อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1085 ค่ายกลขนส่ง
เย่จิ่งหานกลับมาแล้ว ขณะที่กลับก็ได้รับบาดเจ็บมาไม่น้อย กู้ชูหน่วนสามารถสัมผัสได้ชัดเจนว่าลมปราณของเขาอ่อนแอ ยืนหยัดอยู่ได้ด้วยเพียงอึดใจเดียวเท่านั้น
เซียวหยู่เซวียนก็ฟื้นแล้ว อาการบาดเจ็บของเขาสาหัสมาก ขาขวาของเขาถูกค้อนเหล็กขนาดใหญ่ตีจนหักอีกครั้ง ตอนนี้นั่งอยู่บนรถเข็น
กู้ชูหน่วนได้รับบาดเจ็บน้อยใหญ่ไปทั้งร่างกาย เจ็บปวดจนนางไม่มีทางจะลุกยืนได้ ทำได้เพียงนั่งบนรถเข็นเท่านั้น
ผู้ชายสองผู้หญิงหนึ่ง ทุกคนนั่งอยู่บนรถเข็น มองหน้ากัน
ฉากนี้ เป็นความปวดร้าวใจที่อธิบายออกมาไม่ได้
สำหรับการต่อสู้ระหว่างเย่จิ่งหานและเวินเส้าหยีที่สู้กันมาหลายวันหลายคืน จุดจบเป็นอย่างไร ที่ผ่านมาเป็นอย่างไร เย่จิ่งหานไม่ได้เอ่ยถึงสักคำ และราวกับว่าไม่อยากจะเอ่ยถึงด้วย
ทุกคนก็ไม่ได้ถามอะไรมากมายอีก
สีหน้าของเย่จิ่งหานซีดขาว แต่กลับพูดอย่างมีพลังในการโน้มน้าวใจกับเซียวหยู่เซวียนว่า “เวินเส้าหยีอยู่ที่นี่ ข้าจะส่งเจ้ากลับไปที่แคว้นเย่ก่อน”
ร่างกายของเซียวหยู่เซวียนนั่งกึ่งพิงอยู่ตรงที่เท้าแขนของรถเข็น อยากจะยืดอกนั่งตัวตรงแต่ก็ไม่สามารถนั่งตัวตรงได้
ได้ยินคำพูดของเย่จิ่งหาน เขาเงยหน้าขึ้นทันที กล่าวอย่างหนักแน่นว่า “ข้าไม่ไปหรอก”
“วิญญาณของอาหน่วน ข้าจะรวบรวมเอง เจ้าทำลายล้างเผ่าเทียนเฟิ่น เวินเส้าหยีจะไม่ปล่อยเจ้าไป”
เซียวหยู่เซวียนจะไม่รู้ได้อย่างไรเวินเส้าหยีจะไม่ปล่อยเขาไป
หากว่าอยู่ที่แคว้นเย่ เขายังจะคิดหาวิธีทำลายล้างอำนาจทุกสิ่งอย่างของเวินเส้าหยีไปได้อีกครั้ง
แต่อยู่ที่นี่…….
ที่นี่ทุกหนแห่งเต็มไปด้วยกองกำลังของเวินเส้าหยี สำหรับเขาแล้ว ก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบมากเกินไป
ก่อนหน้านี้…….
เป้าหมายที่สำคัญที่สุดของเขาก็คือการรวบรวมวิญญาณ หาไอ้ชั่วซือคงแล้วล้างแค้นซะ แต่ตอนนี้…….
เซียวหยู่เซวียนชำเลืองมองไปทางกู้ชูหน่วน
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่ผู้หญิงคนนี้เดินเข้าไปในก้นบึ้งหัวใจ และกลายเป็นคนที่เขาห่วงใย
นางอยู่ที่นี่ เขาก็ยิ่งจากไปไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้น หากว่ากลับไปที่แคว้นเย่ จะง่ายขนาดนั้นได้ที่ไหน เวินเส้าหยีจะไม่วางกับดักระหว่างทางก็แปลกแล้ว
“ไม่จำเป็นต้องสนใจข้า” เซียวหยู่เซวียนตอบอย่างเย็นชา
กู้ชูหน่วนหาวหนึ่งที ดวงตาสีขาวดำที่แยกกันอย่างชัดเจนเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย น่าจะเพราะไม่ได้พักผ่อนให้ดีๆมาหลายวัน “พวกท่านหารือกันเสร็จรึยัง หากยังไม่รีบตัดสินใจ พรรคทุกพรรคก็จะโจมตีมาแล้ว”
“ถอนทัพ”
เย่จิ่งหานเค้นประโยคหนึ่งออกมาจากซอกฟัน
ทุกคนเตรียมพร้อมเดินทาง แค่รอคำสั่งจากเขา
เมื่อได้ยินคำพูดของเขาในเวลานี้ เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาก็ต่างพากันช่วยพวกเขาเข็นรถเข็นมาถึงป่าไม้ทางด้านตะวันตกของภูเขาหัวสุนัข
ที่นี่ว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของการเฝ้าระวังสักนิด
ทุกคนกังวลใจเล็กน้อย ไม่รู้ว่านายท่านพาพวกเขามาที่นี่เพื่ออะไร
เย่จิ่งหานโบกมือใหญ่ทันที ค่ายกลโปร่งแสงค่ายกลหนึ่งก็ปรากฏขึ้น ทางเข้าค่ายกลเป็นเหมือนดั่งกระแสวังวน ในกระแสวังวนเป็นอะไรไม่มีผู้ใดมองเห็น
“พวกเจ้าไปก่อน ข้าปิดท้าย” เย่จิ่งหานกล่าว
“ในนี้ทะลุไปที่ไหน?”
“พระราชวัง”
“พระราชวัง?”
กู้ชูหน่วนแทบจะสำลักน้ำลายตัวเอง
นี่เขาขุดหลุมเข้าไปถึงพระราชวังของแคว้นปิงแล้วเหรอ?
เซียวหยู่เซวียนก็คิดไม่ถึงเช่นกัน ว่าอีกด้านหนึ่งของค่ายกลจะทะลุไปสู่พระราชวังจริงๆ
พระราชวังเป็นที่ที่อันตรายที่สุด ขณะเดียวกันก็ปลอดภัยที่สุด
เย่จิ่งหานเป็นคนที่ไตร่ตรองได้อย่างรอบคอบมาก
เพียงแต่ค่ายกลนี้…….
กู้ชูหน่วนและเซียวหยู่เซวียนชำเลืองมองไปที่ค่ายกลพร้อมกัน
ค่ายกลนี้แปลกประหลาดเป็นที่สุด จากความสามารถของเย่จิ่งหาน จะจัดตั้งได้หรือ?
ทั้งสองคนล้วนได้ยินถึงความผิดปกติเล็กน้อยในน้ำเสียงของเย่จิ่งหาน
“พรรคใหญ่แต่ละพรรคยังไม่ได้เข้ามาโจมตี ถ้าจะไปพวกเราก็ไปพร้อมกัน จำเป็นจะต้องปิดท้ายอยู่ด้านหลังทำไม หรือว่า…..ค่ายกลนี้มีปัญหา?”
“ค่ายกลไม่มีปัญหา”
ดวงตาของเย่จิ่งหานเพ่งมองไปรอบๆอย่างระแวดระวังโดยตลอด ราวกับว่ากำลังหวาดกลัวอะไรอยู่
ที่สามารถทำให้เขาหวาดกลัวได้เช่นนี้ ศักยภาพจะต้องไม่ด้อยไปกว่าระดับหกอย่างแน่นอน
เพราะกลัวเวินเส้าหยีเช่นนั้นหรือ?
ดูท่าทางที่ระแวดระวังของเขา
ที่กลัวคงไม่ได้มีเพียงแค่เวินเส้าหยีสินะ…….