กู้ชูหน่วนอึ้ง
เวินเส้าหยีก็ยิ่งอึ้ง
เข้าห้องหอ?
ได้อย่างไร?
กู้ชูหน่วนพูดขึ้นว่า “โบราณว่าการแต่งงานต้องเป็นไปตามพ่อแม่เป็นคนจัดการ แม่สื่อเป็นคนดำเนินการ แต่งงานกันเลยแบบนี้ ไม่ดีมั่ง”
“พ่อแม่เป็นคนจัดการ แม่สื่อเป็นคนดำเนินการอะไร คนของเราที่นี่ขอเพียงรักชอบพอใจกันและกัน ก็แต่งงานกันเลย และผู้หญิงคนหนึ่งสามารถมีผู้ชายได้หลายคน”
“วัขนบธรรมเนียมของพวกเจ้าที่นี่ค่อนข้างเปิดกว้าง แต่ขนบธรรมเนียมท้องถิ่นต่างกัน เรายังคงอยากได้ความเห็นชอบของพ่อแม่”
“เจ้าแก้ตัวบ่ายเบี่ยงตลอด หรือว่าพวกเจ้าไม่ใช่คู่หมั้นกัน เขาเป็นไส้ศึกของเผ่าเค่อล่อ?”
พูดคำว่าไส้ศึกออกมา คนชนพื้นเมืองทั้งหมดถืออาวุธขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมเล่งไปที่เวินเส้าหยี
“จะเป็นไปได้อย่างไร”
กู้ชูหน่วนหันไปมองเวินเส้าหยีอย่างฝืนยิ้ม แทบจะกัดฟันพูดขึ้นว่า “ยังไงเราสองคนก็รักชอบพอใจกันและกัน พวกเจ้าอยากช่วยจัดงานแต่งงานให้พวกเรา เราจะปฏิเสธได้อย่างไร แต่งงานเสียที่นี่ก็ได้”
เวินเส้าหยีขมวดคิ้ว
เขากำลังอยากพูดอะไรบ้าง กู้ชูหน่วนก็แย่งพูดขึ้นว่า “หัวหน้าเผ่า ไม่ทราบว่าอีกสามวันค่อยจัดงานแต่งดีไหม”
อีกสามวันร่างกายของเขาก็หายชาแล้ว ถึงตอนนั้นค่อยช่วยกันคิดหาวิธีหนีออกไปจากชนพื้นเมือง
“เลือกวันสู้วันที่เหมาะสมไม่ได้ จัดคืนนี้เลย”
“อะไรนะ? คืนนี้? เร็วเกินไปไหม พวกเรายังไม่ได้เตรียมความพร้อมเลย”
“เตรียมความพร้อมอะไร ที่ควรมีที่นี่เรามีหมด เอาตามนี้แหละ คืนนี้จัดงานแต่งงาน”
กลุ่มชนพื้นเมืองโอบอุ้มพากู้ชูหน่วนกับเวินเส้าหยีกลับไป แต่ละคนยกอาวุธขึ้นมาพร้อมร้องฮู้
กู้ชูหน่วนไม่เข้าใจความคิดของพวกเขา
คนพวกนี้เดี๋ยวก็เห็นพวกเขาเป็นศัตรู เดี๋ยวก็เห็นพวกเขาเป็นผู้มีพระคุณ
นางดิ้นรน แต่ก็สู้ความกระตือรือร้นของพวกเขาไม่ได้ ทำได้เพียงตะโกนพูดขึ้นว่า “หัวหน้าเผ่า เขาบาดเจ็บ ไม่สามารถขยับเคลื่อนไหมได้ยังน้อยก็รอให้ร่างเขาดีขึ้นหน่อยค่อยจัดงานแต่งงานดีไหม”
อาต้าอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า “ทำไมเจ้าเรื่องมากจังเลย เรื่องเข้าห้องหอ ใช่ว่าต้องให้ผู้ชายออกแรงคนเดียว ผู้หญิงเริ่มก่อนก็หมดเรื่อง”
“ฮือ?”
นี่ตรรกะอะไร?
ปกติเข้าห้องหอผู้ชายเร่ิมก่อนไม่ใช่หรือ?
ไม่รอนางพูดตอบ ทั้งสองคนถูกพามายังแท่นบูชา
คนในเผ่าทั้งเด็กและผู้ใหญ่รวมตัวกันรอบกองไฟ จับมือกันพร้อมตะโกนร้องว่า
“คำนับฟ้าคำนับพื้นดินแล้วก็คำนับกันและกัน พวกเจ้าก็เป็นสามีภรรยากันแล้ว อันดับแรกไหว้คำนับฟ้า….”
กู้ชูหน่วนรู้สึกเสียวซ่าที่หนังศีรษะ พร้อมพูดขึ้นว่า “เดี๋ยวก่อน วันนี้เป็นวันแต่งงานของเรา พวกเรา….ไม่ต้องสวมชุดสีแดงหรือชุดมงคงหรือ? หรือ…เตรียมให้เขาสักชุด?”
“เสื้อผ้า? ที่นี่พวกเราสวมเสื้อผ้าที่ทำมาจากสัตว์ อีกอย่าง เขาสวมชุดใบไม้ ไม่ใช่สีแดง หลังจากเข้าห้องหอแล้ว ข้าให้คนเตรียมเสื้อผ้าที่ทำมาจากสัตว์ให้”
“แล้วข้าล่ะ ที่ข้าสวมใส่อยู่เป็นสีเหลือง”
“เสื้อผ้าที่ทำมาจากสัตว์ของผู้หญิงเหมือนจะไม่มี หรือให้เจ้ายืมเสื้อผ้าชุดนี้ของข้า”
“งั้นไม่ต้อง ข้าสวมชุดของตนเองดีกว่า”
ล้อเล่นอะไร ให้นางใส่ชุดที่แทบปกปิดอะไรไม่ได้เลย ให้นางสลบไปเลยจะดีกว่า
อาต้าตะโกนพูดขึ้นมาอีกครั้งว่า หนึ่ง ไหว้คำนับฟ้า
เวินเส้าหยีไม่ยินยอม
กู้ชูหน่วนจำต้องใช้เสียงที่ได้ยินกันเพียงสองคน พูดกับเขาว่า “ยังไงก็แต่งงานกันปลอมๆ ทำไปก่อนเถอะ ผ่านปัญหาตรงหน้านี้ไปแล้วค่อยคิดหาทางหนี”
เวินเส้าหยียังคงไม่ยอมไหว้คำนับ กู้ชูหน่วนจึงกดหัวของเขาไหว้คำนับ พร้อมพูดขึ้นว่า “เขาบาดเจ็บ ไม่สามารถขยับเคลื่อนไหว ข้าช่วยเขา”
เวินเส้าหยีจ้องมองดูกู้ชูหน่วนอย่างโมโห
“สามีภรรยาคำนับกันและกัน”
“สอง ไหว้คำนับพื้นดิน ยังไม่ได้ไหว้เลย”
“ไหว้คำนับฟ้าก็คือไหว้คำนับพื้นดิน ตอนนี้พวกเจ้าสามีภรรยาคำนับกันและกันก็พอแล้ว”
“นี่ตรรกะอะไร?…”
“พวกเราก็ฟังมาจากคนข้างนอกที่บุกรุกเข้ามา ได้เรียนรู้ขนบธรรมเนียมบางอย่างจากภายนอก เป็นไง ไม่ทำให้พวกเจ้าเสียเปรียบใช่ไหม”
กู้ชูหน่วนหัวเราะ แล้วก็กดหัวเวินเส้าหยีไหว้คำนับอีกครั้ง