บทที่ 14
“คิดให้ดี ลิลี่ คิดถึงการถูกดูหมิ่นเหยียดหยามที่ลูกต้องเจอหลังจากแต่งงานกับแดร์ริล” ซาแมนธากล่าวด้วยความเย็นชา “เราต้องแบ่งเสื้อผ้าและอาหารให้เขาตลอดระยะเวลาสามปีที่ลูกแต่งงานกับเขา อย่างน้อยเขาก็ยังทำตัวเหมาะสมในการให้ยิมเงินห้าล้านเพื่อช่วยบริษัทให้รอดจากการขาดทุน ถือว่าเราหมดสิ้นหนี้กันแล้ว และทั้งหมดที่แม่ต้องการคือให้ลูกไปจากไอ้ขี้แพ้นั่นซะ”
“แม่…” ลิลี่กัดริมฝีปากของเธอ
“อีกอย่าง แอชตันโทรหาแม่บอกว่าเขาจะมางานวันเกิดคุณย่าด้วย” ซาแมนธากล่าวต่อ “เขากล่าวว่า เขาจะเตรียมของขวัญพิเศษที่คุณย่าจะต้องชอบ ลูกต้องคู่กับเขาถ้าคุณย่าชอบเขา”
ในขณะที่เธอกำลังกล่าว เธอสังเกตเห็นชายคนหนึ่งกำลีงเดินเข้ามาจากระยะไกล เขาสวมสูมและรองเท้าหนัง ถือกระเป๋าเสื้อผ้าในมือ ชายคนนี้คือเวนท์เวิร์ธ บิดาของลิลี่
ลิลี่และซาแมนธาเดินเข้าไปหาเพื่อต้อนรับเขา หลังจากนั้นทั้งครอบครัวก็พูดคุยและหีวเราะไปตลอดทางออกจากสนามบิน
เมื่อกลับมาที่บ้าน ซาแมนธาปรุงมื้ออาหารที่เลิศหรู ปกติแล้วการทำอาหารจะเป็นหน้าที่ของแดร์ริล และเธอก็ไม่ได้ทำอาหารมานานแล้ว มันจึงไม่น่าแปลกใจที่เธอจะยังคงมีรูปร่างที่ดีแม้จะอยู่ในวัยนี้
ที่โต๊ะอาหาร ซาแมนธาถามถึงชีวิตในต่างประเทศของเวนท์เวิร์ธ
เวนท์เวิร์ธเล่าวว่าชีวิตเขาที่นั่นน่าเบื่อ นอกจากการทานอาหารสามมื้อต่อวันในโรงแรมระดับสูงก็มีเพียงการพูดคุยธุรกิจกับคนที่รวยที่สุดในภูมิภาคนั้นทุก ๆ วัน เขาอวดเรื่องราวของเขา และในขณะที่เขากำลังพูด เขาก็นำเช็คออกมาแล้วเขียนมันลงไปก่อนที่จะส่งให้ซาแมนธา
50 ล้าน!
ซาแมนธายิ้มปากแทบฉีกไปถึงหูเมื่อเธอเห็นเช็คในนั้น!
‘ฮ่าฮ่าฮ่า วันเวลาของความทรมานของเขาในที่สุดก็จบสิ้นลงเสียที! เขาหยิบเช็คจำนวนห้าสิบล้านออกมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น!
“ไม่กี่วันก่อนพ่อได้ยินว่าบริษัทของลูกกำลังเจอปัญหา หนูน้อยลิลี่ รู้สึกว่าจะเป็นเรื่องขาดเงินห้าล้านใช่ไหม?” เวนท์เวิร์ธมองไปที่ลิลี่และกล่าว “พ่อเป็นห่วงลูกหลังจากที่แม่บอกพ่อเมื่อวันก่อน แต่ในตอนนั้น เงินทุนของพ่อยังอยู่ในตลาดหุ้น ไม่มีทางที่พ่อจะช่วยลูกได้เลย แต่ตอนนี้มันไม่มีปัญหาอีกแล้ว พ่อขายหุ้นออกมาแล้ว”
เวนท์เวิร์ธเขียนเช็คอีกใบหนึ่งในขณะที่กล่าว
“นี่เช็คอีกห้าสิบล้าน” เวนท์เวิร์ธหัวเราะแล้วกล่าว “ยังไงก็ตาม เช็คที่พ่อให้ลูกไปยังไม่สามารถถอนเงินได้ ลูกจะสามารถใช้มันได้สัปดาห์หน้า เพราะเช็คจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อพ่อออกจากประเทศไปแล้ว”
มันมีข้อแม้แบบนี้ด้วยเหรอ?
ซาแมนธาเชื่อคำของเขาแม้ว่าจะมีข้อสงสัยอยู่ แต่เธอก็พยักหน้าซ้ำ ๆ ด้วยรอบยิ้ม
ในที่สุด พวกเขาก็จะสามารถเฉิดฉายได้อีกครั้งหลังจากต้องอดทนมานาน พวกเขากระตือรือร้นที่จะดูว่ามีใครจะยังกล้าดูถูกพวกเขาอีกไหมในงานเลี้ยงวันเกิดของคุณย่าลินดัน!
ติ๊ง-ติ๊ง!
ทั้งครอบครัวพูดคุยกันอย่างมีความสุขจนกระทั่งมือถือของลิลี่ดังขึ้น หลังดูชื่อของผู้โทร ทั้งครอบครัวก็ถึงกับมองหน้ากัน
มันเป็นสายจากคุณย่าลินดัน?
“เกิดอะไรขึ้น?” ซาแมนธาถาม
หญิงชราที่ดูแลทุกกิจการภายในตระกูลลินดันและเธอก็แทบจะจมกองงานอยู่ทุกวัน มันเป็นเรื่องปกติที่เหล่าผู้อาวุโสของตระกูลลินดันที่คอยประจำอยู่นั้นจะติดต่อกับคุณย่าลินดัน เธอไม่เคยโทรหาลูกหลานของเธอมาก่อน โดยเฉพาะกับลิลี่ ในฐานะที่เธอมีสถานะในตระกูลลินดันต่ำที่สุด
“หนูก็ไม่รู้” ลิลี่ตอบจากนั้นเธอก็รับสายโดยที่กดปุ่มเปิดลำโพงไปด้วย
“หนูน้อยลิลี่?”
เสียงของหญิงชราดังออกมาจากปลายสาย
แม้จะมีความไม่พอใจเล็กน้อยที่จะต้องโทรหาใครบางคนที่อายุน้อยกว่าเธอ แต่เธอก็ไม่มีทางเลือก บริษัทแพลทินัมบอกไว้ชัดเจนว่าการเจรจาธุรกิจในอนาคตต้องใช้ลิลี่ และเป็นลิลี่เท่านั้น มันไร้ประโยชน์ที่จะให้คนอื่นทำแทนในการเจรจา!
“หนูน้อยลิลี่ ย่าอยากให้หลานช่วยสักหน่อย…” หญิงชรากล่าวต่อ
ทั้งสามถึงกับตกตะลึงเมื่อได้ยินประโยคที่เธอกล่าว!
คุณย่าลินดันดูแลทุกอย่างมาตลอดหลายปี เมื่อไหร่กันที่เธอขอให้คนอื่นช่วย?!
ซาแมนธารีบถาม “คุณแม่คะ เกิดอะไรขึ้น โปรดบอกพวกเราว่าคุณแม่ต้องการอะไร!”
“ย่าอยากจะถามหนูน้อยลิลี่…” หญิงชราเงียบไปครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายเธอก็กล่าวต่อ “ย่าอยากขอถามว่าหลานอยากจะไปเป็นตัวแทนเจรจากับบริษัทแพลทินัมเพื่อเป็นที่ปรึกษาด้านภาพลักษณ์ของจีเซลล์ไหม”
ซาแมนธางุนงง หญิงชรานั้นได้ส่งความรับผิดชอบนี้ไปให้วิลเลียมแล้ว ลิลี่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนที่ไปเจรจาอย่างวิลเลียมนั้นได้รับอนุญาตให้เอาความดีความชอบของเธอไป งั้นทำไมทำไมหญิงชราถึงได้มอบหน้าที่นี้ให้เธออีก?
แม้ว่าซาแมนธาจะรู้สึกเสียใจกับความไม่ยุติธรรม แต่เธอก็ยังคงยิ้ม “ไม่ต้องห่วงค่ะคุณแม่! หนูจะบอกให้หนูน้อยลิลี่ไปที่นั่นตอนเที่ยง”
ยังไงก็ตาม คุณย่านั้นก็เป็นหัวหน้าของครอบครัว ซาแมนธานั้นปลื้มปิติมากที่หญิงชราโทรหาพวกเขาและขอร้องพวกเขาด้วยน้ำเสียงวิงวอน! มันไม่มีเหตุผลให้ต้องปฏิเสธเลย!
แม้จะเป็นเช่นนั้น ร่างกายของลิลี่ก็ถึงกับสั่นเทา! แดร์ริลได้ส่งข้อความมาหาเธอ และบอกให้เธอปฏิเสธหญิงชราเสียถ้าเธอโทรมา!
แดร์ริลรู้ได้ยังไงว่าเธอจะโทรมา? เขาเป็นหมอดูเหรอ…?
ลิลี่กัดริมฝีปากแน่น จิตใต้สำนึกของเธอทำงานโดยไม่รู้ตัว “คุณย่าคะ หนูขอโทษ แต่หนูขอปฏิเสธ ในเมื่อวิลเลียมได้หน้าที่นี้ไปแล้ว เขาก็ควรเป็นคนไปเจรจา”
“เธอ!” หญิงชราโกรธมาก “เธอเริ่มดื้อด้านแล้วนะ ใช่รึเปล่า หนูน้อยลิลี่? เธอคิดว่าลินดันจะล้มเหลวในการทำสัญญาคู่ค้ากับบริษัทแพลทินัมหากไม่มีเธอเหรอ?! ช่างยะโสจริง ๆ!”
ลิลี่วางสายไปก่อนที่หญิงชราจะกล่าวจบด้วยซ้ำ!
กลับมาที่โต๊ะอาหาร ซาแมนธาและเวนท์เวิร์ธมองหน้ากันละกัน ตอนนี้พวกเขาโกรธมาก
“หนูน้อยลิลี่ ลูกทำอะไรลงไป?!” ซาแมนธาตบลงที่โต๊ะด้วยความโมโห “เราจะใช้ชีวิตในตระกูลลินดันยังไงหลังจากลูกไปต่อต้านคุณย่า?! ถึงคุณย่าจะโปรดปรานวิลเลียมมาก แต่ลูกก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขานั้นมีความสามารถในงานที่เขาทำ! ลูกจะไม่ไว้หน้าเธอหน่อยเหรอ ในเมื่อเธอถึงกับวางความหยิ่งยะโสลงแล้วโทรหาลูกเพื่อขอให้ลูกไปเจรจา?!”
ลิลี่กัดริมฝีปากแน่น เพราะแดร์ริลได้ส่งข้อความบอกเธอก่อนหน้านี้ ความคิดของเธอหาคำตอบสิ่งที่เขาบอกไม่ได้ และเธอก็สงสัยว่าทำไม หลังจากไตร่ตรองได้ครูหนึ่ง เธอจึงเชื่อแดร์ริลและปฏิเสธหญิงชราไป
หลังจากฟังคำบ่นของซาแมนธา ลิลี่นำโทรศัพท์ของเธอออกมาเงียบ ๆ แล้วส่งข้อความไปหาแดร์ริลด้วยหัวที่ว่างเปล่า: ‘ฉันปฏิเสธหญิงชราไปแล้ว ฉันต้องทำอะไรต่อ’
ทุกคนเรียกแดร์ริลว่าขี้แพ้ และมันก็ทำให้เธอโกรธเพราะเธอรู้สึกว่าเขาไม่ได้ทำพยายามทำอะไรเพื่อพัฒนาทำเองเลย แต่เธอก็ต้องถอนความคิดนั้นออก ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับเขาไม่นานมานี้สร้างความฉงนให้เธอ และดูเหมือนแดร์ริลจะมาช่วยเธอในเวลาสำคัญเสมอ ดังนั้นจิตใต้สำนึกของเธอจึงเริ่มเชื่อในคำพูดของแดร์ริล
ไม่นานโทรศัพท์ก็ดังขึ้น และมันก็เป็นประโยคสั้นๆไม่กี่ประโยคจากแดร์ริล ‘หญิงชราจะพยายามขอร้องคุณเรื่อย ๆ แต่คุณต้องปฏิเสธต่อไป บริษัทแพลทินัมจะไม่ยอมรับใครนอกจากคุณ เชื่อผม’
ลลี่พลั้นรู้สึกปลอดภัยอย่างไม่สามารถหาคําอธิบายได้เมื่ออ่านสองค่ําสุดท้ายในข้อความ ทันใดนั้น ซาแมนธาก็อกโทรศัพท์ของเธอออกไป! “เยี่ยมเลย แกปฏิเสธคําขอของหญิงชรา! และมันก็เป็นเพราะแดร์ริลบอกให้แกทํา ใช่ไหม?” อกของซาแมนธาสันเต็มและเธอก็ชี้ไปที่ลิลีอย่างเอาเรื่อง “นี่แกเป็นบ้าไปแล้วรึไง? แกเชื่อคําพูดของแดร์ริลจริง ๆ เหรอ! ฉันจะบอกแกให้นะ แกจะต้องหย่ากับมันหลังจากงานวันเกิดคุณย่า!” “แม่ แดร์ริลคาดเดาไว้ก่อนแล้วว่าคุณย่าจะโทรหาหนู.. “ลิลีประท้วง ซาแมนธาเริ่มโมโหมากขึ้นเรื่อย ๆ และตบไปที่โต๊ะอย่างรุนแรง “จําคําฉันไว้ แดร์ริลมันเป็นพวกไม่มีอะไรดี! มองไปที่คนอื่นสิ คนอื่นเขามีลูกเขยแบบมันไหม? มีครอบครัวไหนไหมที่มีลูกเขยที่มีค่าน้อยกว่าสิบล้าน!” เธอเริ่มกระวนกระวายมากขึ้น ๆ ในขณะที่เธอกําลังพูด และความโกรธของเธอก็ลุกเป็นไฟเพราะการพูดถึงแดร์ริล ในตอนกลางวัน คุณย่าดินดันได้ส่งสเตฟาน ลินดัน เพื่อไปเจรจาธุรกิจ : สเตฟานเป็นหนึ่งในตัวตนที่โดดเด่นในบรรดาเด็กรุ่นใหม่ของตระกูลลินดัน ฐานะของเขาเป็นรองเพียงวิลเลียม แต่สุดท้ายแล้ว เขาก็ถูกไล่ออกมาโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทแพลทินัมก่อนที่จะได้คุยอะไรด้วยซ้ํา หญิงชราเริ่มตื่นตระหนกเมื่อเห็นสเตฟานกลับมา เกิดอะไรขึ้น? นีลิลีเป็นคนเดียวที่บริษัทแพลทินัมยอมรับจริง ๆ เหรอ? คุณย่าดินดันนั่งอยู่บนเก้าอี้ เธอสูบบุหรีมวนใหม่หลังจากสูบมวนที่แล้วหมด “ผมมีแผนครับ คุณย่า” มันเป็นวิลเลียมที่เดินเข้ามาแล้วกล่าว “คุณย่า ผมเดาว่าที่ลิลีสามารถทําสัญญาสําเร็จได้ก็เพราะเธอสวย” วิลเลียมแจกแจงต่อ “ด้วยเหตุนี้เราจึงเห็นได้ว่าประธานบริษัทแพลทินัมนั้นเป็นพวกเสือผู้หญิง ลิลี่มันเป็นหญิงงามเพียงหนึ่งเดียวในครอบครัวเรา! เอลซ่าเองก็เป็นหญิงที่งดงาม ฉันทําไมเราไม่ส่งเธอไปลองดูละครับ” ถูกต้อง หญิงสาวทั้งสองที่ตระกูลลิ่นดันนั้นจดจํากันได้ดีจากความงดงาม คนแรกนั้นคือลิลี และอีกคนนั้นเป็นใครไม่ได้นอกจากเอลซ่า หากนับตามอายุลิลีนั้นต้องนับเอลซ่าเป็นพี่สาวด้วยซ้ํา ทุกคนเห็นด้วยกับข้อเสนอนั้น การสังเกตของวิลเลียมนั้นมีเหตุผล พวกเขามั่นใจว่าประธานของบริษัทแพลทินัมนั้นเพียงแค่ชอบลิลีเพราะเธอสวย เช้าตรู่วันต่อมา เอลซ่าไปที่บริษัทแพลทินัมคนเดียว เอลซ่าฉันชวนตกตะลึงอย่างปฏิเสธไม่ได้ เธอเป็นหญิงที่งามที่สุดในแนวของเธอ ทั้งด้านทรวดทรงและหน้าตา!