“ทุกคนฟังให้ดี ฉันจะพูดถึงสถานการณ์ปัจจุบันและปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ นับตั้งแต่เหตุการณ์ ‘ดาวตกเพลิงวันเทศกาลซีซี’ ก็ผ่านมากว่าสองเดือนแล้ว ตอนนี้ ในเมืองฉีของเรามีกลุ่มคนที่ถูกปลุกพลังขึ้นมา พวกเขามีความสามารถหลากหลายและวิธีการปลุกพลังที่แตกต่างกัน หลังจากการทำงานหนักเกือบสองเดือน เราเข้าใจกลุ่มผู้ถูกปลุกพลังพิเศษเหล่านี้คร่าวๆ แล้ว และเราสามารถปิดเครือข่ายได้ครอบคลุมทุกด้าน”
ณ หน่วยประสานงานกิจการพิเศษเมืองฉี ในห้องใต้ดินลับ ตอนนี้กำลังจัดการประชุมลับสุดยอด
โม่ซิ่งผู้อำนวยการสำนักงาน ชายหนุ่มรูปร่างผอมบางกำลังทำหน้าที่เป็นผู้รับผิดชอบการประชุม และวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันพร้อมกับถ่ายทอดจิตวิญญาณจากเบื้องบนให้ผู้ใต้บังคับบัญชาฟัง
“ตอนนี้ฉันจะแนะนำสถานการณ์ของผู้มีพลังพิเศษสั้นๆ เรื่องการแยกประเภทยังไม่แน่ชัดนัก แต่ตอนนี้สามารถแบ่งพวกเขาออกได้ตามอุดมการณ์ ซึ่งก็เป็นประโยชน์ต่องานส่วนต่อไปของเรา นั่นคือศึกษาการพัฒนาโปรเจกต์ โดยทั่วไปเราแบ่งอุดมการณ์ของพวกเขาออกเป็น 4 ประเภท หนึ่งคือประเภทที่ใช้พลังเหนือธรรมชาติเพื่อให้ตนเองร่ำรวย ประเภทที่สองคืออาศัยพลังเหนือธรรมชาติผดุงคุณธรรม สามประเภทเกียจคร้าน สี่ประเภทที่อาศัยพลังเหนือธรรมชาติกดขี่และสังหารคนบริสุทธิ์ ซึ่งสิ่งที่เราต้องทำคือสนับสนุนประเภทแรก จำกัดประเภทที่สอง ปลุกระดมประเภทที่สาม และโจมตีประเภทที่สี่อย่างเฉียบขาด!”
เขาพูดจบก็รูดปากกาอิเล็กทรอนิกส์ในมือเล็กน้อย ตอนนั้นเองก็ปรากฏจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ฉายชัดบนผนัง
สิ่งที่อยู่บนจอโปรเจคเตอร์ก็คือสิ่งที่เขาอยากพูด
เมื่อพลิกหน้าแรกของจอก็ปรากฏหน้าใหม่ที่มีข้อความ ‘หนึ่ง: ใช้พลังเหนือธรรมชาติอย่างถูกกฎหมายเพื่อความร่ำรวย’
ใต้ชื่อเรื่องมีรูปเต็มตัวของคนคนหนึ่งปรากฏอยู่ หน้าตาค่อนข้างดูดี รูปร่างไม่สูง อ้วนเล็กน้อย และดวงตาเลื่อนลอย
ถัดจากนั้นคือประโยคแนะนำตัวอย่างเรียบง่าย
‘ไฟล์ Q432 ความลับสุดยอด ชื่อฟางหนิง เกิดเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2532 เพศชาย ชอบกิจกรรมออนไลน์ เช่น เล่นเกม อ่านนวนิยาย นิสัยขี้เกียจและเข้ากับผู้อื่นง่าย เอฟเฟกต์พลัง: รสชาติอาหารแกร่งขึ้น ลิงค์บันทึกชีวิต XXXX, รหัสลายนิ้วมือลิงค์ XXXX, ลิงค์รหัส DNA XXXXXXX, ลิงค์รหัสประจำตัวใบหน้า XXXXX, รหัสระบุม่านตา…’
ผู้อำนวยการโม่ชี้ไปที่รูปเหมือนของฟางหนิงและเปิดประวัติของอีกฝ่าย
ในประวัติโดยย่อ รายชื่อร้านแฟรนไชส์รายใหญ่ที่รุ่งเรืองและเงินที่ไหลเข้าบัญชีในแต่ละวันนั้นน่าตกใจมาก สิ่งนี้ทำได้ภายในเวลาไม่ถึงสองเดือนหลังจากอีกฝ่ายได้พลังพิเศษ เขากลายเป็นเศรษฐีหน้าใหม่โดยไร้ข้อกังขา
“สหายท่านนี้คือตัวแทนของประเภทการใช้พลังเหนือธรรมชาติอย่างถูกกฎหมายเพื่อความร่ำรวย เขาใช้ความสามารถในการปรุงรสชาติอาหารทำเครื่องปรุงรสที่เป็นเอกลักษณ์ หลังจากเราตรวจสอบอย่างลับๆ แล้ว พบว่าไม่มีพิษภัยและไม่เป็นอันตราย เพียงแค่เพิ่มความสดและรสชาติขึ้นสิบเท่า ใช้โอกาสนี้เข้าสู่ตลาดอย่างรวดเร็วและคว้าโอกาสทางธุรกิจไว้ได้
“และที่หาได้ยากคือถึงแม้เขาจะร่ำรวยด้วยการใช้พลังพิเศษ แต่สหายฟางหนิงคนนี้ก็ยังไม่ลืมความตั้งใจเดิม ตอนนี้เขายังคงใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่บ้าน เล่นเกม และอ่านนิยายออนไลน์ ไม่ใช้จ่ายเงินสุรุ่ยสุร่าย เล่นการพนันหรือซื้อบริการเพียงเพราะทำเงินได้มหาศาล ทำให้เราที่ติดตามและสังเกตพฤติกรรมของเขาไร้กังวลมาก
“เรามองจากพฤติกรรมของอีกฝ่ายก็รู้แล้วว่าบุคคลนี้สนับสนุนระเบียบทางสังคมในปัจจุบันของเราอย่างแข็งขันและเต็มใจรักษาความสงบเรียบร้อยในตอนนี้ไว้”
โม่ซิ่งยกย่องฟางหนิง แน่นอนเขาไม่รู้ว่าไม่ใช่ว่าฟางหนิงไม่ต้องการใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย แม้งานอดิเรกจะเป็นการอ่านนิยายและเล่นเกม แต่เขาก็ไม่สามารถต้านทานความสวยความงามได้ เพียงแต่เขาไม่สามารถปิดบังเส้นทางที่เงินถูกใช้ไปจากระบบได้ก็เท่านั้น เวลาที่เขาควบคุมร่างกายตัวเองได้ก็มีจำกัด เวลาปล่อยตัวในตอนนี้เพียงพอให้เขาลงบันไดไปรับพัสดุ และถ้าอยากทำมากกว่านี้ก็ต้องรอระบบก่อน
แน่นอนเขาพูดถูกในจุดหนึ่ง ฟางหนิงซึ่งเป็นโอตาคุตัวพ่อและขี้เกียจตัวเป็นขนไม่เคยต้องการให้โลกวุ่นวาย ยิ่งตอนนี้ยิ่งไม่ต้องการ ไม่อย่างนั้นจะยังมีคนพัฒนาเกม อัพเดทนิยาย ให้เขาเล่น ให้เขาอ่านได้อย่างไร
โม่ซิ่งพูดไปพลางก็นึกถึงความยากลำบากในระยะนี้ เพียงเท่านั้นเขาก็ต้องถอนหายใจออกมา “เหล่าสหาย ถ้าคนทั่วไปถูกปลุกพลังพิเศษขึ้นมาทั้งหมด เราจะประหยัดได้มากแค่ไหนกันนะ ไม่ใช่แค่สามารถเพิ่มจีดีพีของเมืองเราได้ แต่ยังเพิ่มดัชนีความสุขของผู้คนด้วย สำหรับคนที่ถูกปลุกพลังพิเศษประเภทนี้ จิตวิญญาณด้านบนนี้ชัดเจนมาก เราจำเป็นต้องปกป้อง สนับสนุน และแอบส่งเสริมให้เป็นแบบอย่างสำหรับคนที่ถูกปลุกพลังพิเศษคนอื่นๆ”
เหล่าคนที่นั่งอยู่ในกลุ่มผู้ชมต่างพยักหน้าเมื่อได้ยินเรื่องนี้ จิตวิญญาณที่ผู้อำนวยการโม่ส่งออกมาชัดเจนแจ่มแจ้ง ข้างต้นไม่ได้ถือว่าผู้ที่ถูกปลุกพลังพิเศษทุกคนจะเป็นปัจจัยที่ไม่เสถียร ขอเพียงพวกเขาสนับสนุนกฎระเบียบปัจจุบันอย่างแข็งขันและเต็มใจปฏิบัติตาม ทุกอย่างที่กล่าวมาก็ล้วนได้รับอนุญาตและสนับสนุน ตอนนี้ไม่ใช่ยุคปิดหูปิดตาอีกแล้ว แต่เป็นสังคมที่ปกครองด้วยกฎหมาย
แน่นอนว่าคนพวกนี้ไม่ได้โง่ คนอย่างฟางหนิงไร้พิษภัย ชายที่ถูกลิขิตให้เป็นคนที่สร้างปัญหาใหญ่ไม่ได้เป็นผู้มีพลังพิเศษที่พวกคนด้านบนชอบมากที่สุด จึงใช้ชีวิตอิสระในสังคมต่อไปได้ในฐานะต้นแบบ…
ส่วนพวกผู้ชายที่มีความสามารถและศักยภาพเหมือนเดอะฮัคส์ แม้ว่าพวกเขาจะเชื่อฟัง แต่ก็ไม่ควรเดินเตร่ในสังคมจะดีกว่า รวมกลุ่มกันอยู่ในองค์กรนั้นอบอุ่นที่สุดแล้ว…
การประชุมดำเนินต่อไป ผู้อำนวยการโม่ยังคงเอ่ยต่อ สิ่งที่เขาพูดจะสร้างคลื่นลูกใหม่ให้นเมืองฉีในอนาคตอันใกล้…
………………
วันนี้จ้าวอิ๋งจมอยู่กับความสุขเพราะเธอเห็นชายผู้ช่วยชีวิตเธออีกครั้ง เขาปรากฏตัวในร้านของเธอ เข้ามาสั่งอาหาร และดูเหมือนว่าจะอยู่ต่ออีกพักหนึ่ง
เดิมทีเธอคิดว่าจะไม่มีวันเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว เมืองฉีมีประชากรหลายล้านคน ความเป็นไปได้ที่คนแปลกหน้าสองคนจะพบกันอีกครั้งในระยะเวลาสั้นๆ แทบไม่มี
แต่วันนี้เธอกลับดีใจมากที่ตอนนั้นตอบรับคำชวนมาทำงานที่ร้านอาหารเช้าของฟางหนิง เธอคิดว่าเหตุผลที่ชายในฝันคนนี้มาปรากฏตัวที่นี่คงเป็นเพราะชื่อเสียงของร้านแน่นอน
ร้านอาหารในเครือ ‘รสชาติของฟางซื่อ’ เพิ่งมีชื่อเสียงในเมืองฉี นักชิมท้องถิ่นที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเกือบทุกคนต่างมาลิ้มลอง ร้านอาหารเช้าร้านแรกที่ฟางหนิงเปิด ตอนนี้ได้ขยายเป็นร้านอาหารที่เปิดให้บริการตลอดทั้งวันจึงกลายเป็นสถานที่หลักในบรรดาสาขาทั้งหมดและดึงดูดผู้คนได้มากที่สุด
จ้าวอิ๋งบิดเอวเรียวเล็กไปมา ก่อนจะหาที่นั่งให้อีกฝ่ายด้วยตัวเอง จากนั้นจึงกำชับพ่อครัวเป็นพิเศษให้เพิ่มปริมาณและใส่เครื่องปรุงที่เถ้าแก่เตรียมไว้เพิ่มเพื่อให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะพึงพอใจ
เธอคิดว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ลืมบุญคุณคน อีกฝ่ายช่วยชีวิตเธอไว้ เธอจะทำเป็นไม่เห็นได้อย่างไรเล่า แน่นอนว่าต้องบริการเขาดีๆ เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์สาวงามผู้กตัญญูรู้คุณของตัวเอง
อีกฝ่ายปรากฏตัวอีกครั้งกลางวันแสกๆ โดยไร้อันตราย เห็นได้ชัดว่าคดีก่อนหน้านี้คงจะยุติลงแล้ว ดูจากเรื่องนี้พี่ชายสุดหล่อตรงหน้าคงจะมีภูมิหลังไม่ธรรมดา
มีความรับผิดชอบ หน้าตาดี แล้วยังมีฐานะดีอีก ช่างตรงมาตรฐานชายในฝันจริงๆ จะไม่ปฏิบัติต่อเขาให้ดีได้อย่างไรล่ะ เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ หัวใจของเธอก็วุ่นวายเล็กน้อย
“เฮ้ พี่ชายสุดหล่อ ยังจำฉันได้ไหม” เธอเอนตัวพิงโต๊ะที่อีกฝ่ายกำลังกินอยู่และถามเบาๆ
ตอนนี้เธอสับสนมากทีเดียว ด้านหนึ่งด้วยการทำงานหนักมากกว่าหนึ่งเดือน หุ้นที่มีศักยภาพเพิ่มมูลค่าของเถ้าแก่ฟางหนิงได้กลายเป็นหุ้นกลุ่มบลูชิพ (หุ้นชั้นดี มีความมั่นคง) ไปแล้ว เธอเริ่มทำงานแต่เช้า และเห็นบ่อยๆ ว่าอีกฝ่ายไม่หลับไม่นอน เธอก็รู้แล้วว่าใกล้จะถึงจุดสิ้นสุดความอดทน
ก็แค่ผู้ชายที่ไม่รู้วิธีก้าวหน้า ก่อนหน้านี้ยังขยายสาขาไปอย่างยิ่งใหญ่ แต่อยู่ดีๆ ก็หยุดกึกซึ่งนั่นทำให้เธอไม่พอใจเล็กน้อย เธอยังอยากเป็นประธานกลุ่มเครือแฟรนไชส์ ไม่ใช่ผู้จัดการร้านคนหนึ่งเหมือนในตอนนี้
แต่ในเวลานี้เทพบุตรสุดหล่อกลับปรากฏตัวอีกครั้ง อีกฝ่ายไม่พูดอะไร ไม่ทำอะไร เพียงนั่งรออาหารด้วยท่าทีเย็นชา แค่เท่านั้นก็ดึงหัวใจเธอกลับคืนไปมากกว่าครึ่งได้แล้ว
ต้องบอกว่านี่คือยุคสมัยที่ดูกันที่รูปลักษณ์ภายนอกจริงๆ ผู้ชายก็ทำ ผู้หญิงก็ทำเหมือนกัน ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งตามจีบหญิงสาวในใจตัวเองมาหลายปีก็เทียบไม่ได้กับผู้ชายในใจของหญิงสาวตอบกลับมาว่า ‘ฉันมาช้า’
ด้านฟางหนิง ตอนนี้เขากำลังเล่นเกมเข้าคิวยิงในร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ในพื้นที่ระบบอย่างเมามัน ทันใดนั้นระบบก็ปรากฏข้อความแจ้งเตือนขึ้นตรงหน้าเขา
ให้ตายเถอะ ฉันเล่นจะจบอยู่แล้ว! ฟางหนิงรีบใช้บทบาทผู้บัญชาการของเขาสั่งการทหารชาวฝรั่งเศสที่เล่นด้วยผู้เล่นจริงๆ เขากำลังจะสั่งยิงแท้ๆ แต่ก็ไม่สามารถทนเสียงบ่นนั่นได้ จึงรีบไปที่หน้าตัวเลือกของระบบทันที
‘หญิงสาวอ่อนแอที่คุณช่วยไว้ก่อนหน้านี้พบคุณที่ร้านอาหารและเธอกำลังคุยกับคุณอยู่ คุณยืนยันแล้วว่าเธอถูกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสอบปากคำและทำให้ข้อมูลบางส่วนของคุณรั่วไหล
ตัวเลือกที่หนึ่ง: คุณเป็นใคร เรารู้จักกันหรือ
ตัวเลือกที่สอง: โอ้ คราวก่อนฉันช่วยเธอ แต่เธอกลับขายฉัน ไปไกลๆ ให้ถึงดวงจันทร์เลยนะ ไสหัวไปไกลๆ ซะ!
ตัวเลือกที่สาม: คุณมองเธออย่างเย็นชาและรออาหารของคุณต่อไปราวกับเธอไม่มีตัวตน’
หลังจากให้คำแนะนำไปหลายครั้ง เขาก็รู้สึกว่าตนเองเริ่มจะมีตำแหน่งในระดับหนึ่งในสายตาของระบบบ้างแล้ว ไม่เหมือนตอนแรกที่ต้องเข้าไปเลือกทันที แต่เมื่อย้อนกลับไปคิดถึงตัวเลือกที่ระบบให้มา ในไม่ช้าเขาก็พบจุดเชื่อมโยง
ดังนั้นเขาจึงปักสามตัวเลือกนี้ไปข้างๆ และเอ่ยถาม
“ระบบ ฉันว่าพฤติกรรมต่อต้านสังคมของแกดูจะมากเกินไปหน่อยแล้วนะ ตัวเลือกที่ให้มาดูไม่เป็นมิตรเลยสักข้อ เราคุยกับคนอื่นดีๆ ไม่ได้เหรอ”
ฟางหนิงเข้าใจดีว่าระบบไม่ใช่มนุษย์ ไม่มีสิ่งที่ชอบหรือไม่ชอบ สิ่งที่มันทำจะไม่มีวันน่าเบื่อเพราะมันไม่มีความรู้สึก ทุกสิ่งต้องทำอย่างมีความหมาย และสิ่งนี้แหละที่ทำให้ฟางหนิงงุนงง ถ้าเป็นอย่างนี้จริงๆ ทำไมระบบถึงดูเหมือนจะโกรธเคืองอีกฝ่ายที่กำลังพูดคุยด้วยตลอดเวลา หรือว่ามันอยากเก็บกวาดปีศาจให้ได้มากกว่านี้ คงไม่ใช่หรอกมั้ง
……………………………………………………..