อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 926 เกิดเรื่องแล้ว
“สิ่งของล้ำค่าในภูเขาเจียงเจ๋อล้วนไม่มีเจ้าของ ใครมีความสามารถคนนั้นก็ได้ไป ถึงแม้เจ้าจะได้มาแล้ว แต่ถูกข้าปล้นไปแล้ว ต้องโทษที่เจ้ามีความสามารถไม่เพียงพอ อ่า อันนี้ยกให้เจ้า สิ่งของล้ำค่าในภูเขาเจียงเจ๋อมีมากมายขนาดนั้น ดูวิทยายุทธของเจ้าก็ไม่ด้อย ถึงตอนนั้นค่อยหาใหม่ มาภูเขาเจียงเจ๋อทั้งทีก็ไม่สูญเปล่า”
เย่จิ่งหานเกิดความอาฆาตขึ้นมาอย่างกะทันหัน
รอบตัวเต็มไปด้วยความอาฆาต
กู้ชูหน่วนหวาดกลัวขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
รอบตัวผู้ชายคนนี้ มีความอาฆาตรุนแรงจริงๆ
หากไม่ใช่เพราะเขาถูกพิษกลิ่นจุ้ยหยิน คงลุกขึ้นมาบีบคอนางตายไปแล้ว
“ข้าสั่งให้เจ้าเอาน้ำค้างแห่งสวรรค์คืนให้ข้า ได้ยินไหม”
“เจ้าแน่มากก็ลุกขึ้นมาแย่งเองสิ”
ชิงเฟิงเจี่ยงเสวียรู้สึกเหนื่อย หมดคำจะพูด
เพื่อตามหาน้ำค้างแห่งสวรรค์ ท่านอ๋องต้องทุ่มเทตั้งเท่าไหร่ กว่าจะมาถึงทวีปปิงหลิง
เพื่อตามหาน้ำค้างแห่งสวรรค์ ท่านอ๋องใช้เวลาตั้งสองปี
กว่าจะเอาน้ำค้างแห่งสวรรค์มาได้ กลับถูกผู้หญิงคนนี้ปล้นไป
เขาแทบไม่กล้าคิดเลยว่า ท่านอ๋องจะโกรธแค้นแค่ไหน
ยิ่งไม่กล้าคิด หากผู้หญิงคนนี้แย่งน้ำค้างแห่งสวรรค์ไปจริงๆ ต่อไปจะได้ตายอย่างอนาถขนาดไหน
นางก็จริงๆเลย แย่งป้ายประกาศิตไปก็ช่างเถอะ จะแย่งน้ำค้างแห่งสวรรค์ทำไม นั่นเป็นสิ่งเดียวที่สามารถฟื้นคืนชีพให้กับพระชายานะ
เย่จิ่งหานกัดฟัน
พยายามใช้กำลังภายในครั้งแล้วครั้งเล่า ทุกครั้งที่กำลังจะสำเร็จ พลังทั้งหมดก็สลายไป รวบรวมยังไงก็ไม่สำเร็จ
เขาอ่อนข้อลงเป็นครั้งแรก ระงับความโมโหทั้งหมดไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าต้องการเงินเท่าไหร่ ข้าให้เจ้าได้ตามที่เจ้าต้องการ แต่น้ำค้างแห่งสวรรค์สำคัญกับข้ามาก ข้าไม่ให้เจ้าเอาไป”
“อย่ามาพูดเล่น ข้าไม่ใช่เด็กสามขวบ รอเมื่อพลังของเจ้ากลับมาปกติ จะไม่ฆ่าข้าก่อนหรือ ยังจะให้เงินอะไรแก่ข้า อีกอย่าง น้ำค้างแห่งสวรรค์สำคัญกับข้ามาก”
กู้ชูหน่วนขยิบตากลมโตอย่างไร้เดียงสา บ่งบอกว่าเรื่องนี้ต่อรองอะไรไม่ได้อีกแล้ว
เดิมนางอยากที่จะเอาน้ำค้างแห่งสวรรค์แล้วก็จากไป
เมื่อคิดดูอีกที ไหนๆก็ล่วงเกินแล้ว ค้นอีกเสียหน่อยดีกว่า บางทีอาจจะมีสิ่งของล้ำค่าอะไรอีก
เมื่อคิดเช่นนี้ มืออันเรียวเล็กของนางก็ล้วงเข้าไปอย่างไม่เกรงใจ
ล้วงค้นไปมา จนเกือบล้วงไปเจอขาข้างที่สามของเย่จิ่งหาน
ทั้งตัวเย่จิ่งหานปกคลุมไปด้วยความโกรธโมโห ถลึงตาใส่นางอย่างโหดเหี้ยม
กู้ชูหน่วนพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้มว่า “สิ่งของของเจ้าค่อนข้างใหญ่เหมือนกัน ไม่เลว อนาคตลูกหลานเยอะแน่”
เย่จิ่งหาน “……”
ชิงเฟิง “………”
เจี่ยงเสวีย “……….”
ทำไมผู้หญิงคนนี้ไร้ยางอายยิ่งกว่าพระชายาเสียอีก หน้าไม่อายจริงๆ
พูดจาแบบนี้ออกมา สีหน้ายังไม่แดงเลยสักนิด
“เจ้ากล้าเอาน้ำค้างแห่งสวรรค์ไป ก็เตรียมตัวตายได้เลย”
อาจเป็นเพราะสนใจน้ำค้างแห่งสวรรค์มากเกินไป น้ำค้างแห่งสวรรค์ยังคงไม่ยอมแพ้
หากเป็นคนอื่น การเตือนอาจได้ผล
แต่กับกู้ชูหน่วน ไม่มีผลกระทบอะไรเลย
นางไม่คิดถึงอนาคตหรอก นางคิดถึงแต่ปัจจุบัน
และจุดประสงค์ที่นางมายังภูเขาเจียงเจ๋อ ก็เพื่อน้ำค้างแห่งสวรรค์
กู้ชูหน่วนลูบคลำไปมา ในที่สุดก็ล้วงเจอไหเล็กๆอันหนึ่ง
นางถือไหอันเล็กไว้ในมือ
สีหน้าเย่จิ่งหานเปลี่ยนไปทันที ทั้งเนื้อทั้งตัวกระวนกระวายขึ้นมาทันที น้ำเสียงเต็มไปด้วยความร้องขอ พร้อมพูดขึ้นว่า “วางไหกักวิญญาณลงไว้”
ชิงเฟิงเจี่ยงเสวียก็ตื่นเต้นขึ้นมา
ไหกักวิญญาณเป็นเหมือนอย่างชีวิตของท่านอ๋อง
หากไหกักวิญญาณถูกปล้นไป งั้น….
ทั้งสองต่างเหงื่อแตก
ไม่กล้าคิดต่อไป
กู้ชูหน่วนพูดขึ้นมาอย่างสงสัยว่า “ไหกักวิญญาณ? คืออะไรหรือ? ล้ำค่ามากไหม?”
ดูท่าทีตื่นเต้นของพวกเขา กู้ชูหน่วนเกิดความสนใจขึ้นมา รู้สึกเหมือนสิ่งของในมือของตน ล้ำค่ายิ่งกว่าน้ำค้างแห่งสวรรค์
นางเปิดฝาไหกักวิญญาณ ยื่นจมูกจะไปสูดดมดู
“ห้ามเปิด” เย่จิ่งหานตะโกนขึ้นมา
น้ำเสียงดังก้อง
กู้ชูหน่วนตกใจ จนไหกักวิญญาณหล่นลงพื้น ตัวไหกับฝาแยกออกจากกัน