อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 974 เปิดเรียน
ในขณะที่เงาดำกำลังก้าวมาใกล้นางทีละก้าว กู้ชูหน่วนพลิกตัว หาท่านอนที่สบายแล้วก็นอนต่อ ปากก็พูดอุบอิบขึ้นว่า “เจ้าผีเสื้อ ไม่ต้องกลัว พวกเราปลอดภัยแล้ว”
เวินเส้าหยียกฝ่ามือขึ้นมา กำลังจะฟาดตบกู้ชูหน่วนให้ตาย
จู่ๆเวินเส้าหยีก็พูดห้ามว่า “ช่างเถอะ เก็บชีวิตของนางฝากไว้ก่อน เราไปกันเถอะ”
“ขอรับ”
“ซิ้ว…”
ราวกับลมพัดผ่าน เวินเส้าหยีกับลูกน้องของเขาหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย แม้แต่หายไปยังไงก็ไม่รู้
กู้ชูหน่วนค่อยๆลืมตาขึ้น แล้วก็พรวดลุกขึ้นมานั่ง
ฮู้…..
ยังดีที่นางฉลาดพอ ไม่งั้นหัวสมองบนขอคงไม่มีแล้ว
เจ้าผีเสื้อไปแล้ว นางอยู่ที่นี่ ต่อให้กระโดดลงไปในแม่น้ำเหลือง ก็อธิบายกับพวกชนพื้นเมืองไม่รู้เรื่องแน่
กู้ชูหน่วนจึงแอบหลบหนีออกไปเช่นกัน
ชนพื้นเมืองมีคนเฝ้าเวรยาม โชคดีที่ในมือกู้ชูหน่วนยังมีผงหลอนประสาทอยู่บ้าง ทำให้ชนพื้นเมืองสลบ แล้วค่อยหลบหนีไป
เสียดาย
นางหนีออกมาจากชนพื้นเมืองได้ กลับออกไปจากหุบเขาใหญ่ไม่ได้
หุบเขาที่นี่เชื่อมกันอย่างต่อเนื่อง นางเดินมาสองวันก็ออกไปไม่ได้ จนตัวเองแทบหมดแรง ยังดีที่เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กับเจ้าเสือน้อยมาทันเวลา แล้วพานางออกไป
“นายหญิง วิทยาลัยอี้เหอเปิดเรียนแล้ว ท่านจะไปวิทยาลัยอี้เหอไหม?”
“เปิดเรียนวันแรกหรือ? งั้นก็แสดงว่าพลาดช่วงเวลาสอบเข้าแล้วสิ?”
“คนอื่นต้องสอบเข้าวิทยาลัยอี้เหอ ส่วนท่าน อาศัยเส้นสายเดินเข้าไปได้เลย ข้าไปดูรายชื่อแล้ว มีชื่อของท่าน”
“ฮ่าๆ ตาเฒ่าของตระกูลหนิงพอใช้ได้ ไป เราไปยังวิทยาลัยอี้เหอ”
“นายหญิง ต่อไปเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์สามารถติดตามข้างกายท่านได้ไหม?”
“ยังไม่ได้ ตระกูลไป๋หลี่ยังไม่ล้มละลาย”
“อ๋า?”
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์นิ่งอึ้ง
พวกเขาหลอกลวงเงินของตระกูลไป๋หลี่มาตั้งมากมายขนาดนั้นแล้ว ยังไปหลอกอีกหรือ?
ไปหลอกลวงอีก หนังงูของมันก็จะถูกถลอกแล้ว
“นายหญิง เอาแหวนมิติมาเมื่อครั้งที่แล้ว ก็หลอกลวงเงินของคนอื่นมาตั้งมากมายขนาดนั้น เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กลับไปไม่ได้แล้ว”
“เจ้าฉลาดขนาดนั้น จะต้องมีวิธีทำให้พวกเขาเชื่อมั่นเจ้าอีกครั้งแน่ เชื่อฟัง ตั้งใจเป็นสายลับอยู่ในตระกูลไป๋หลี่ให้ดีดี”
หลังจากเข้ามาในพระนคร กู้ชูหน่วนก็ทิ้งเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ จูงเจ้าเสือน้อยเดินมุ่งหน้าไปยังวิทยาลัยอี้เหอ
สีหน้างูเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์โศกเศร้าน่าสงสาร
การมาของเจ้าเสือน้อยทำให้มันไม่เป็นที่ชื่นชอบแล้ว
หรือว่าหลังจากที่นายหญิงสูญเสียความทรงจำ ลักษณะนิสัยเปลี่ยนไป ดังนั้นมันจึงไม่เป็นที่ชื่นชอบแล้ว
ในขณะที่เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กำลังโศกเศร้า เสียงของกู้ชูหน่วนก็ดังขึ้นมาอีกครั้งว่า
“รอข้าตั้งหลักมั่นคงอยู่ในวิทยาลัยอี้เหอ ข้าก็จะรับเจ้ากลับไป”
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์มีชีวิตชีวาขึ้นมา แลบลิ้นออกมาพร้อมยิ้มซี๊ดๆ จากนั้นก็มุ่งหน้ากลับไปยังตระกูลไป๋หลี่
วิทยาลัยอี้เหอเปิดเรียนวันแรก ที่นี่มีคนมากมาย ไม่ว่าคนยังไงก็ล้วนเต็มไปหมด
หนึ่งในนั้นแบ่งออกเป็นสองพรรคพวก พวกที่หนึ่งคือพวกผู้ลากมากดี
อีกพวกหนึ่งคือชาวบ้านธรรมดา
พวกผู้ลากมากดียืนอยู่อย่างสูงส่ง สีหน้าหยิ่งผยอง มองสายตาที่มองดูนักเรียนคนธรรมดาเต็มไปด้วยความดูถูก ยังมีผู้สูงศักดิ์ไม่น้อยที่อาศัยอำนาจบาตรใหญ่ของตระกูลตนเอง ดูถูกเหยียดหยามหัวเราะเยาะนักเรียนคนธรรมดา
กู้ชูหน่วนเดินก้าวเข้ามา สายตาที่ดูถูกเหยียดหยามทั้งหมดล้วนหันมามอง โดยเฉพาะนักเรียนที่มาจากตระกูลสูงศักดิ์
“เจ้าเศษสวะเข้ามาในวิทยาลัยอี้เหอได้อย่างไร ไหนบอกว่าปีนี้ไม่ให้เจ้าเข้ามาไม่ใช่หรือ?”
“เจ้ายังไม่รู้หรือ? พวกเขาไปขอร้องคนที่มีความสัมพันธ์อย่างขมขื่น สุดท้ายสามารถอาศัยเส้นสายเข้ามา”
“อาศัยเส้นสายอีกแล้ว ข้าก็ว่าแหละ แค่เศษสวะคนหนึ่งจะสามารถเข้ามาในวิทยาลัยอี้เหอได้อย่างไร”
กู้ชูหน่วนขี้เกียจสนใจไม่ว่าคนอื่นจะพูดว่านางอย่างไร
นางมองดูคนคนหนึ่งอยู่อย่างไกลๆ เซียวหยู่เซวียน
กู้ชูหน่วนเดินเอามือไปวางบนไหล่ของเซียวหยู่เซวียน พร้อมพูดขึ้นว่า “เสี่ยวเซวียนเซวียน เราเจอกันอีกแล้ว เจ้ามาสมัครเรียนที่วิทยาลัยอี้เหอหรือ?”
เซียวหยู่เซวียนหันไปมอง เห็นว่าเป็นกู้ชูหน่วน มุมปากก็อดไม่ได้ที่จะยักยิ้มขึ้นมา เขารู้อยู่แล้วว่าภูเขาเจียงเจ๋อทำอะไรนางไม่ได้
“มาดูเฉยๆ”
มาดูว่านางปลอดภัยดีหรือเปล่า
ส่วนสมัครเรียนในวิทยาลัยอี้เหอ เขาไม่สนใจ
“แค่วิทยาลัยมีอะไรน่าดู อีกสามวันเป็นวันงานชุมนุมควบคุมสัตว์แล้ว เราเข้าไปในวิทยาลัยด้วยกัน เพื่อที่จะได้เข้าร่วมงานชุมนุมควบคุมสัตว์ดีไหม”