อีกทางหนึ่ง เย่จิ่งหานจับที่เท้าแขนของรถเข็นไว้แน่นอย่างควบคุมไม่ได้ ดวงตาอันโหดร้ายทั้งคู่เพ่งมองไปที่แหวนมิติบนเวทีติดๆ จิตใจเต้นระรัวขึ้นอย่างฉับพลัน
เขาไม่ได้นั่งกับคนตระกูลไป๋หลี่ แต่อยู่ในห้องส่วนตัวอีกห้องต่างหาก
ด้านหลังมีชิงเฟิงและเจี่ยงเสวียยืนอยู่ด้านหลังสองคน
ชิงเฟิงและเจี่ยงเสวียทั้งสองคนก็ตกใจไม่เบาเช่นกัน
ชิงเฟิงถึงกับอุทานว่า “เป็นแหวนมิติของพระชายา ทำไมจึงได้ปรากฏอยู่ในงานประมูลของแคว้นน้ำแข็งในตอนนี้ได้?”
ทั่วทั้งร่างของเย่จิ่งหานเย็นยะเยือกจนทำให้ผู้คนไม่กล้าเข้าใกล้
ดวงตาอันเฉียบคมดั่งนกอินทรีทั้งคู่นั้นแฝงไปด้วยความแคลงใจ
แหวนมิติวงนั้นเป็นแหวนที่อี้เฉินเฟยมอบให้อาหน่วน โดยปกติอาหน่วนเห็นมันสำคัญซะยิ่งกว่าชีวิตซะอีก ก่อนที่นางจะเสียชีวิตก็สวมแหวนวงนั้นอยู่ตลอด เป็นไปไม่ได้ที่เผ่าหยกจะถอดออกให้นางอย่างไร้เหตุผล
ศพของอาหน่วน……จะต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่
หรือกล่าวอีกอย่างว่า เผ่าหยกจะต้องเกิดเรื่องขึ้นเป็นแน่
“เจี่ยงเสวีย คิดวิธีติดต่อกับคนของแคว้นเย่ จะต้องสืบให้กระจ่างให้ได้ว่าศพของอาหน่วนเกิดเรื่องขึ้นหรือไม่ แล้วแหวนมิตินั่นมาอยู่ที่งานประมูลได้อย่างไร”
“ขอรับ”
เจี่ยงเสวียขมวดคิ้ว
ที่นี่คือทวีปปิงหลิง คิดจะติดต่อกับคนทวีปเย่หยู่ของพวกเขา ยากลำบากเกินไปแล้ว
ตอนนั้นพวกเขาก็ทุ่มเทไปอย่างมาก กว่าจะฉีกมิติ มาถึงที่นี่ได้
บนเวที พิธีกรหัวเราะและกล่าวว่า “แหวนมิติ เริ่มประมูลที่ หนึ่งหมื่นตำลึง”
“หนึ่งหมื่นสองพันตำลึง”
“หนึ่งหมื่นห้าพันตำลึง”
“หนึ่งหมื่นแปดพันตำลึง”
“……..”
“ห้าหมื่นตำลึง……..”
ผู้คนที่อยู่ด้านล่างต่างแย่งชิงเพื่อเสนอราคาเพิ่ม ชั่วพริบตาเงินก็พุ่งขึ้นไปถึงห้าหมื่นตำลึงแล้ว
ชิงเฟิงกล่าว “นายท่าน ท่านวางใจได้ ข้าน้อยจะต้องประมูลแหวนมิติวงนี้มาให้ได้อย่างแน่นอน”
ในห้องส่วนตัวของตระกูลไป๋หลี่
สายตาของไป๋หลี่เจิ้นกับไป๋หลี่หยุนเยว่และคนอื่นๆล้วนเปล่งประกาย ให้ความสนใจต่อแหวนมิติเป็นอย่างมาก
พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นยอดฝีมือระดับสี่ หลายปีมานี้ก็ติดอยู่ที่คอขวดมาตลอด ไม่สามารถบรรลุได้ถึงระดับห้าสักที
หากเอาแหวนมิติวงนั้นมาได้ ไม่ต้องพูดถึงว่าจะสามารถเก็บซ่อนสมบัติได้ แต่ก็เป็นไปได้มากว่ายันต์อักขระในนั้นจะสามารถช่วยพวกเขาให้บรรลุไปถึงระดับห้าได้
ลูกศิษย์ในตระกูลก็สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างไม่รู้จบ
แหวน…….พวกเขาจะต้องเอามาให้ได้
คนรับใช้ผู้หนึ่งเข้ามารายงานด้วยความรีบร้อน
“รายงานผู้อาวุโสทั้งสอง หัวหน้าตระกูลถ่ายทอดคำพูดมา ให้ผู้อาวุโสทั้งสองจำเป็นต้องประมูลแหวนมิติวงนั้นมาให้ได้ขอรับ”
“เจ้ากลับไปบอกหัวหน้าตระกูล คืนนี้เจ้าของแหวนมิติวงนี้ จะต้องเป็นเพียงของตระกูลไป๋หลี่ของพวกเราเท่านั้น”
“ขอรับ”
นักควบคุมสัตว์ในห้องส่วนตัวเอ่ยปากขึ้นอย่างฉับพลัน “ผู้อาวุโสทั้งสอง ราชางูเหลือมบอกว่า มันต้องการแหวนวงนี้”
“อะ……อะไร…….ราชางูเหลือมก็อยากได้แหวนวงนี้เช่นกันรึ?”
งูตัวหนึ่ง จะใส่แหวนทำไม?
มันมีมือให้ใส่หรือ?
วันนี้ราชางูเหลือมว่านอนสอนง่ายและเชื่องเป็นพิเศษ ย่อตัวเล็กลงพันอยู่บนข้อมือของไป๋หลี่เจิ้น ทำให้ไป๋หลี่เจิ้นอารมณ์เบิกบานตลอดทั้งวัน เดินโอ้อวดไปทุกที่
ราชางูเหลือมยอมที่จะติดตามเขา ก็พิสูจน์ว่ามันมีความตั้งใจจะยอมรับเจ้าของ สำหรับเขาแล้วนี่เป็นเรื่องที่ดีมากที่สุดเรื่องหนึ่งอย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้……
ไป๋หลี่เจิ้นกล่าว “อันนี้……..ในงานประชุมยังมีของดีๆอีกมากมาย ไม่งั้น เจ้ารอว่าถูกใจอะไร ข้าจะประมูลมาให้เจ้าโดยไร้เงื่อนไข แหวนวงนี้……ในเมื่อหัวหน้าตระกูลมีคำสั่งแล้ว ไม่งั้นก็……”
“ฟ่อฟ่อ…….”
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์แยกเขี้ยวใส่เขาด้วยความไม่พอใจ
นักควบคุมสัตว์กล่าวอธิบาย “ราชางูเหลือมบอกว่า มันต้องการเพียงแค่แหวนมิติวงนี้เท่านั้น ไม่ต้องการอย่างอื่น”
“เจ้าถามมันซิว่า มันต้องการแหวนมิติไปทำอะไร”
“มันบอกว่า มันอยากได้ก็เป็นธรรมดาที่จะมีเหตุผลของมัน บอกพวกท่านว่าอย่ามายุ่ง”
“เอ่อ……”
ไป๋หลี่เจิ้นและไป๋หลี่หยุนเยว่มองหน้ากัน ไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไร
นักควบคุมสัตว์กล่าวต่อ “ราชางูเหลือมยังพูดอีกว่า ไม่ว่าใคร เพียงแค่ช่วยมันประมูลแหวนมิติมาได้ มันก็จะทำข้อตกลงความสัมพันธ์กับผู้นั้น เป็นสัตว์เลี้ยงของผู้นั้น”
ฉับพลันนั้นดวงตาของไป๋หลี่เจิ้นและไป๋หลี่หยุนเยว่ก็เปล่งประกายขึ้นทันที