เมื่อผมโดนระบบครองร่าง – บทที่ 55 พวกเราคือเจ้านาย

บทที่ 55 พวกเราคือเจ้านาย

เทพแห่งระบบควบคุมร่างของฟางหนิงให้ยืนเคียงข้างเขา เฝ้าคุมไม่ห่าง

ฟางหนิงตามน้ำไม่เอ่ยขัด งูดำตัวนั้นไม่กลัวแม้แต่อัศวิน A ที่กำลังเฝ้าดูอยู่

อัศวิน A พยักหน้า แม้ว่าพวกเขาจะเป็นมือใหม่ แต่อย่างน้อยฟางหนิงก็เป็นมือใหม่ที่อยู่ภายใต้การดูแลของเทพแห่งระบบ ในความพลิ้วไหว เดินหน้า ถอยหลัง เชิงรุก และแนวรับย่อมสมควรเหนือกว่า

ในทางกลับกันงูดำกลับไม่เคลื่อนไหว มันอาศัยสัญชาตญาณในการสะกดรอยเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เวลาฝึกซ้อมของฟางหนิงนั้นแสนสั้น ความแข็งแกร่งของเขาต่ำเกินไป เขาต่อสู้เป็นเวลาครึ่งชั่วโมงแต่ก็ไม่ชนะคู่ต่อสู้ ตรงกันข้ามหลังจากปล่อยทักษะไปสองสามครั้ง ก็ถูกอีกฝ่ายหลบอย่างหลอกล่อ จนพวกเขาเกือบจะถูกอีกฝ่ายลอบโจมตีสำเร็จ

ฟางหนิงก้าวถอยหลังและเปิดระยะห่าง ใช้ประโยชน์จากเวลาฟื้นตัวของคู่ต่อสู้

แต่นั่นกลับเสียเวลามากเกินไป เพราะเขาไม่สามารถรับมือกับอีกฝ่ายได้เป็นเวลานาน ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเลิกใช้วรยุทธ์ เตรียมใช้ทักษะลิ้นพิษแทน เพื่อขับไล่งูดำผู้น่าสงสารนี้ออกไป

เขายังมีเกมที่ต้องเล่นอีก แต่นี่ผ่านไปตั้งครึ่งชั่วโมงแล้ว เขาฝึกทักษะไปแล้วหนึ่งครั้ง หากไม่หยุดตอนนี้มีหวังคงได้ไปตลอดคืนแน่นอน อีกอย่าวพรุ่งนี้ก็วันจันทร์อีกแล้ว ไม่เล่นวันนี้แล้วจะเล่นวันไหนอีก

ดังนั้นเขาจึงเอ่ยปากขึ้นอีกรอบ “วิทยายุทธ์ไม่ได้ด้อย แต่น่าเสียดายที่ถูกควบคุมโดยคนอื่นราวกับสุนัข การคอยไล่ฆ่าแกมันช่างน่าเบื่อจริงๆ วันนี้ฉันมีบางอย่างที่ต้องทำ เพราะฉะนั้นฉันจะไว้ชีวิตสุนัขอย่างแกแล้วกัน! รีบไสหัวไปให้พ้น!”

เมื่อเทพแห่งระบบได้ยินดังนั้นก็อึ้งไปในทันที โฮสต์เป็นอะไรไป? ตอนนี้ยังเปิดอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ไว้อีกหรือ? ไหนดูเวลาสิ บ้าชิบ! เพิ่งผ่านไปครึ่งชั่วโมง แต่โฮสต์ก็คิดถึงเกมที่ยังเล่นไม่จบแล้ว

งูดำยังไม่ยอมล่าถอย ตอนนี้ภารกิจของมันยังไม่สำเร็จ ส่วนอัศวิน A จะเป็นมังกรตัวจริงหรือไม่ก็ยังไม่อาจทราบได้

งูดำ “น่าสมเพชจริงๆ! แกไม่มีที่ไปล่ะสิ ดูแกแล้วคงเป็นได้แค่สัตว์เลี้ยงของคนอื่นเท่านั้นแหละ! ถูกบังคับให้ซ้อมทุกวี่ทุกวัน กลัวจนต้องยอมนอนดึกดื่น! ทำอะไรได้บ้าง!”

ฟางหนิงได้ยินแบบนั้น ก็ไม่สามารทนอยู่เฉยให้ใครเข้าใจผิดได้ จึงปฏิเสธทันที “ฮ่าฮ่า คนผู้นี้ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงหรืออะไรทั้งนั้น! คนที่ยืนอยู่ข้างๆ คอยดูเหตุการณ์ เป็นแค่ทาสรับใช้ของฉันเท่านั้นแหละ! เขาดูแลทุกปัญหาและฉันก็ได้รับอิสระเสมอ แค่ช่วงนี้มีงานยุ่งนิดหน่อย ต้องตอกบัตรที่ทำงานด้วย แต่หลังจากเลิกงานก็ยังสามารถเคลียร์นิยายแล้วก็เล่นเกมของมนุษย์ได้ สบายกว่าสุนัขที่ถูกบังคับให้ทำนู่นนี่อย่างแกตั้งเยอะ!”

เมื่องูดำได้ยิน ก็เกิดความรู้สึกอิจฉาชิงชังทันที มันโต้กลับ “เป็นไปไม่ได้ โลกจะมีหลักการเช่นนี้ได้ยังไง? แกไม่รู้หรือว่าเขาเก่งกว่าเจ้านายของฉันตั้งกี่เท่า แต่แกกลับอ่อนแอเหมือนฉัน แล้วแกจะเป็นเจ้านายของเขาได้ยังไงกัน? แถมทุกวันยังมีเวลาอิสระ ฉันไม่เชื่อหรอก! เว้นแต่ว่าแกกำลังพูดถึงนิยายสุดฮอตเรื่องล่าสุด ‘XXXX’ ว่าอัพไปกี่ตอนแล้ว? เนื้อหาเป็นไงงั้นหรือ?”

ฟางหนิงตอบกลับ “ฉันไม่ได้คาดหวังว่าแกจะมาเป็นเพื่อนฉันด้วยหรอกนะ นิยายเล่มนั้นได้รับการอัปเดตถึงบทที่ 223 เรื่องเกี่ยวกับสถานการณ์ในสมรภูมิพบที่ยิ่งใหญ่ของคนสามฝ่าย นักเขียนสองคนโกหกว่าเขาเข้าโรงพยาบาล และฉันกำลังจะไปดูว่ามันเป็นเรื่องจริงไหม ถ้าเขาโกหก ก็แค่จับเขาแล้วบังคับให้อัปโหลดตอนใหม่ซะ แต่จนถึงตอนนี้จากที่ฉันมานับดู ในเวลาไม่ถึงหนึ่งปีครอบครัวและญาติของเขาน่าจะเข้าโรงพยาบาลไปหมดแล้วล่ะ แกจะพูดอะไรอีก นี่คือประกาศอัปเดตที่เราเพิ่งเห็นเมื่อเช้านี้!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ งูดำก็เหมือนถูกโจมตีเข้า 10,000 แต้มและหลังจากต่อสู้กันเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงอย่างเอาเป็นเอาตาย ตอนนั้นเองมันก็ก้มศีรษะลง ก้าวถอยหลังครั้งแล้วครั้งเล่า จนในที่สุดก็พิงกำแพงในตรอกราวกับว่าพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์

จากนั้นงูดำก็คำรามขึ้นไปบนฟ้า “ให้ตายสิ ทุกคนเป็นมือใหม่ แต่แกกลับสามารถพลิกกลับมานำได้ ส่วนฉันเป็นได้แค่หมา! เกิดอะไรขึ้นกัน!”

เมื่อฟางหนิงได้ยินเรื่องนี้ เขาก็คิดในใจ เด็กคนนี้ช่างโง่เขลานักก แต่เราไม่ได้โกหกเขาหรอก เทพแห่งระบบไม่ใช่มนุษย์และเขาก็ไม่มีความรู้สึกถึงสถานะของเจ้านายกับทาสรับใช้

ในตอนนี้เขาสนใจเรื่องราวที่น่าเศร้าของชายคนนี้มากกว่า “มาเถอะ พูดถึงความโชคร้ายของแกมากพอแล้ว มาทำให้ทุกคนมีความสุขกันเถอะ บางทีแกอาจหาทาสรับใช้มาช่วยได้ จะได้รู้สักทีว่าฉันไม่ได้พูดโอ้อวด”

งูดำแทบกระอักเลือด แต่เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย จู่ๆ ก็มีความหวังขึ้นอีกครั้ง จึงรีบเอ่ย “ฉันชื่อหลงฟาน เดิมทีฉันเป็นคนธรรมดาที่เล่นอยู่ในบ้าน จู่ๆ ก็ถูกจิตปีศาจงูเข้าครอบงำ ขอบคุณฉันที่อ่านนิยายมาหลายปี จึงขุดหลุมขนาดใหญ่ในทะเลแห่งจิตสำนึกแล้วฝังมันไว้ โดยไม่คาดคิดว่าต่อมาตอนที่ฉันขับรถแท็กซี่ออกไป งูนั่นจะคลานออกมาจากหลุมกลางทะเลแห่งจิตสำนึก ฉันกลัวจนไม่พูดอะไรไม่ออกทำให้รถเกิดพลิกคว่ำ พอตื่นมาก็พบว่าปีศาจงูครองร่างฉันไว้ชั่วขณะ แล้วยังคิดจะกินผู้โดยสารของฉันที่อาการโคม่า! ฉันจัดการเอาร่างของตัวเองกลับคืนมาเพื่อช่วยชีวิตผู้โดยสาร แต่เพราะฉันอยู่ในร่างงงู เลยถูกเข้าใจผิด ฉันจึงถูกสาวน้อยที่เดินผ่านเข้าตีจนตาย เหลือเพียงวิญญาณหนึ่งดวง สาวน้อยคนนั้นฉันไม่รู้ว่าเธอใช้คาถาอะไร เธอผสานฉันกับวิญญาณปีศาจงูแปลงร่างเป็นอสรพิษดำตัวนี้ แล้วก็เปลี่ยนฉันให้กลายเป็นหน่วยสำรวจของเธอ ที่ไหนมีรูก็จะให้ขุดไปที่นั่น ที่ไหนมีอันตรายก็เรียกให้ฉันเข้าไปดู!”

ฟางหนิงฟังด้วยความเห็นอกเห็นใจ แต่หลังจากคิดดูแล้ว กลับรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ “นี่ล้อเล่นใช่ไหม? เจ้านายของแก ถ้าฉันเดาไม่ผิดน่าจะเป็นผู้หญิงที่นั่งทานอาหารเย็นอยู่ไม่ไกลจากด้านหลังฉัน ดูไม่เหมือนคนไม่ดีเลย ช่วยอธิบายทีสิว่าทำไมหล่อนปล่อยนายไปไม่ได้?”

งูดำอาเจียนเป็นเลือดอีกครั้ง “ถ้าแกตั้งใจฟังที่ฉันบอก แกคิดว่าฉะนจะสู้กับเธอได้หรือ? เธอใช้คำพูดทั้งหมดกับฉันในฐานะปีศาจเจ้าเล่ห์ แต่จิตวิญญาณของฉันถูกพันธนาการกับปีศาจงู บางครั้งฉันก็จะแสดงสัญชาตญาณของงูออกมา เธอก็เลยไม่เชื่อ”

ไม่มีสุขใดไร้การเปรียบเทียบ เทพแห่งระบบเพียงครองร่างของฟางหนิงเอาไว้และปล่อยให้เขาได้เพลิดเพลินกับความสุขของตนเอง ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะเข้มงวดมาหน่อย แต่ก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไร แค่เหนื่อยจากการทำงานและฝึกซ้อมนิดหน่อย และอย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลกับชะตากรรมอย่างชายคนนี้

ฟางหนิงคิดเช่นนี้ก็รู้สึกพอใจทันที “โอ้ เพื่อนยาก ชีวิตยังคงสวยงาม ต้องตั้งหน้าตั้งตารอต่อไปเถอะ ถึงยังไงนายก็ยังมีวิญญาณนี่ แค่เป็นอีกวิถีชีวิตหนึ่ง ถึงจะเล่นเกมไม่ได้ แต่ก็อ่านนิยายแก้ขัดไปก่อนได้ไม่ใช่หรือ?”

เดี๋ยวนะ วิญญาณ?

จู่ๆ ฟางหนิงก็นึกอะไรบางอย่างได้ จึงรีบติดต่อไปยังเทพแห่งระบบทันที “ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าทำไมปีศาจหนูยักษ์สองตัวถึงฆ่าตัวตายครั้งก่อน”

เทพแห่งระบบกำลังเตรียมการให้ฟางหนิงกลับไปที่ร้านอินเทอร์เน็ต ก่อนจะตัดขาดการเชื่อมต่อจากอินเทอร์เน็ตเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ใครใช้ฟางหนิงมัวแต่เล่นไม่สนใจการฝึกซ้อมล่ะ

แค่โจมตีอีกครึ่งเดียวก็ชนะแล้วแต่โฮสต์กลับไม่ยอมทำ นึกไม่ถึงเลยว่างูดำจะมาพัวพันกับนิยายหรืออะไรสักอย่างด้วย มันไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ส่วนสถานะของเจ้านายและทาสรับใช้ มันไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ และสิ่งนั้นไม่สามารถเพิ่มพูนอัตราการรอดชีวิตได้

ทว่า เมื่อได้ยินโฮสต์พูดเรื่องนี้ ระบบกลับรีบตั้งใจฟัง

ระบบเอ่ยถาม “ทำไมหรือ”

ฟางหนิงรีบบอก “ฉันจำได้ว่าหลังจากที่นายฆ่าพี่น้องหนูยักษ์ครั้งสุดท้าย นายเคยพูดอยู่ครั้งหนึ่งว่าพวกมันถูกทุบตีจนร่างกายของพวกมันใช้การไม่ได้ใช่ไหม?”

ระบบตอบรับ “ใช่ ร่างมังกรตัวจริงนั้นทรงพลังเกินไป ปราณอยู่ในช่วงฟื้นฟูและวิญญาณของพวกมันก็ไม่แข็งแรงพอ ถ้าฉันไม่จงใจควบคุมและฆ่าพวกมันโดยตรงด้วยร่างของมังกรตัวจริง พวกมันก็จะถูกกำจัดโดยธรรมชาติ”

ฟางหนิงเอ่ย “ใช่แล้ว ไม่น่าแปลกที่คู่หนูยักษ์นั่นฆ่าตัวตายล่วงหน้า ดังนั้นจึงสมเหตุสมผล พวกเขาไม่อยากถูกร่างมังกรฆ่าตาย พวกเขาจึงละทิ้งจิตวิญญาณทั้งหมดด้วยตัวพวกเขาเอง พี่น้องหนูยักษ์ก่อนหน้านี้สองตัวตายเร็วเกินไป และตัวสุดท้ายต่อสู้กับปีศาจงู ทั้งยังถูกเราลอบโจมตีอีก จนพวกมันทั้งหมดวิญญาณแหลกสลาย”

ระบบ “โอ้ ดูเหมือนว่าร่างมังกรตัวจริง จะไม่สามารถใช้ได้ตามใจชอบแล้วสินะ ถ้าพวกมันเล่นฆ่าตัวตายกันอีก พวกเราจะจบภารกิจของพวกมันไม่ได้”

ฟางหนิง “การกลายร่างของมังกรนั้นใช้การเคลื่อนไหวมากเกินไป เพราะลอบโจมตีก่อน เราเลยใช้ไพ่ไม้ตายสุดท้ายได้”

ระบบ “ลืมมันไปเถอะ โฮสต์รู้เหตุผลแล้ว มันถึงจัดการได้ง่าย การจู่โจมยังถูกใช้งานไม่บ่อยนัก ถ้านายใช้มันมากเกินไป จะสูญเสียทักษะกล้าหาญได้โดยง่าย”

เมื่อโฮสต์ทำประโยชน์ ระบบจึงยอมเพิกเฉยเรื่องที่เขาเกียจคร้านในการต่อสู้

ฟางหนิงกล่าวต่อ “อย่างไรก็ตาม แกช่วยให้ฉันดูสีของงูดำตัวนี้หน่อย ว่าเห็นตราบาปของมันไหม”

ฟางหนิงไม่ใช่คนเข้าสังคมเก่ง แต่ก็ใช่ว่าเขาจะตกหลุมพรางแต่เนิ่นๆ ? ดังนั้นบนแผนที่ระบบตำแหน่งของอีกฝ่ายควรจะมีสีขาวตามคำกล่าว แต่หากเป็นสีแดงนั่นหมายความว่าอีกฝ่ายโกหก

ระบบตอบกลับอย่างรวดเร็ว “เขามีสีเหลืองกับสีขาว ไม่มีสีแดงเลยสักนิด เขาอาจจะเป็นงูที่ดีก็ได้”

ฟางหนิงพูดไม่ออก แม้จะอึดอัดเล็กน้อย แต่เอาเถอะ อย่างน้อยก็ไม่ได้ถูกเขาหลอก

ฟางหนิงกลับไปพูดคุยกับงูดำอีกครั้ง

ฟางหนิง “เอาล่ะ ทาสรับใช้ของฉันบอกว่านายไม่ได้โกหก”

งูดำหลั่งน้ำตาพร้อมพยักหน้า “ขอบคุณแกมาก ขอบคุณจริงๆ โปรดไปที่นั่นและช่วยบอกเจ้านายฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้ที”

ฟางหนิงเหลือบมอง ยากนักที่จะพบสหายคอหนังสือเดียวกัน แค่ความพยายามสื่อในประโยคที่พูด อีกอย่างงูดำตัวนี้เป็นหน่วยสอดแนมของหน่วยตรวจสอบมาโดยตลอด เขาจะต้องรู้ความลับมากมายที่อาจนำไปใช้ในอนาคตได้

“โอเค ปล่อยให้ทาสรับใช้ของฉันจัดการเถอะ เขามีชื่อเสียงมากกว่าฉันในโลกมนุษย์ ฉันจะให้หมายเลข QQ ของทาสรับใช้ของฉันแก่นาย เพื่อที่เราจะสามารถติดต่อกันได้ในอนาคต”

หลังจากฟางหนิงพูดจบเขาก็ถอยกลับไปยังในพื้นที่ระบบ แล้วตั้งใจทำงานต่อไป ปล่อยให้เทพแห่งระบบจัดการเรื่องเล็กน้อยนี้ให้เสร็จ

………………………………………………

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง

Status: Ongoing

จู่ๆ ก็มีดาวตกพุ่งลงมาที่โลก ทำเอาพื้นดินถึงกับสั่นไหวเล็กน้อย

แต่แรงสั่นสะเทือนนั้นกลับทำให้ 'ฟางหนิง' หัวโขกกับโต๊ะคอมพิวเตอร์จนสลบไป

ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเขามีระบบ ขณะที่กำลังจะดีใจว่าในที่สุดก็มีขาทองคำมาให้เกาะ

เจ้าระบบนั่นกลับประเมินว่าเขาเป็นโรคขี้เกียจระยะสุดท้าย ปล่อยไว้ไม่มีทางเจริญก้าวหน้า

และทำการยึดครองร่างของเขาซะงั้น!?

...

จากหนุ่มโอตาคุผู้แสนจะขี้เกียจที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ

กลับต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนโฉมตนเองเป็นฮีโร่คอยปราบปรามเหล่าปีศาจร้าย

ปกป้องเมืองที่ตนอยู่อาศัย และฝึกวิทยายุทธ์เพื่อก้าวสู่จุดสูงสุดนิ้วทองคำของระบบ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท