โลหิตสาดกระเซ็นรดใบหน้าของกู้ชูหน่วน และทำให้นางพลันตื่นขึ้นด้วย
ภาพที่อยู่ตรงหน้าทำให้นางโกรธแค้นจนเส้นเลือดฝอยตาจะแตก
ไป๋หลี่หมิงลอบโจมตี เซียวหยู่เซวียนรับคมดาบแทนนาง จนบัดนี้กระบี่นั้นยังปักอยู่ตรงหัวใจของเซียวหยู่เซวียน เป็นที่สะเทือนขวัญเมื่อเห็น
“เซียวหยู่เซวียน…”
กู้ชูหน่วนนัยน์ตาหดเล็ก
นางเงื้อกระบี่ยาวในมือแล้วปาดคอไป๋หลี่หมิงที่กำลังตะลึงค้างอยู่
ส่วนตนก็รับเซียวหยู่เซวียนที่ร่อแร่
“คุณชาย…”
อาหลันและคนอื่นๆ ตะโกน พวกเขาคิดจะลงมือแต่ก็สายไปเสียงแล้ว
ไป๋หลี่หมิงถูกปาดคอ ดับคาที่
พวกเขาเดือดจัด สามคนร่วมมือกันคิดจะเอาชีวิตกู้ชูหน่วน ทันใดนั้น หนึ่งพยัคฆ์หนึ่งอสรพิษก็พุ่งพรวดเข้ามา กัดคอพวกเขาแน่น
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไป เร็วจนทุกคนไม่ทันนึกคิด
หยางโม่ก็เช่นกัน
แต่ที่เขากังวลใจมากกว่าก็คือหนึ่งพยัคฆ์หนึ่งอสรพิษนั้น ดีที่หลังจากพวกมันกัดไป๋หลี่หมิงตายแล้วก็มิได้ทำอะไรเขา
“เซียวหยู่เซวียน เจ้าอดทนเอาไว้นะ เจ้าจะตายไม่ได้ ข้าไม่ยอมให้เจ้าตาย เจ้าได้ยินไหม”
กู้ชูหน่วนพยายามช่วยเขาห้ามเลือดสุดกำลัง แต่เนื้อตัวเขาทั้งในและนอกล้วนบาดเจ็บ มีบาดแผลอยู่เต็มไปหมด ไม่ทราบควรรักษาแผลให้เขาอย่างไรชั่วขณะ
โดยเฉพาะกระบี่ที่ปักอยู่ตรงอกเขา นางไม่กล้าดึงออก เพราะเกรงว่าหากดึงออกแล้ว เซียวหยู่เซวียนจะจากนางไปตลอดกาล
“งาวๆ…”
“ซี่ๆ…”
เจ้าเสือน้อยกับเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์บาดเจ็บหนักด้วยเหมือนกัน เลือดเนื้อเละเทะ เลือดไหลออกไม่หยุด กระทั่งปรากฏเป็นรูเลือดหลายแห่งแล้ว
กรงเล็บเสือของเจ้าเสือน้อยก็ฝนจนทู่แล้ว
เกล็ดของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ถูกถอนออกเป็นปื้นใหญ่
แค่เห็นก็รู้ได้ว่าพวกมันเพิ่งผ่านสงครามเดือดมา
มหาสงครามแห่งความเป็นความตาย
หนึ่งเสือหนึ่งงูมองเซียวหยู่เซวียนด้วยความสลดหดหู่ เศร้าโศกแทนเซียวหยู่เซวียน
มหาสงครามเมื่อครู่ พวกมันทำถึงที่สุดแล้ว
ที่สุดแล้วจริงๆ
พวกมันอยากฆ่าไอ้แก่หนังเหนียวสี่คนนั้นโดยเร็วจะได้มาช่วยนายหญิง
แต่น่าเสียดาย…
ผู้แกร่งกล้าระดับห้าสี่คนร้ายกาจเหลือเกิน พวกมันทุ่มสุดตัวกลับทำได้เพียงโจมตีให้พวกเขาล่าถอยเท่านั้น
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ตำหนิตัวเองยิ่ง
มันไม่ควรห่างจากนายหญิง
และไม่ควรตะกละตะกลามไปหาหมูป่าอะไรนั่น
ถ้ามันไม่ไปหาหมูป่า ก็จะไม่เสียเวลา นางหญิงจะไม่บาดเจ็บ และเซียวหยู่เซวียนก็จะไม่ถูกแทงทะลุหัวใจด้วย
เซียวหยู่เซวียนเห็นกู้ชูหน่วนปลอดภัย โล่งอกเฮือกใหญ่
เขาเหนื่อยเหลือเกิน
เหนื่อยจริงๆ
สู้ศึกใหญ่ติดต่อกัน เรี่ยวแรงสูญสิ้นนานแล้ว ที่ทนมาถึงตอนนี้เป็นเพราะห่วงนังเด็กโง่นี่เท่านั้น
เขาปวดใจมองกู้ชูหน่วนที่มีบาดแผลเต็มตัว อ่อนแรงเอ่ย “ยังดี เจ้าไม่ถูกกระบี่นั้นทำร้าย”
จุดหนึ่งในใจของกู้ชูหน่วนพลังทลายลงมา
นับจากมีความทรงจำ ไม่มีใครดีกับนางถึงเพียงนี้
และไม่มีใครรับคมดาบแทนนางด้วย เซียวหยู่เซวียนเป็นคนแรก
แต่พวกเขา พวกเขาเพิ่งรู้จักกันไม่นาน
กู้ชูหน่วนพลันกรอบตาแดง
“ข้าจะไม่ให้จ้าตาย ข้าจะไม่ให้เจ้าตาย”
นางเทยาทั้งหมดจากแหวนมิติอย่างวุ่นวายพัลวัน นางมือสั่นระริกค้นหายาของเซียวหยู่เซวียนในกองขวดยา
ยาของนางดี รักษาบาดแผลเซียวหยู่เซวียนได้สบาย
แต่กลับไม่มียาขวดใดรักษาแผลคมดาบตรงหัวใจของเขาได้ นางโมโหจนโยนยาทั้งหมดทิ้ง
ความรู้สึกจนหนทางอย่างนี้ทำให้นางลนลานหนักกว่าเดิม
เซียวหยู่เซวียนยิ้มขมขื่น กุมมือนางอย่างไรกำลัง
“ไม่มีประโยชน์ บางทีชะตาข้าอาจต้องเผชิญเคราะห์นี้”
เขาแค้นที่ไม่อาจฆ่าเวินเส้าหยีกับเลว่อิ่ง แก้แค้นให้ครอบครัว
เขาแค้นที่ไม่สามารถทำให้ยัยขี้เหร่ฟื้นคืนชีพได้
“ใครว่า ขอเพียงข้าไม่ให้เจ้าตาย เจ้าก็จะตายไม่ได้ ไป ข้าจะพาเจ้าออกจากภูเขาสัตว์วิเศษ เราจะไปหาหมอ แผ่นดินกว้างใหญ่ ข้าไม่เชื่อว่าจะไม่มีคนช่วยเจ้าได้”
กู้ชูหน่วนแบกเซียวหยู่เซวียนลุกขึ้น
แต่นางก็บาดเจ็บหนักมาก ตามตัวยังมีลูกศรปักอยู่สองสามดอก เลือดซึมเสื้อผ้าจนแดงฉาน
ต่อสู้ดุเดือดติดต่อกัน นางหมดแรงแล้วเหมือนกัน บาดเจ็บหนักปางตายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จะแบกเซียวหยู่เซวียนขึ้นได้อย่างไร
เพิ่งเดินสองก้าว นางก็ล้มลงไปแล้ว
นางไม่ยอมแพ้ แบกเซียวหยู่เซวียนขึ้นมาอีกครั้ง แล้วก็ล้มลงไปอีก
หยางโม่กะเผลกมาถึงตรงหน้ากู้ชูหน่วน เอ่ยเตือน “แม่นางมู่ แผลของสหายเซียวอยู่ตรงจุดตาย เกรงว่า…เกรงว่าเทพเซียนทั้งหลายก็ช่วยไม่ได้ เจ้า…เจ้าก็บาดเจ็บสาหัสเหมือนกัน ถ้าไม่รักษา เกรงว่าแม้แต่ชีวิตเจ้าก็จะรักษาไว้ไม่ได้ด้วย”
“เหลไหล ก็เพียงดาบเดียว ก่อนหน้านี้พวกเราถูกฟันมาแล้วเท่าไร ก็อยู่มาได้ถึงตอนนี้มิใช่หรือ? เจ้าพูดไม่เป็นก็ไสหัวไปเถอะ”
“แม่นางมู่…”
“อั๊ก…”
กู้ชูหน่วนกระอักเลือดออกมา
นางไม่มีแรงแล้วจริงๆ
ครืน…
เมื่อนั้นท้องนภาก็เกิดพายุฝน
ตกบนตัวพวกเขาเป็นหยดๆ ชะเลือดบนตัวพวกเขาลงพื้น
กู้ชูหน่วนแบกเซียวหยู่เซวียน ใบหน้าขาวซีด กล่าวปลอบหมดเรี่ยวแรง
“ข้าบอกแล้ว ข้าจะไม่ให้เจ้าตาย เจ้าอดทนไว้นะ ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็ต้องอดทน รู้ไหม?”
“ยัย…ยัยขี้เหร่…” เซียวหยู่เซวียนดวงตาพร่าเบลอ
มองมู่หน่วน ดวงหน้านั้นผสานรวมกับดวงหน้ากู้ชูหน่วนอย่างแปลกประหลาด
เขากำลังยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นระคนหยาดน้ำตา
กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่ายัยขี้เหร่ที่เขากล่าวคือใคร
เพียงแต่กัดฟันพูด “เจ้าเสือน้อย เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ พวกเจ้ามีทางส่งพวกเราออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ไหม?”
เจ้าเสือน้อยอดกลั้นแต่ความเจ็บหนัก กลายร่างเป็นตัวโต ให้พวกเขานั่งอยู่บนร่างตน
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ดวงตางูรื้นน้ำตา
ทันใดนั้น ร่างงูก็สั่นเทิ้ม
“นายหญิง ข้ารู้วิธีหนึ่งที่สามารถช่วยเซียวหยู่เซวียนได้”
“วิธีอะไร?” กู้ชูหน่วนหิ้วเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ขึ้น ราวกับคว้าฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้าย
“เมื่อกี้ตอนข้าไปหาหมูป่า สหายงูของข้าบอกข้าว่าในส่วนลึกของโบราณสถานมีดอกบัวศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสีดอกหนึ่ง ถ้าผู้ฝึกยุทธ์ระดับหกกินจะสามารถช่วยก้าวพ้นถึงระดับเจ็ดได้ คนที่ใกล้จะตาย ขอเพียงยังมีลมหายใจ กินแล้วก็จะฟื้นคืนชีพ”
“ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสี? เชื่อได้หรือไม่?”
“น่าจะเชื่อได้ พวกมันไม่จำเป็นต้องหลอกข้า อีกอย่าง ข้ายังได้ข่าวมาว่ารอบนี้กฎในภูเขาสัตว์วิเศษก็เปลี่ยนด้วย เห็นว่ามีของวิเศษสุดยอดอยู่ สี่เจ้าบ้านตระกูลใหญ่เข้ามากันหมด แม้แต่ผู้อาวุโสของทุกชนเผ่าก็เข้ามาด้วย ไม่รู้ว่าพวกเขากำลังหาของสิ่งนี้อยู่หรือเปล่า”
“ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสีอยู่ที่ไหน? พาข้าไปเดี๋ยวนี้เลย”
“ข้างๆ ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสีมี…มีสัตว์วิเศษระดับเจ็ดคุ้มครองอยู่ ถึงเราจะไป…ก็แย่งเอามาไม่ได้”
เซียวหยู่เซวียนอยู่ในช่วงวิกฤต เกรงว่าจะรอนานขนาดนั้นไม่ไหว
หยางโม่มองกู้ชูหน่วนอย่างงุนงง
ไม่รู้ว่านางสนทนาอะไรกับงูและเสือ
หรือว่านางรู้ภาษาสัตว์?
ไม่ใช่ว่ามีแต่นักฝึกสัตว์ที่รู้ภาษาสัตว์หรือ?
กู้ชูหน่วนก้มหน้า แต่กลับเห็นเซียวหยู่เซวียนสมองพร่าเบลอไปแล้ว อยู่ในภาวะสะลึมสะลือ
ลมหายใจเขาแผ่วเบาลงทุกที
ตัวเย็นมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ปากยังกล่าวอะไรไม่ชัดเจนอยู่ เรียกอย่างเจ็บปวด
“ยัยขี้เหร่…ทำไม…ทำไมต้อง…ต้องช่วยเขา…ท่านพ่อ…ท่านพี่…พี่หญิง…ยัยขี้เหร่…”