อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1081 น้ำมันก๊าด
ด้วยพลังฝ่ามือ มือหน้าไม้เหล่านั้นล้วนพากันนั่งยองลง หลบเลี่ยงจากพลังฝ่ามือเหล่านั้น
รอจนพลังฝ่ามือเหล่านั้นสลายไปแล้ว พวกเขาก็ยกหน้าไม้ขึ้นมาพร้อมกันใหม่อีกครั้ง
เป็นเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า คนของทุกพรรคได้รับความเสียหายแสนสาหัส โมโหจนแทบจะกระอักเลือด
ลมปราณมีจำกัด แม้ว่าจะเป็นคนที่เก่งกาจเพียงใดก็ไม่สามารถสิ้นเปลืองพลังเป็นเวลานานเช่นนี้ได้
บวกกับระยะห่างที่อยู่ไกลเกินไป กำลังภายในของพวกเขาตีขึ้นไปถึงหน้าผา ก็สูญสลายไปเจ็ดสิบถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว
“ไอ้เวรพวกนี้ คิดว่ามีหน้าไม้ร้ายๆเหล่านี้รวมทั้งข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์แล้วจะสามารถทำให้พวกเราถอยได้งั้นหรือ? ถุย”
“ทุกคนแบ่งกลุ่มใช้กำลังภายในแบ่งกันโจมตีหน้าไม้เหล่านั้น แล้วขึ้นหน้าผาไปฆ่านังปีศาจนั่นพร้อมกัน”
“ได้ พวกเราสองสามคนเริ่มก่อน”
พรรคต่างๆเพิ่งจะหารือกันเสร็จ ยังไม่ทันรอให้กำลังภายในโจมตีขึ้นไปถึงบนหน้าผา
คนบนหน้าผากลับเทผงสีแดงเป็นถังๆลงมาแล้ว
ทุกคนคิดว่ามีพิษ จึงต่างพากันหลีกเลี่ยง แต่กลับคิดไม่ถึงว่าผงสีแดงเหล่านี้ไม่ใช่ของอื่นใด แต่เป็นผงพริกป่น
“ฮัทชิ้ว……”
เสียงจามดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากนั้นก็ตามด้วยเสียงร้องอันน่าอนาถทันที
“ตาของข้า ตาของข้ามองไม่เห็นแล้ว นี่เป็นผงพริกป่น ดวงตาของข้าคงจะไม่บอดหรอกนะ แสบมากเจ็บปวดมาก……”
“ฉึบฉึบฉึบ……”
ฉวยช่วงเวลาว่าง คนบนหน้าผาก็ยิงหน้าไม้พร้อมกันอีกครั้ง
คนเบื้องล่างหลบหลีกไม่ทัน คนที่มีวิทยายุทธสูงส่งมากมายก็ถูกธนูไม้ไผ่ทำร้ายไปด้วย บ้างตายบ้างบาดเจ็บ
ไป๋หลี่เฉิงซ่างกวนชิงและคนอื่นๆปิดตาจมูกปากไว้ล่วงหน้าแล้ว หลบพ้นไปอย่างหวุดหวิด
มองไปเบื้องล่างที่มีศพมากขึ้นเรื่อยๆ ก็รู้สึกโมโหมาก
ซ่างกวนชิงระเบิดเสียงตะโกน “ เทียนกังสามสิบหกตน ตั้งค่ายกล”
เทียนกังสามสิบหกตนออกมาอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยโดยพร้อมเพรียงในพริบตา ในมือของแต่ละคนถือโซ่เหล็กที่ใหญ่เท่ากับปากชาม ซ้อนกันขึ้นมาเหมือนดั่งพีระมิดเช่นนั้น
“ปังปังปัง……”
โซ่เหล็กตีกระทบไปบนหน้าผา พวกเขาคิดจะใช้โซ่เหล็กในการปีนขึ้นมาที่หน้าผา
และเมื่อดูจากลักษณะค่ายกลของพวกเขา เรียกได้ว่ามีทั้งการรุกและรับ
ทางหนึ่งโจมตี ทางหนึ่งเฝ้าระวัง
เมื่อพลังแห่งเทียนกังปล่อยออกมา ทั้งสามสิบหกคนก็ก่อตัวเป็นเกราะกำบังล่องหน ผงยาพิษหน้าไม้เหล่านั้นล้วนไม่สามารถทำร้ายพวกเขาได้แม้แต่น้อย
ทั้งสามสิบหกคนนี้มีความว่องไวมาก
ชั่วพริบตาเดียวก็ปีนขึ้นมาได้ครึ่งทางแล้ว
แค่ให้เวลาพวกเขาอีกหน่อย พวกเขาก็จะสามารถปีนขึ้นมาที่หน้าผาได้อย่างแน่นอน
ยังไม่ทันที่ชิงเฟิงเจี่ยงเสวียและคนอื่นๆจะดีใจ ก็ต้องเตรียมพร้อมรบต่อทุกเมื่อด้วยสีหน้าจริงจัง
กู้ชูหน่วนตบมือ จากนั้นก็มีคนขนสิ่งของเป็นถังๆเข้ามาทันที
เมื่อชิงเฟิงได้กลิ่น ก็อุทานออกมาเสียงหนึ่ง “นี่คือน้ำมันก๊าด”
“อืม ก่อนหน้านี้ไม่นานข้าบังเอิญพบสิ่งของมากมายอยู่ด้านหลังภูเขาหัวสุนัข จึงถือโอกาสใช้ประโยชน์สักหน่อย”
นางอยู่ที่นี่เพียงสิบเอ็ดวัน ก็สามารถสังเกตเห็นของดีๆมากมายขนาดนี้ได้
แต่พวกเขาอยู่ที่นี่มาตั้งนานแล้ว กลับไม่ได้สังเกตเห็นอะไรเลย…..
ไม่รู้ควรจะบอกว่าพวกเขาโง่เกินไป
หรือจะบอกว่าผู้หญิงตรงหน้าผู้นี้เก่งกาจเกินไป
บนตัวของนาง พวกเขาเห็นท่าทางของนายท่านในขณะที่อยู่ในสนามรบ
น้ำมันก๊าดแต่ละถังเทลงไป
คนด้านล่างก็ยังคิดว่าเป็นพริกอีก แต่ละคนปิดปากปิดจมูก
คิดไม่ถึงว่าที่เทลงมากลับเป็นน้ำ
ไม่ ไม่ใช่น้ำ แต่เป็นน้ำมัน
ซ่างกวนชิงตะโกนขึ้นมาด้วยความตกใจคำหนึ่ง “เป็นน้ำมันก๊าด ทุกคนระวัง”
เขาจะพูดเร็วเพียงใด ก็ไม่ทันแล้ว
คนด้านบนโยนคบเพลิงลงมาทีละอัน และเพราะว่าดวงตาของคนด้านล่างเลอะผงพริกป่น จนตอนนี้ก็ยังลืมไม่ขึ้น อยากจะออกไปก็ออกไปไม่ได้
ไฟโดนน้ำมันก๊าด ก็ลุกโชนขึ้นมาในพริบตา
คนส่วนใหญ่ของพรรคต่างๆที่เตรียมพร้อมมาสังหารกู้ชูหน่วนด้วยความห้าวหาญล้วนเลอะเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำมันก๊าด กลายเป็นมนุษย์ไฟในพริบตา กลิ้งอยู่ที่พื้นไม่หยุด
ภาพนั้น ใช้คำว่าน่าอนาถจนทนมองไม่ได้มาเปรียบเปรยก็ไม่เกินไป
ซ่างกวนชิงไป๋หลี่เฉิงและคนอื่นๆก็ถูกไฟเผาเช่นกัน แต่พวกเขาวิทยายุทธลึกล้ำ บวกกับการอยู่ห่างไกลออกไป หลังจากที่ถอดเสื้อผ้าออกได้ทันเวลา แม้ว่าจะไม่ได้ถูกเผาจนตายทั้งเป็น แต่บนตัวก็ถูกเผ่าไหม้ได้รับบาดเจ็บแล้ว