ร่างกายเซียวหยู่เซวียนราวกับพายุหมุน ข่มเสือดาวทั้งสองตัวด้วยไอพายุเชือดเฉือนมหาศาล
เพียงโบกแขนเสื้อเบาๆ สัตว์อสูรระดับสองขั้นสูงก็ถูกผ่าออกเป็นสอง ตายในทันที
ครั้นเสือดาวตาย หยางโม่ก็พลันโล่งอก
จากนั้นเขาก็มองเซียวหยู่เซวียนด้วยความทึ่ง อย่างไรก็ไม่กล้าเชื่อว่าเมื่อครู่เซียวหยู่เซวียนใช้แค่หนึ่งกระบวนท่าก็ล้มเสือดาวระดับสองขั้นสูงได้แล้ว
ฝีมือระดับนี้ เกรงว่าสี่เจ้าบ้านตระกูลใหญ่ก็คงต้องทอดถอนใจกระมัง?
แล้วพอเห็นอีกฝ่ายมีอายุอานามเพียงยี่สิบต้นๆ เนื้อตัวเปื้อนไปด้วยเลือด สันหลังเหยียดตรง ท่ามกลางสายลมอ่อนโชย แววตาของเขาพกพาความอ่อนโรยนิดๆ แล้วไม่ทราบว่าผ่านเรื่องราวอันใดมาบ้าง
แต่เขามีรูปลักษณ์งามสง่า บุคลิกเหนือผู้คน ไม่ว่าอยู่แห่งหนไหนต้องเป็นที่สะดุดตา
แต่ที่ทำให้เขาระทึกใจยิ่งกว่า คือทั้งที่เขาบาดเจ็บสาหัส หน้าซีดเหมือนกระดาษ แต่เขากลับยังคงสามารถแสดงพลังได้มากขนาดนี้
ฝีมือนี้ ไหนเลยยังต้องเข้าศึกษาที่วิทยาลัยอี้เหออีก?
“ถูกตีจนโง่งมไปแล้วหรือ?”
กู้ชูหน่วนปรากฏตัวขึ้นเมื่อใดก็ไม่ทราบ โบกมือตรงหน้าหยางโม่
เมื่อนั้นหยางโม่จึงรู้สึกตัวขึ้นมา อดกลั้นความเจ็บปวดอย่างหนักและกล่าวขอบคุณ “ขอบคุณสหายเซียวที่ช่วยเหลือ หากไม่ใช่เจ้า เกรงว่าผู้หยางต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่แล้ว”
“เจ้าควรขอบคุณนางต่างหาก” หากมิใช่เพราะมู่หน่วนต้องการช่วย เขาก็ไม่เปลืองแรงหรอก
“ใช่ๆๆ สหายเซียวกล่าวได้ถูกต้อง หยางโม่ขอบคุณแม่นางมู่มากที่ผดุงคุณธรรมช่วยเหลือ”
“ให้น้อยๆ หน่อยเถอะ ทำไมเสือดาวสองตัวนั้นจะฆ่าเจ้าได้?”
“ส่วนลึกของโบราณสถานมีของวิเศษ เพื่อนไม่ให้พวกเราจะชิงของวิเศษกับพวกมัน สัตว์อสูรระดับสูงจำนวนมากจึงดักฆ่าพวกเราระหว่างทาง”
“แต่เจ้าก็ระดับสองเองนี่ กลับเดินมาถึงนี่ได้?”
กู้ชูหน่วนมองเขาด้วยความเคลือบแคลงสงสัย
หรือว่าเขาก็กินยาระดับห้าเหมือนกัน?
หยางโม่ยิ้มเจื่อน “แม่นางมู่คงไม่ทราบ สำนักใหญ่ต่างๆ ล้วนมียาและอาวุธวิเศษจำนวนหนึ่ง สามารถทัดทานพลังแกร่งกล้าของส่วนลึกโบราณสถานได้”
กู้ชูหน่วนพลันกระจ่าง แล้วพาเซียวหยู่เซวียนเดินไปข้างหน้าต่อ
หยางโม่ตะลึงงัน
นี่ก็จะไปแล้ว?
ไม่เห็นหรือว่าเขาบาดเจ็บหนัก?
แม้แต่ความคิดจะทำแผลให้ก็ไม่มี?
“แม่นางมู่…”
“มีอะไร?”
“ปะ…เปล่า ข้างในอันตรายมาก แม่นางมู่อย่าเข้าไปเลยจะดีกว่า”
หรือว่านางไม่รู้ว่าเขาคือองค์ชาย?
มีคนเท่าไรที่อยากประจบเขา
แต่นางสิ ช่วยเขาแล้วก็จะไปทั้งอย่างนี้?
ไม่อยากได้อะไรจากเขาเลยหรือ?
“เรื่องนี้มีคนบอกข้าแล้ว”
กู้ชูหน่วนไม่แม้แต่จะเหลียวหลัง
หยางโม่เห็นกายทั้งสองมีเลือดซึมจนแดง แต่ก็ยังมุ่งมั่นที่จะไปต่อ
ส่วนเขา ในฐานะที่เป็นองค์ชายเพียงหนึ่งเดียวของแห่งแคว้นน้ำแข็ง แต่วรยุทธ์กลับอยู่แค่ระดับสอง
เขาต้องพัฒนาฝีมือด้วยเวลาสั้นที่สุดถึงจะดี
เมื่อคิดเช่นนี้ เขาจึงทำแผลอย่างลวกๆ แล้วเดินกะเผลกตามกู้ชูหน่วนและเซียวหยู่เซวียน
แต่จู่ๆ สองคนที่อยู่ข้างหน้าก็หยุด มองรอบๆ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
หยางโม่ชะงักงัน ไม่ทราบด้วยสาเหตุ
เขาฉงนฉงายเงยหน้าขึ้น แต่ก็เห็นทุกอย่างโดยรอบเป็นปกติ ไม่มีสัตว์อสูรอะไร ไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงมีสีหน้าเคร่งเครียดขนาดนั้น
แล้วจู่ๆ ก็มีหิมะตก
หยางโม่ยื่นมือรับหิมะ แหงนหน้ามองอีกครั้ง เห็นหิมะปลัดหลิวอยู่ทั่วท้องฟ้า
ตอนนี้เป็นหน้าร้อน ทำไมถึงหิมะตกได้?
ซี้ด…
สายลมพัดมาวูบหนึ่ง พกพาจิตสังหารอันเย็นเฉียบ หยางโม่พลันเปลี่ยนสีหน้า และจึงจะพบอันตรายอย่างความรู้สึกช้า รีบตะโกนไปทางสองคนด้านหน้า
“อันตราย รีบหนีไป”
กู้ชูหน่วนมุมปากกระตุก
ถูกสกัดทั้งสี่ด้านแปดทิศแล้ว จะไปไหนได้อีก?
“ฟิ่ว…”
เหนือใต้ออกตกสี่ทิศมีผู้เฒ่าปิดหน้าสี่คนตกลงมาทิศละคน พอพวกผู้เฒ่าปิดหน้าปรากฏตัวออกมา ก็เข้าล้อมพวกเขาทันที
กลิ่นอายของคนแกร่งมิอาจปกปิด
หยางโม่หน้าซีดเผือด
แค่ยืนอยู่ข้างพวกเขาก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันไร้รูปลักษณ์แล้ว กดดันจนเขาอยากลงไปอยู่กับพื้นอย่างอดไม่ได้
กลิ่นอายทรงพลัง
หรือว่าสี่คนนี้ก็คือสี่เจ้าบ้านตระกูลใหญ่
ไม่ ดูจากรูปร่างแล้วไม่ใช่สี่เจ้าบ้านตระกูลใหญ่
ทวีปปิงหลิงมีคนเก่งมากมายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร ทำไมเขากลับไม่รู้
เซียวหยู่เซวียนสายตาเยือกเย็น เอ่ยเสียงต่ำ “สี่คนนี้ฝีมือถึงระดับห้า เจ้าอยู่ต่อก็ไม่มีประโยชน์ เดี๋ยวเสาะโอกาสไปเถอะ รักษาชีวิตเอาไว้ก่อน”
“ก็แค่สู้ตายไม่ใช่หรือ ใช่ว่าจะไม่เคยมาก่อน ข้าจะอยู่ร่วมเป็นร่วมตายกับเจ้า”
กู้ชูหน่วนกุมมือเซียวหยู่เซวียน แล้วยิ้มบางๆ กับเขา ปลอบใจด้วยความอบอุ่น
เซียวหยู่เซวียนกรอบตาแดง
เกิดความคิดที่ไม่อยากให้กู้ชูหน่วนฟื้นคืนชีพเป็นครั้งแรก
การที่วิญญาณยัยขี้เหร่อยู่ในตัวนาง ก็ดีมาก…
“ฟืดๆๆ…”
จากที่ไกลๆ มีคนมาอีกกลุ่มหนึ่ง
กลุ่มนี้นำโดยไป๋หลี่หมิง อึกทึกครึกโครม แต่ละคนสะพายธนูลูกศร ห้อมล้อมเป็นวงกลม ล้อมกู้ชูหน่วน เซียวหยู่เซวียน หยางโม่ และคนแกร่งกล้าระดับห้าสี่คนเอาไว้ เล็งธนูมาที่พวกเขา
การลอบสังหารกู้ชูหน่วนเมื่อก่อนหน้านี้ พวกเขายังพอเล่นเป็นละครปกปิดฐานะได้ แต่ครั้งนี้พวกเขากลับลอบสังหารอย่างโจ่งแจ้ง คนที่ส่งมาก็มีมากกว่าเมื่อก่อนมาก
หยางโม่เอ่ยเสียงเย็น “ไป๋หลี่หมิง นี่เจ้าจะทำอะไร?”
“องค์ชายรองก็มาด้วยหรือนี่ ในเมื่อท่านก็เห็นแล้ว เช่นนั้นข้าไม่ต้องปิดบังอะไรอีก วันนี้ข้าต้องการฆ่ามู่หน่วนกับเซียวหยู่เซวียน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่าน องค์ชายรองโปรดอย่ายุ่งเรื่องนี้”
“พวกเขาสองคนก็เป็นนักเรียนวิทยาลัยอี้เหอเหมือนกัน นี่เจ้าจะเข่นฆ่าเพื่อนร่วมสำนักอย่างโจ่งแจ้งหรือ?”
ไป๋หลี่หมิงเอ่ยกร้าว “ฟังจากน้ำเสียงองค์ชายรอง ท่านจะยุ่งเรื่องนี้หรือ?”
“พวกเขาเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตของข้า ขอเพียงข้ายังมีลมหายใจ จะไม่ยอมให้ผู้ใดสังหารพวกเขาเด็ดขาด”
แม้หยางโม่จะเป็นองค์ชาย แต่ก็ไม่สนิทชิดเชื้อกับตระกูลไป๋หลี่ แล้วยังถึงกับเป็นปรปักษ์กับพวกเขาอยู่เสมอ โดยเฉพาะกับไป๋หลี่หมิง
ก่อนหน้านี้ที่อดทนก็เพราะเห็นแก่ฐานะองค์ชายของเขา
ตอนนี้อยู่ในภูเขาสัตว์วิเศษ ต่อให้สังหารคนที่อยู่ตรงหน้า ก็ไม่มีใครสงสัยมาถึงตัวเขา
จิตสังหารไป๋หลี่หมิงพุ่งทะยาน “ในเมื่อองค์ชายรองต้องการอยู่เป็นเพื่อนพวกเขาขนาดนั้น เช่นนั้นข้าก็จะส่งพวกเจ้าไปพร้อมกันเลย”
หลังจากสิ้นเสียงกร้าว บริวารสิบกว่าคนของไป๋หลี่หมิงก็ง้างคันธนู รอให้ไป๋หลี่หมิงออกคำสั่ง พวกเขาก็จะยิงออกไปทันที
หยางโม่เดือดดาล
การมาภูเขาสัตว์วิเศษนี้มีเพียงนักเรียนของวิทยาลัยอี้เหอที่เข้ามาได้ แต่ตระกูลไป๋หลี่กลับพายอดฝีมือมากมายปะปนเข้ามา และแม้แต่เขาก็ยังกล้าเอาชีวิต
นี่เป็นการดูแคลนราชวงศ์อย่างเปิดเผย ละเมิดกฎระเบียบทีสี่ตระกูลใหญ่บัญญัติขึ้น
ผู้แข็งแกร่งระดับห้าเอ่ยสี่นามเอ่ย
“วันนี้พวกเรามีเพียงจุดประสงค์เดียว นั่นก็คือเอาชีวิตของเซียวหยู่เซวียน สำหรับบุญคุณความแค้นของพวกเจ้า ก็จัดการกันเองเถอะ”
กล่าวจบ พวกเขาก็ปลดปล่อยความกดดันมหาศาลออกมา ทุกคนล้วนตระหนกจนหายใจลำบาก ใบหน้าซีดขาว
เลือดกำเดาหยดติ๋งๆ ลงมาเป็นทาง
คนเหล่านี้ล้วนมิใช่คนเขลา
และจะเขลาอย่างไรก็ทราบว่าสี่ผู้เฒ่าที่อยู่ตรงหน้าต้องมีฝีมือถึงขั้นสูงสุด และถึงขั้นว่าทัดเทียมกับเจ้าบ้านของพวกเขาได้เสียด้วยซ้ำ
ไป๋หลี่หมิงแทบอยากกำจัดเซียวหยู่เซวียนไวๆ จะได้ประหยัดแรงเขาอีกหน่อย
“ได้ เช่นนั้นก็ยกเซียวหยู่เซวียนให้พวกเจ้าแล้วกัน หวังว่าพวกเจ้าจะแยกร่างเขาเป็นแปดส่วน เชือดเฉือนเขาตายได้”
“วันนี้เขาหนีไม่พ้นแล้ว” ผู้เฒ่าหึเสียงเย็น เผยความแค้น
กู้ชูหน่วนหิ้วเจ้าเสือน้อยออกมา ออกคำสั่ง “เจ้าเสือน้อย ไม่ว่าเจ้าจะใช้วิธีอะไร ก็ต้องคุ้มครองชีวิตเสี่ยวเซวียนเซวียนให้ได้นะ”
“งาวๆ…”
เจ้าเสือน้อยพยักหน้าอย่างจริงจัง แยกเขี้ยวยิงฟันจ้องสี่ผู้เฒ่า
“เสี่ยวเซวียนเซวียน มอบเจ้าบื้อไป๋หลี่หมิงให้ข้าเถอะ เจ้าไม่ต้องสนใจข้า รักษาชีวิตตัวเองเป็นสำคัญ พวกเรา…ต่างคนต่างพยายามกันเถอะ”