อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1011 รับคมดาบ
เซียวหยู่เซวียนเป็นห่วงกู้ชูหน่วน แต่เผชิญกับผู้แกร่งกล้าระดับห้องสี่คน ตัวเขาเองก็ยากจะเอาตัวรอดเหมือนกัน
หากให้กู้ชูหน่วนเผชิญกับไป๋หลี่หมิง บางทียังอาจมีโอกาสรอดบ้าง แต่หากเผชิญหน้ากับเจ้าแก่หนังเหนียวสี่คนนั่น นางต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
“ระวังด้วย ไม่ต้องเป็นห่วงข้า โลกนี้คนที่อยากเอาชีวิตข้าเซียวหยู่เซวียนมีถมเถไป จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีผู้ใดทำสำเร็จ”
กล่าวจบ เซียวหยู่เซวียนก็เตือนไป๋หลี่หมิงด้วยความเฉียบคมของเหยี่ยว
“ถ้านังเด็กโง่เกิดเรื่องอะไรขึ้น ข้าเซียวหยู่เซวียนจะทำให้ตระกูลไป๋หลี่ตายพร้อมกับนางไปด้วยแน่”
แววตาเซียวหยู่เซวียนเย็นมาก เย็นจนทำให้คนสั่นสะท้าน ไป๋หลี่หมิงยังถึงกับคิดจะถอยชั่วขณะหนึ่ง
แต่พอนึกถึงว่ากู้ชูหน่วนฟันแขนเขาไปข้างหนึ่ง และเซียวหยู่เซวียนก็ชกเขาฟันหลุดด้วย ในเมื่อวันนี้มีความช่วยเหลือจากผู้แกร่งกล้าสี่คน เช่นนั้นไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะพลาดโอกาสนี้ไปไม่ได้
สนามรบแบ่งออกเป็นสองส่วน
ด้านหนึ่งคือเซียวหยู่เซวียน เจ้าเสือน้อยกับผู้แกร่งกล้าระดับห้าสี่คน
ด้านหนึ่งคือกู้ชูหน่วน หยางโม่และพวกของไป๋หลี่หมิง
สมรภูมิของผู้แข็งแกร่ง พวกเขาไม่ปรารถนาให้ผู้ใดรบกวน
กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าการต่อสู้ทางนั้นเป็นอย่างไรแล้ว รู้แต่เพียงฟ้าดินเปลี่ยนสี เสียงโครมๆ ดังไปทั่ว แม้แต่พื้นปฐพีก็ยังสั่นสะเทือน
แม้พวกเขาอยู่ห่างไกลมาก แต่จิตสังหารแรงกล้ากลับส่งคลื่นมาถึงต้นไม้โดยรอบ ส่งผลให้ล้มไปเป็นแถบๆ
แม้แต่เหล่าสัตว์อสูรนกเหินในป่าก็พากันหลีกหนีให้ไกล เอาชีวิตรอดกันจ้าล่ะหวั่น เกรงว่าช้าไปอีกก้าวเดียวจะต้องรับเคราะห์เป็นปลาในบ่อ
“ครืน…”
เป็นเสียงกัมปนาทอีกหน พิภพสะเทือนหนัก สะเทือนจนพวกเขาจวนจะยืนไม่ติด
ไป๋หลี่หมิงกลืนน้ำลายลงอึก
เขารู้แค่ว่าเซียวหยู่เซวียนมีฝีมือร้ายกาจมาก แต่ไม่รู้ว่าเขาจะแข็งแกร่งปานนี้ มิน่าเล่า คนที่ส่งไปล้วนถูกกำจัดหมด
ไม่ถูกกำจัดสิแปลก
เขารู้สึกโชคดีเป็นอย่างยิ่งที่ระหว่างทางมีผู้แกร่งกล้าสี่คนโผล่ออกมา มิเช่นนี้ที่ต้องตายวันนี้เกรงว่าจะเป็นพวกเขาเอง
กู้ชูหน่วนกับหยางโม่ก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าเซียวหยู่เซวียนได้รับบาดเจ็บหนักแล้วยังแข็งแกร่งถึงเพียงนี้
ดูท่าก่อนหน้านี้เขาเก็บซ่อนฝีมือมาตลอด
เขาเป็นใครกันแน่?
กู้ชูหน่วนอยากยุติการต่อสู้โดยเร็ว จะได้ไปช่วยเซียวหยู่เซวียน
กู้ชูหน่วนเอ่ย “ข้าจะให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ มิเช่นนี้ก็อย่าหาว่าข้าโหดเหี้ยมไร้ไมตรี”
หยางโม่อดทนต่อความเจ็บปวดรุนแรง เตือนครั้งสุดท้ายด้วยเสียงหนักเหมือนกัน
“ถ้าเจ้าล่าถอยเสียเดี๋ยวนี้ ข้าจะถือว่าไม่เคยเกิดอะไรทั้งนั้น ไม่อย่างนั้นราชวงศ์พวกเราจะไม่ไว้ตระกูลไป๋หลี่พวกเจ้าแน่”
“ถุย เจ้าเห็นข้าเป็นไอ้งั่งหรือ? ถอยตอนนี้ให้พวกเจ้ามาแก้แค้นข้าทีหลัง? จะบอกให้นะ วันนี้ถ้าไม่ใช่พวกเจ้ามอดคือข้าม้วย เด็กๆ ยิงธนู ยิงพวกมันให้ตาย”
เมื่อเสียงยิงธนูหนึ่งดังขึ้น หมื่นศรก็หลุดออกจากแล่งอย่างพร้อมเพรียง
กู้ชูหน่วนจับตามองพวกเขาตลอด
พอเห็นพวกเขายิงธนู ก็ถอดชุดตัวนอกของตัวเองทันที ผสานกำลังภายในกับชุดนอก จากนั้นก็ม้วนลูกศรที่พุ่งมาก่อนจะส่งกลับไป
ขณะเดียวกัน นางเร่งความเร็วถึงขีดสุด ทะยานตัวไปอยู่ตรงหน้าไป๋หลี่หมิง งอนิ้วทั้งห้าเป็นกรงเล็บ คิดจะหักคอไป๋หลี่หมิงให้หัก
ไป๋หลี่หมิงตกใจหน้าถอดสี ถอยหลังพรวดพราดแบบอัตโนมัติ
เคราะห์ดีที่ข้างกายเขายังมียอดฝีมือปกป้อง สกัดกู้ชูหน่วนได้ทัน คอของเขาจึงไม่ถูกนางหัก
“สมควรตาย เป็นแค่ไอ้สวะคนหนึ่ง ทำไมถึงเร็วขนาดนี้ แล้วยังเพิ่มระดับเร็วอย่างนี้อีก”
กู้ชูหน่วนลงมือรวดเร็วแม่นยำ แต่ละหมัดล้วนต้องได้ยินเสียงกระดูกหัก
นางทั้งเตะทั้งผ่าทั้งตี เรือนร่างอ้อนแอ้นอรชรปราดผ่านลำตัวยอดฝีมือทั้งหลาย ประดุจปลาไหลตัวหนึ่ง
เนื่องจากตำแหน่งของนางใกล้กับไป๋หลี่หมิงมาก ดังนั้นจึงจงใจเข้าใกล้อีกฝ่าย ไม่ทราบว่าคิดจะจับโจรจับที่หัวหน้าหรืออย่างไร
ด้วยเหตุนี้เอง มือธนูจึงไม่กล้ายิงนาง เกรงว่าจะพลาดพลั้งทำร้ายไป๋หลี่หมิงและคนสนิทของเขา
“ฆ่า ฆ่านางหญิงบ้าคนนี้ซะ”
ไป๋หลี่หมิงถอยหลังเนืองๆ แต่สตรีผู้นั้นดวงตาคู่อาฆาตมาดร้าย ยิ่งสู้ก็ยิ่งกล้า บุกขึ้นมาไม่หยุด คนสนิทของเขาหลายคนถึงกับสกัดนางไม่อยู่ ทั้งยังถูกนางประชิดทีละก้าว บาดเจ็บสาหัส
มือธนูปากเหงื่อกาฬ ยิงกู้ชูหน่วนไม่ได้ ดังนั้นจึงได้แต่เบนทิศไปที่ตัวหยางโม่
หยางโม่ผู้น่าสงสารเดิมก็บาดเจ็บหนักอยู่แล้ว ยามนี้ยังต้องประสบกับการระดมยิงจากมือธนูอีก วิกฤตยิ่ง ตามตัวถูกลูกศรหลายต่อหลายดอก
กู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว
นางตะโกน “เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ รีบออกมาช่วยเร็ว”
ปกติพอนางเรียก เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ก็จะปรากฏตัวทันที
แต่ครั้งนี้ นางเรียกอยู่นานเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ก็ไม่โผล่ออกมา ไม่รู้ว่าเจ้างูจอมตะกละตัวนั้นไปหาอาหารที่ไหนอีกแล้วสิน่า
ทีแรกแค่นางพยายามสักหน่อยก็สังหารไป๋หลี่หมิงได้แล้ว
แต่ตอนนี้นางจำต้องล้มเลิก หันไปประมือกับมือธนูเหล่านั้นเพื่อรักษาชีวิตของหยางโม่แทน
“ปังๆๆ…”
“พลั่กๆๆ…”
ครั้นกระดกปลายเท้า กระบี่ยาวของกู้ชูหน่วนก็ตกอยู่ในมือนางอย่างมั่นคง ห่าศรที่เสือกเข้ามาสะเทือนย้อนกลับ พริบตาเดียวมือธนูก็บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
ไป๋หลี่หมิงกลืนน้ำลายอึก
มู่หน่วน หรือว่า…
ถึงระดับสองแล้วหรือ?
จะเป็นไปได้อย่างไร…
นี่แค่กี่วัน ทำไมนางถึงขึ้นระดับสองแล้ว?
น่ากลัวเกินไปแล้ว
หากไม่กำจัดคนผู้นี้ ต่อไปต้องเป็นศัตรูตัวฉกาจของตระกูลไป๋หลี่แน่
ไป๋หลี่หมิงตะโกน “ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไร ต้องฆ่ามันสองคนให้ได้ หากผู้ใดฆ่าพวกมันได้ ข้าจะตกรางวัลให้อย่างงาม”
ครั้นสิ้นเสียงคำสั่ง ทุกคนก็ทุ่มเทมากกว่าเดิม
กู้ชูหน่วนโมโหจริงๆ
นางเป็นห่วงเซียวหยู่เซวียนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่เขากลับกัดไม่ปล่อยเช่นนี้
จิตสังหารพุ่งพรวด กู้ชูหน่วนไม่ใจอ่อนอีก ครั้นลงกระบี่ก็คือหนึ่งชีวิต
“ฉับ…”
“ปุก…”
“ซี้ด…”
ตลอดทางที่ผ่าน ศพล้มลงทีละหนึ่ง
แต่ตัวนางเองก็ไม่ได้ดีสักเท่าไร
เนื้อตัวไม่ทราบว่ารับคมดาบเท่าไรแล้ว และไม่ทราบว่าถูกลูกศรกี่ดอกด้วย แต่นางกลับไม่รู้สึกสักนิด รู้แต่เพียงต้องสังหารคนที่อยู่ตรงหน้าให้หมด
เลือดสาดทุกทิศ
ท่อนแขนขากระจายทั่วนภา
มือธนูทั้งหลายรวมถึงผู้แกร่งระดับสองขั้นสูงถูกกู้ชูหน่วนปลิดชีวิตจนสิ้น
หากมิใช่ว่าเห็นด้วยสายตาตัวเอง ทุกคนในที่นั้นก็ไม่กล้าเชื่อ
ผ่านไปนานเท่าไรก็หาทราบไม่ ศึกสงครามยุติลงแล้ว
สายลมพัดผ่าน กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งถ้วนทั่ว…ถ้วนทั่ว…
กู้ชูหน่วนยันกระบี่ยาวด้วยสองมือ หอบหนัก เหงื่อร้อนไหลริน
นางเหนื่อยมาก
เจ็บมากด้วย
แต่แค่ร่างกายเจ็บจนด้านชาไปนานแล้วเท่านั้น
แววตามาดร้ายจ้องไป๋หลี่หมิงที่กำลังตะลึงงัน
หยางโม่ล้มลงกับกองเลือด เนิ่นนานก็ยังลุกขึ้นไม่ไหว
เขาถูกลูกศรทั้งหมดห้าดอก เคราะห์ดีที่ห้าดอกนั้นไม่ถูกตำแหน่งตาย
ศพเกลื่อนพื้น ย้ำเตือนภาพโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ ชวนให้คนสะเทือนขวัญยิ่ง
ใครก็คาดคิดไม่ถึงว่ามู่หน่วนผู้ถูกร่ำลือว่าเป็นเศษสวะ จะเก่งกล้าสามารถถึงเพียงนี้
โดยเฉพาะกระบวนท่าของนาง ดูอย่างไรก็เป็นแบบที่ยอดฝีมือชั้นสูงจึงจะใช้ได้
ไม่ ควรพูดว่ายอดฝีมือที่ผ่านสมรภูมิร้อยสนามจึงจะมีได้
แต่นาง…เหมือนว่าไม่มีประสบการณ์รบจริงอะไรกระมัง?
“ยังจะสู้อีกไหม?” กู้ชูหน่วนถามเสียงดัง
ไป๋หลี่หมิงส่ายหน้า แล้วกลืนน้ำลายลงอีกรอบ
“ข้าเคยบอกแล้ว วันนี้เจ้าต้องตายแน่นอน อาหลัน ฆ่ามัน จะให้มันรอดออกไปไม่ได้เด็ดขาด”
“ขอรับ”
การกระหน่ำฟาดฟันเกิดขึ้นอีกครั้ง
กู้ชูหน่วนผลาญกำลังจวนจะสิ้นแล้ว
เส้นสายตาเริ่มพร่าเบลอ แต่นางยังกัดฟัน ต่อสู้ด้วยสัญชาตญาณ
กู้ชูหน่วนคนเดียวประมือกับสามคน ต่อสู้อย่างดุเดือดกับคนสนิทสามคนสุดท้ายของไป๋หลี่หมิง
ทันใดนั้น กู้ชูหน่วนก็ได้ยินเสียงตะโกนตื่นตระหนก
“นังเด็กโง่…”
ใคร…
ใครกำลังเรียกนาง?
เหมือนจะเป็นเสียงของเสี่ยวเซวียนเซวียน
นางพยายามลืมตาขึ้น แต่กลับเห็นเซียวหยู่เซวียนในชุดสีขาวอาบเลือดพุ่งตัวมาตรงหน้านาง ใช้ร่างกายของตัวเองรับคมดาบถูกจุดตายแทนนาง
ดาบเดียวทะลุหัวใจ ตรงจุดตายของเซียวหยู่เซวียนพอดิบพอดี