“หวงห่าวหยาน เจ้าเอาหอยสังข์นั่นออกมาให้พวกเขาได้ดู” เย่หยวนสั่ง
เขานั้นไม่รู้จักแต่มันไม่ได้หมายความว่าเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกทั้งสามนี้จะไม่รู้
เพราะอย่างไรเสียพวกเขาทั้งหลายนี้ก็ทำสงครามกับเผ่าทะเลมานานหลายปีและมันย่อมจะไม่แปลกหากพวกเขานั้นจะเคยได้เห็นสมบัติของเผ่าทะเลมาบ้าง
หวงห่าวหยานนั้นได้แต่ต้องทำตามคำสั่งหยิบเอาหอยสังข์นั้นออกมา
“ผู้อาวุโสชุย ท่านรู้จักมันหรือไม่?” เย่หยวนถามขึ้น
เมื่อชุยถงได้เห็นหอยสังข์นี้ก็ต้องผงะไปทันที “นี่มัน…หรือว่าจะเป็นสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกในตำนาน?”
“สังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยก?” เย่หยวนถามขึ้นมา
ชุยถงนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าซีดขาว “สังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกนั้นมันคือสุดยอดสมบัติประจำราชวงศ์หนามใต้ ว่ากันว่ามันมีพลังไร้จำกัด! ข้าได้ยินมาว่ามันเป็นถึงสมบัติยอดหมอกขั้นต่ำ!”
“สมบัติยอดหมอก?” เย่หยวนถามขึ้นมาด้วยสีหน้ามึนงงเพราะเขานั้นไม่เคยจะได้ยินเรื่องของสมบัติยอดหมอกมาก่อน
ตอนที่ผู้นำพันธมิตรโอสถหยิบเอาสมบัติยอดหมอกออกมานั้นตัวเย่หยวนก็ถูกส่งลงหายไปในกระแสมิติไปแล้ว
ชุยถงจึงตอบกลับมา “เหนือจากสมบัติวิญญาณสวรรค์ไปมันคือสมบัติยอดหมอก! สมบัติยอดหมอกนั้นมันคืออาวุธของเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนทั้งหลาย มันมีพลังไร้ขีดจำกัด ไม่ผิดแน่ รูปร่างของหอยสังข์นี้มันเหมือนกับตำนานที่เฒ่าคนนี้เคยได้ยินได้ฟังมา! เพียงแค่ว่าเฒ่านี้เองก็ไม่อาจจะสัมผัสถึงพลังของมันได้ ไม่ทราบว่าด้วยเหตุใด”
หวงห่าวหยานและซูเป่ยหยุนนั้นหน้าซีดขาวลงทันทีที่ได้ยิน เวลานี้พวกเขาได้รู้แล้วว่าตัวหายนะมันคือพวกเขาเอง
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมก่อนนั้นเผ่าเงือกจึงได้ตามติดมามากมายไม่ยอมลดละปานนั้น
ดูท่าแล้วเผ่าเงือกเองก็คงรู้ถึงความสำคัญของมันและจึงกลับไปรายงานให้แก่ราชวงศ์หนามใต้จนเกิดเป็นสงครามครั้งนี้ขึ้นมา
เมื่อซูยี่ได้ยินเช่นนั้นเขาก็ร้องลั่นขึ้นมา “หวงห่าวหยาน เจ้าทำอะไรลงไป!”
เขานั้นไม่นึกไม่ฝันว่ากลุ่มของหวงห่าวหยานและลูกสาวตนนั้นกลับจะไปเรียกหายนะเช่นนี้มา
เวลานี้เขาคิดอยากจะกระแทกฝ่ามือสังหารหวงห่าวหยานให้มันตายๆ ลงไปเสีย
หวงห่าวหยานนั้นตอบกลับมาด้วยใบหน้าซีดขาว ก้มคุกเข่าลงกราบทั้งน้ำตา “ทะ ท่านเจ้าเมือง ข้านั้นไม่รู้จริงๆ หากข้ารู้ว่ามันเป็นสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยก ข้าคงไม่กล้าแม้แต่จะบุกเข้าไปใกล้แล้ว!”
ซูยี่กัดฟันแน่นขึ้นมาอย่างเกลียดชัง “พูดตอนนี้มันจะได้ประโยชน์อันใดเล่า? หากเจ้ามีปัญญาก็ไปเจรจากับราชวงศ์หนามใต้เอาสิ!”
คนทั้งหลายรอบๆ ตัวเขาเองก็ต่างแสดงสีหน้าไม่เป็นมิตรออกมา
ดูท่าแล้วพวกเขานั้นย่อมจะไม่ชอบใจการกระทำของหวงห่าวหยานมาก
เพราะจะอย่างไรเสียมันก็สร้างหายนะขึ้นมาอย่างแท้จริง!
เวลานี้ทั้งแดนสวรรค์ใต้คงตกสู่ห้วงสงครามอันโหดร้ายแน่
“ท่านพ่อ มันไม่ใช่ความผิดพี่หยานเลยจริงๆ เป็นลูกเองที่หยิบเอาสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกนี้ออกมาจากศาลาเฝ้าสมบัติของเผ่าเงือก!” ซูเป่ยหยุนนั้นกล่าวขึ้นมาพร้อมคุกเข่าลงข้างกายหวงห่าวหยาน
“เจ้า!” ซูยี่นั้นโกรธแค้นจนแทบจะกระอักเลือดขึ้นมา
ก่อนที่เขาด่าว่าออกมารุนแรงราวกับว่าโลกหล้ามันจะจบสิ้นก็เพื่อคิดจะกันตัวลูกสาวออกมาให้พ้นความผิด
ซูยี่รู้ดีว่าการไปยังเผ่าเงือกในครั้งนี้มันเป็นความคิดของหวงห่าวหยาน
ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วเขาก็ย่อมจะต้องเป็นคนรับผิดชอบ
แต่เขากลับไม่นึกฝันว่าลูกสาวของเขากลับจะพุ่งเอาตัวเข้ามาร่วมรับผิดไปด้วย!
ภายใต้สายตาของคนทั้งหลายนี้เขาจะยังสามารถปกป้องนางได้หรือ?
หวงห่าวหยานนั้นหรี่ตาลงก่อนจะกล่าวขึ้น “ท่านเจ้าเมืองและผู้อาวุโสทั้งหลาย เรื่องนี้เดิมทีแล้วมันล้วนเป็นความผิดข้า ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคนที่ติดตามไปด้วยเลย! เป่ยหยุนนั้นใช้มุกซ่อนน้ำบุกเข้าไปในเผ่าเงือกก็เพราะข้าสั่ง! เรื่องในวันนี้ห่าวหยานจะขอรับมันไว้ด้วยตัวเอง! ข้านั้นจะเอาสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกนี้ลงไปเจรจาอธิบายเรื่องราวกับราชวงศ์หนามใต้เอง!”
เวลานี้ตัวหวงห่าวหยานนั้นไม่เหลือร่องรอยของเด็กหนุ่มขี้ขลาดอีกแล้ว
สายตาของเขานั้นมันเปี่ยมล้นไปด้วยความมุ่งมั่นและรับผิดชอบ!
เมื่อซูยี่ได้ยินเช่นนั้นเขาก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นมาอย่างตกตะลึง
เขานั้นก็ไม่นึกฝันว่าหวงห่าวหยานกลับจะเป็นคนขอแบกรับความผิดไว้ด้วยตัวเองเช่นนี้
ดูท่าแล้วเด็กหนุ่มคนนี้คงจะรักลูกของเขามากจริงๆ
แต่เรื่องระหว่างหวงห่าวหยานและลูกสาวของเขานั้นมันย่อมจะจบกันลงวันนี้แล้ว
“เอาเถอะ! ปัญหาที่เจ้าก่อนั้นเจ้าก็ต้องรับผิดชอบมันเอง!” ซูยี่กล่าวขึ้นมา
คนอื่นๆ นั้นก็ไม่คิดจะก้าวขึ้นมาหยุดใดๆ เพียงแค่มองดูเรื่องราวไปเฉยๆ
คนที่สร้างหายนะขึ้นมานั้นมันย่อมจะต้องเป็นคนรับผิดชอบแล้ว
“ท่านพ่อ!” ซูเป่ยหยุนนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำตานองหน้า
หวงห่าวหยานถือสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกไว้มั่นก่อนจะหันมายิ้มให้แก่ซูเป่ยหยุน “เป่ยหยุน อย่าได้ก่อเรื่องอีก! เรื่องนี้เดิมทีมันก็เป็นความผิดข้าแล้วย่อมจะต้องเป็นข้าที่ต้องรับผิดชอบ! ท่านเจ้าเมืองซูกล่าวไม่ผิดเลย เจ้าอย่าได้โกรธเคืองท่านเลย!”
“แต่…” ซูเป่ยหยุนพยายามกล่าวเถียงขึ้นมาทั้งน้ำตา
“มันไม่มีแต่! หากชาติหน้ามีจริงข้าขอให้เราได้อยู่ด้วยกัน!” หวงห่าวหยานนั้นก้มลงจูบซูเป่ยหยุนต่อหน้าคนทั้งหลาย
ภาพนี้มันดูแสนงดงามแต่ในเวลานี้มันกลับเปี่ยมล้นไปด้วยความโศกเศร้าจนแทบขาดใจ
คนทั้งหลายนั้นเข้าใจดีว่าเมื่อหวงห่าวหยานไปแล้ว มันย่อมจะต้องตายอย่างไร้ที่กลบฝังแน่
ส่วนเรื่องที่ว่าเผ่าทะเลนั้นจะหยุดสงครามหรือไม่หลังจากได้สังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกคืนมันก็ยังไม่แน่
แต่ความตายของหวงห่าวหยานเท่านั้นที่แน่นอน
พูดจบหวงห่าวหยานก็เดินหันหน้าออกไป
แต่ในเวลานั้นเองที่เย่หยวนได้กล่าวขึ้นมาขัด “เดี๋ยว!”
หวงห่าวหยานนั้นหันกลับมาก้มหัวให้เย่หยวน “อาจารย์เย่มีคำแนะนำใดหรือ?”
เย่หยวนตอบกลับไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย “ข้าไปด้วย”
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวสีหน้าของคนทั้งหลายมันก็เปลี่ยนสีไปทันที
การต้องเผชิญหน้ากับกองทัพทะเลเช่นนี้ต่อให้จะเป็นยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกมันก็ยังไม่แน่ว่าจะรอด แล้วมีหรือที่นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่จะรอดไปได้?
หรือว่าเย่หยวนเบื่อชีวิตจึงคิดจะไปตายตามหวงห่าวหยาน?
“ไม่! ท่านไปด้วยไม่ได้!” ก่อนที่หวงห่าวหยานจะได้กล่าวอะไรขึ้นมาชุยถงก็รีบแทรกขึ้นก่อน
เจียงหลี่เองก็รีบกล่าวเสริมขึ้น “ตัวตนของอาจารย์เย่นั้นยิ่งใหญ่แค่ไหน? มีหรือที่เราจะปล่อยท่านไปเสี่ยงชีวิตได้?”
เพราะตัวเย่หยวนนั้นคือผู้ถือความลับของระดับแท้อยู่!
นี่มันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่จะปล่อยให้หลุดมือแดนสวรรค์ใต้ไปได้
แต่เขานั้นกลับจะเดินเข้าไปตาย!
แน่นอนว่าจากนั้นเหล่าเจ้าเมืองทั้งหลายต่างก็กล่าวขึ้นมาตามๆ กันพยายามยั้งเย่หยวนไว้
แค่คำพูดเดียวนี้มันก็ทำให้หวงห่าวหยานรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทั้งหัวใจอย่างไม่อาจจะหาคำอธิบายได้
แม้ว่าปัญหาทั้งหมดนี่จะเกิดขึ้นเพราะเขาก็ตาม แต่ในเวลานี้เขาย่อมจะหวังอยู่ลึกๆ ในใจให้มีใครก้าวออกมาปกป้องตัวเขา
เขานั้นไม่ได้ตั้งใจ!
แต่นั่ยแค่ทำพลาดไป!
แต่ไม่!
คนทั้งหลายทำเหมือนเขาเป็นโรคร้ายที่ต้องโยนทิ้งลงถังขยะไป
หากยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกออกหน้ามาแล้วเขาย่อมจะพอมีโอกาสรอดชีวิตอยู่บ้าง!
แต่ไม่มีใคร!…
เขาไม่นึกฝันว่าในเวลานี้มันกลับเป็นเย่หยวนที่ออกหน้ามาแทน!
“อาจารย์เย่ ห่าวหยานรู้ว่าท่านหวังดี! แต่ตำแหน่งของท่านนั้นมันยิ่งใหญ่จนไม่อาจจะเอามาเสี่ยงกับชีวิตน้อยๆ ของข้าได้! เวลานี้ให้ห่าวหยานไปคนเดียวจะดีกว่า!” หวงห่าวหยานกล่าวขึ้นมา
เย่หยวนยิ้ม “ใครบอกว่าข้าจะไปตายกับเจ้ากันเล่า? ชีวิตเย่ผู้นี้ยังมีเรื่องต้องทำอีกมาก! เอาล่ะ เรื่องนี้เอาเป็นเช่นนี้ พวกเจ้าไม่ต้องมาโน้มน้าวใดๆ ข้าอีกต่อไปแล้ว”
แต่ชุยถงนั้นยังเถียงกลับมา “อาจารย์เย่ เรื่องนี้มันจะอย่างไรก็ไม่ได้! ท่านจะไปไม่ได้!”
เขานั้นกล่าวขึ้นมาพร้อมวางท่าที่พร้อมเข้าใช้กำลังทุกเมื่อ
แต่เย่หยวนนั้นกลับยิ้มตอบไป “ผู้อาวุโสชุย ท่านหยุดข้าไม่ได้! เรามาพนันกันไหมเล่า หากท่านลงมือต่อข้าวันนี้แล้ววันหน้าแดนสวรรค์ใต้นี้มันจะไม่ได้เห็นโอสถสวรรค์ระดับแท้อีกเลย! หากท่านไม่เชื่อก็เชิญลงมือได้”
เขานั้นย่อมรู้ดีว่าชุยถงคิดอะไรอยู่ เหตุผลที่คนทั้งหลายนี้ยกยอเขามากมายมันก็เพียงเพราะว่าอยากได้วิธีการหลอมโอสถสวรรค์ระดับแท้เท่านั้น
เพราะฉะนั้นสิ่งที่พวกเขาสนใจมันคือสิ่งนั้น มิใช่ตัวเขา
กลับกันแล้วตัวหวงห่าวหยานยังจะดูจริงใจมากกว่า
ชุยถงนั้นหรี่ตาลงด้วยความลังเลสุดใจ
มีหรือที่นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่คนหนึ่งจะหลุดรอดมือเขา ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกไปได้หากเขาคิดจับตัวไว้?
แต่ท่าทางของเย่หยวนนั้นมันทำให้ตัวเขารู้สึกลังเลขึ้นมาจริงๆ
หากเขากดดันเย่หยวนมากจนเกินไปและไม่อาจจะควบคุมเขาไว้ได้แล้ว ผลที่ตามมามันย่อมจะมากล้ำเกินกว่าที่จะรับ
เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจท่าทางลังเลของชุยถงก่อนจะหันไปหาซูยี่ “เจ้าเมืองซู ช่วยเตรียมสมุนไพรสวรรค์ทั้งหลายตามที่เขียนในแผ่นหยกนี้ให้ข้าหน่อย ยิ่งได้มากยิ่งดี!”
………..