“…….”
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กล่าวขึ้นอย่างจริงจัง “นายหญิง สิ่งของมากมายในนี้ล้วนไม่ได้เรื่องเท่าไหร่”
“ยังเพ้อเจ้ออีกคำ หลังจากนี้ก็อย่าติดตามข้า ข้าไม่รู้จักเจ้า”
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์หน้าละห้อย ทำท่าทางวาดเป็นห้าด้วยความขุ่นเคือง
“ไม่มีทาง”
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ทำท่าทางวาดเป็นสี่อีกครั้ง
“ตัวเดียว มากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว”
“นายหญิง ตัวเดียวยังไม่พออุดซอกฟังของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เลย ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องมีสี่ตัวนะ”
“กู้ชูหน่วนมุมปากกระตุก
นับว่านางเข้าใจแล้ว
ที่แท้งูตัวนี้ ก็คืองูตะกละเห็นแก่กินตัวหนึ่งจริงๆ ทำเรื่องอะไรนิดหน่อยก็ต้องต่อรองทั้งสิ้น
ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเลี้ยงดูบ่มนิสัยเช่นนี้ออกมา
“ไม่มีให้หารือ จะขนหรือไม่ขนก็ตามใจ หากไม่ขนประเดี๋ยวข้าให้เจ้าเสือน้อยมาขน” กู้ชูหน่วนหลับตา กระแทกชีพจรยุทธ์ต่อเนื่องอย่างแรง
นางรู้สึกว่ามีพลังอันยิ่งใหญ่กระทบเทือนนางอยู่อย่างต่อเนื่อง ราวกับร่างกายจะระเบิดออกมาแล้ว
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ได้ยินว่าเจ้าเสือน้อยก็ไม่พอใจในทันที ไล่ถามไม่หยุด “เจ้าเสือน้อยเป็นใคร นายหญิง ท่านรับสัตว์เลี้ยงใหม่แล้ว ฉะนั้นจึงไม่ต้องการเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์แล้วใช่หรือไม่”
“……”
โธ่เว้ย มันไม่เห็นหรือว่านางทรมานมาก?
ยาชั้นสูงระดับสอง อำนาจช่างมากมายเกินไปแล้วล่ะมั้ง
ราวกับว่าร่างกายของนางยืนหยัดได้ถึงขีดสุดแล้ว
กู้ชูหน่วนใช้ความทรงจำที่เหลืออยู่น้อยนิดในสมอง ดูดซับละลายอำนาจอันทรงพลังของยาอย่างต่อเนื่อง
ข้างหูเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ก็ยังคงพูดพร่ำอยู่
“นายหญิง ก่อนหน้านี้ท่านเคยบอกว่าท่านจะรับเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เพียงเท่านั้น ท่านคืนคำได้อย่างไร ท่านทำข้อตกลงความสัมพันธ์กับเจ้าเสือน้อยแล้วหรือ? เหมือนว่าจะไม่มีข้อตกลงนี่นา ท่านไล่มันไปได้หรือไม่?”
“นายหญิง…..ฮือฮือ…..เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์จะเสียใจ เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์รอท่านมาตั้งหลายปีขนาดนี้ ทั้งยังหาท่านมาอีกตั้งหลายปี ไม่ง่ายกว่าจะได้พบเจอท่านอีกครั้ง เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ไม่อยากเป็นงูน้อยไม่มีแม่”
กู้ชูหน่วน “……”
“นายหญิง……”
กู้ชูหน่วนกระอักเลือดสีดำออกมาเต็มปาก มือทั้งสองข้างค้ำยันอยู่ที่พื้น ฝืนไว้ไม่ให้ตัวเองล้มลงไป
ร่างกายของนางเปล่งแสงเป็นประกายแวววาว ส่องให้ห้องลับสว่างไสวราวกับกลางวัน…..
บรรลุแล้ว…..
นางบรรลุอีกแล้ว
จากชีพจรยุทธ์ขั้นที่ห้าบรรลุไปถึงชีพจรยุทธ์ขั้นที่หกแล้ว
แม้ว่าจะไม่มาก แต่ก็นับว่าได้ผล
เมื่อเห็นว่าเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ยังเกาะแกะนางอยู่
กู้ชูหน่วนชี้ไปที่เลือดสีดำบนพื้น
“เจ้างู เจ้าอยากให้ข้าตายไปเดี๋ยวนี้รึไง หรือว่าเจ้าตาบอด ไม่เห็นว่าข้ากินยาเข้าไป จำเป็นต้องขับเคลื่อนลมปราณปรับลมหายใจ เพื่อหลอมละลายยาหรือ?”
“แม้แต่ยาระดับเจ็ดนายหญิงก็กินมาแล้ว แค่ระดับสองจิ๊บจ๊อยสร้างการทำร้ายอะไรนายหญิงไม่ได้หรอก”
แม้ว่าตอนนี้นายหญิงจะเปลี่ยนเป็นอีกร่างหนึ่ง ก็ยังคงสร้างการทำร้ายอะไรไม่ได้
นายหญิงไม่ได้เป็นคนที่จะยืมใช้ร่างกายของผู้คนไปเรื่อยเปื่อยสักหน่อย
ร่างกายร่างนี้ที่นางเลือก จะต้องเป็นร่างกายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นแน่
กู้ชูหน่วนเลิกคิ้ว “ระดับเจ็ด เจ้าบอกว่าข้าเคยกินยาระดับเจ็ดไป?”
ยาระดับเจ็ดจะต้องฝืนกฎธรรมชาติมากเพียงใด นี่จะเป็นไปได้อย่างไร?
อีกทั้งหากนางเคยกินยาระดับเจ็ดไป ตอนนี้จะยังเป็นเพียงแค่ชีพจรยุทธ์เล็กๆได้หรือ?
เกรงว่าคงจะบรรลุระดับหนึ่งไปนานแล้วล่ะมั้ง
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ปิดปากของมัน ดวงตามีความคลุมเครือเล็กน้อย
“ในฝันเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เห็นว่านายหญิงเคยกินยาระดับเจ็ดเข้าไป”
กู้ชูหน่วนมุมปากกระตุก
“เก็บของทุกอย่างเข้าไปแล้วหรือ?”
“ยัง”
“งั้นยังไม่รีบเก็บอีก”
“ในนี้ไม่ได้มีของดีอะไรสักหน่อย มีอะไรให้เก็บกัน ไปเก็บของอร่อยๆที่ห้องครัวยังจะดีซะกว่า”
เมื่อเห็นสีหน้าไม่เป็นมิตรของกู้ชูหน่วน เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์จึงตอบรับด้วยความไม่เต็มใจ
“ก็ได้ก็ได้ เก็บก็เก็บ แต่เจ้าเสือน้อยที่นายหญิงพูด……”
“เด็กดีเก็บให้ดี ประเดี๋ยวข้าจะตรวจดู ข้าไปที่ห้องหลอมยาก่อน เจ้าจัดการให้เรียบร้อย แล้วมาหาข้าที่ห้องหลอมยา”