นมันคงไม่ด้อยกว่าพวกเราเลย!” ฮัวซือยูกล่าวขึ้นมา
“หึๆ ไม่ต้องมาวางท่าใดๆ แล้ว! หากสู้กันตัวต่อตัวพวกเราย่อมจะต้องตายแน่!” หยางเจี๋ยกล่าวขึ้นมาขัด
ฮัวซือยูแทบต้องสำลักแต่ก็ไม่อาจจะเถียงกลับมาได้
เพราะเขานั้นรู้ดีว่าคำพูดของหยางเจี๋ยนั้นมันคือความจริง!
ฮัวซือยูคนนี้แข็งแกร่งอย่างบ้าคลั่ง!
หลิงว่านเฉิงนั้นถอนใจยาวออกมา “พันธมิตรโอสถนั้นมันเป็นมังกรซ่อนเสือซุ่มจริงๆ! ภายใต้เวลาแค่สองสามเดือนนี้มันกลับสามารถหายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกมาได้มากมายปานนี้! ดูท่ากองกำลังของพวกมันนั้นจะเหนือล้ำกว่าที่เราคาดคิดไปมาก! มันน่ากลัวกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการได้!”
หยางเจี๋ยพยักหน้ารับ “ห้านิกายของเรานั้นจะมาแบ่งแยกกันไม่ได้แล้ว! ในเวลานี้หากยังมาเถียงกันอยู่อีกอิสระภาพที่ท่านโฉปู้ฉุนหามาได้มันคงต้องเสียไปด้วยมือของเราแล้ว!”
…………………………