บทที่ 65 สโมสรฝึกบำเพ็ญเปิดรับสมัคร
ฟางหนิงอาศัยการปรากฏตัวของพระโพธิสัตว์ราชาผีชี้แนะให้จับบอสใหญ่ เวลาผ่านไปนาน ความเสี่ยงที่แฝงอยู่ก็ยิ่งสูง ถ้าหากพระโพธิสัตว์ราชาผีที่ปรากฏตัวครั้งนี้เป็นบุคคลอันตราย สถานะอัศวิน A นี้ต่อให้เล่นจนพลาด ตอนที่ปะทะกับอีกฝ่าย บรรพบุรุษตระกูลไป๋จะต้องฉวยโอกาสลอบโจมตีเป็นแน่ พวกเขาทำได้แค่เปลี่ยนตัวละคร
เขาบอกอย่างจริงจัง ว่าระบบจะเอาแต่คิดเรื่องจับบอสระเบิดชุดทองอย่างเดียวไม่ได้ เป็นคน ไม่สิ เป็นระบบก็ต้องอยู่กับความจริง ต้องคอยเก็บตัวเหมือนก่อน ตั้งใจจับปีศาจและขยันอัปเลเวล รอจนถึงเวลาเมื่อไรที่จับบอสแล้วไม่ต่างกับจับปีศาจลิ่วล้อ ค่อยมาจัดการฆ่าบอสเก็บไอเท็มล้ำค่า ทว่านี่เป็นชีวิตจริงๆ ไม่ใช่เกม บอสใหญ่จะรวมตัวกันเรียกเพื่อนมาช่วย และสำคัญที่สุดก็คือจะไม่มีโอกาสฟื้นคืนชีพอีก
ฟางหนิงสั่งสอนระบบชุดใหญ่ ให้เลิกยึดติดกับซุปเปอร์บอส แล้วเลือกที่จะพัฒนาฝึกฝนต่อไปอย่างเรียบง่าย และเขาเองก็จะได้กลับไปใช้ชีวิตประจำวันตอกบัตรเข้างานตามเวลาเดิม เลิกงานอยู่บ้านเล่นเกมได้ตามปกติเสียที
เรื่องจับบอสใหญ่ทั้งหมดในครั้งนี้ นอกจากการทดสอบขีดจำกัดสูงสุดของผู้แข็งแกร่งในปัจจุบันแล้ว ฟางหนิงยังมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งมากๆ นั่นไม่ควรไปแตะคัมภีร์เล่มนี้เข้าเป็นอันขาด! เพราะมันมักจะเป็นสาเหตุให้อินเทอร์เน็ตและไฟดับ
หลังจากเรื่องนั้น แม้ว่าจะไม่ได้อะไรมากนัก แต่หัวหน้าระบบยังให้รางวัลเขาด้วยการปล่อยให้ร่างกายเป็นอิสระ ในเมื่อสุดท้ายแล้วยังคงเป็นเพราะคำแนะนำของเขา จึงได้รับคัมภีร์ลับหายากนั่นมา
แน่นอนว่ายังมีอีกสาเหตุหนึ่งก็คือฟางหนิงพูดนั่นนี่มากมาย เพราะฉะนั้นเขาควรจะพักผ่อนให้มากขึ้น หลายวันนี้เอาแต่นั่งเล่นอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ของระบบ ไม่ได้โต้ตอบกับผู้คนจนรู้สึกว่าสมองเชื่องช้า และหากเป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่าสมองจะฝ่อไปในที่สุด
สามวันต่อมา ฟางหนิงก็วาง ‘คัมภีร์โพธิ์’ ที่เข้าใจได้ยากลง และยังหลอกหัวหน้าระบบว่าจะใช้เวลาพักผ่อน ไม่ให้ระบบติดตามตัวเอง ให้เขาได้ฝึกเองก่อน ปล่อยให้เขามีความเป็นส่วนตัวเต็มที่และมีเวลาอิสระเพื่อใช้ชีวิตของตัวเอง
วิธีการใช้ชีวิตอย่างอิสระของฟางหนิงก็คือใช้เวลาในการพักผ่อนด้วยการไปไปร้านหนังสือใหญ่ที่สุดในเมืองเพื่อซื้อนิยายกองหนึ่ง
ใช่แล้ว การใช้ชีวิตอิสระที่เขาเรียก แท้จริงแล้วก็คือการเตรียมพร้อมเผื่อวันหลังถูกขังในห้องมืดพื้นที่ระบบนั่นเอง
ฟางหนิงแต่งตัวตามสไตล์เศรษฐีขี้อวด เสื้อผ้าแบรนด์ Armani กับรองเท้า Adidas มีคนเดินขนาบข้างซ้ายขวาสองคน เดินอกผายไหล่ผึ่งเข้าไปในร้านหนังสือ
ด้านนอกมีรถจอดอยู่สองคัน คันหนึ่งเป็นรถหรู อีกคันเป็นรถบรรทุก โอตาคุอย่างฟางหนิงไม่มีทางเรียนขับรถ สองคนนี้คือคนขับรถของร้าน และรถก็เป็นทรัพย์สินของร้าน
เมื่อเขาพาทั้งสองเข้าไปในร้านหนังสือก็เห็นว่าพนักงานร้านสาวสวยคนหนึ่งเข้ามาต้อนรับ นี่คือเศรษฐีหน้าใหม่ไม่ใช่หรือ มาซื้อหนังสือกลับไปโอ้อวดกองโตเลยสินะ กิจการจะต้องรุ่งเรืองมากแน่นอน!
“คุณลูกค้า ต้องการหนังสือเล่มไหนหรือคะ ให้ฉันช่วยแนะนำไหมคะ”
ฟางหนิง “ไม่เป็นไรครับ ผมหาหนังสือนิยายออนไลน์ที่ออกใหม่ คุณไปทำงานเถอะครับ”
พนักงานผิดหวังเล็กน้อย ถึงอย่างไรหนังสือคลาสสิกก็เหมาะกับความต้องการโอ้อวดมากที่สุด หนังสือชุดหนึ่งแพงหูฉี่ หนังสือคลาสสิกเลียนแบบของเก่ามีมากมายหาไม่ยาก ถ้าเศรษฐีคนนี้ให้เธอแนะนำหนังสือล่ะก็… เธอคงแนะนำหนังสือชุดแพงๆ ได้หลายชุดแน่นอน
นึกไม่ถึงว่าสไตล์การโอ้อวดของเศรษฐีคนนี้จะต่างกับคนทั่วไป นิยายออนไลน์เป็นหนังสือใหม่ทั้งนั้น ทั้งยังหนาและหนัก ชุดหนึ่งก็ราคาไม่แพงมาก แต่สุดท้ายเธอก็ยังคงพูดจาด้วยความสุภาพ “คุณลูกค้า นิยายออนไลน์ออกใหม่อยู่ที่ชั้นนี้ค่ะ”
ฟางหนิงเดินไปตามทางที่พนักงานร้านบอก มีหนังสือนิยายวางเรียงแน่นเป็นแถว แต่ละปกสีสันสวยงามละลานตา
“เล่มนี้เพิ่งอ่านจบ” ฟางหนิงเดินไปหยิบเล่มหนึ่งออกมาให้พนักงานที่ตามมา
“เล่มนี้ตอนจบห่วยมาก” เขาหยิบออกมาอีกเล่ม
“เล่มนี้ตอนท้ายเขียนไม่จบตั้งนานแล้ว” และอีกเล่ม
ฟางหนิงเลือกหนังสือแล้วดึงออกมาทีละเล่ม
สุดท้ายเขาก็หยิบหนังสือออกมานับสิบกว่าเล่มแล้วถือไปวางที่เคาน์เตอร์
พนักงานสาวสวยผิดหวังมาก แต่ยังคงยิ้มแย้มรักษามารยาทเอาไว้ “คุณลูกค้า ฉันจะสแกนราคาหนังสือให้คุณดูค่ะ”
ฟางหนิงรู้สึกพอใจแต่ภายนอกกลับส่ายหน้า ชี้นิ้วไปที่ชั้นหนังสือพลางเอ่ยขึ้น “นอกจากหนังสือพวกนี้ หนังสือออนไลน์บนชั้นนั้นของพวกคุณ ขอให้ผมทุกเล่ม ปกละหนึ่งเล่มไม่ซ้ำกัน”
พนักงานสาวสวยประหลาดใจ จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นท่าทางดีใจ สุดท้ายก็คิดว่า พวกชอบอวดรวยจริงๆ เหมือนพล็อตคลาสสิกเศรษฐีที่ชอบไปซื้อเสื้อผ้าในหนังสินะ เพียงแต่ว่าผู้ชายคนนี้ไม่สนใจเสื้อผ้า กลับมาอวดรวยที่ร้านหนังสือแทน
“ค่ะๆ ฉันจะรีบให้คนขนไปให้ที่รถค่ะ” พนักงานสาวพยักหน้า
ขายหนังสือได้พันเล่มในคราวเดียวก็ทำเงินได้ไม่น้อย ถ้าเขาจะอวดรวยก็โอเค
พนักงานสาวคิดเงิน ดีใจจนหน้าบาน เศรษฐีที่มีรสนิยมพิเศษ ดูเหมือนจะกวาดซื้อนิยายออนไลน์ออกใหม่ทุกเล่ม นับรวมเป็นพันเล่มเลยทีเดียว ตอนที่คิดเงินจึงมากถึงแสนกว่าหยวน เป็นเงินจำนวนไม่น้อย ทำเงินเข้ากระเป๋าได้หนักจริงๆ!
ตลอดเวลาที่ไปซื้อหนังสือ ระบบราวกับไม่มีตัวตน ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ
แต่เมื่อฟางหนิงเตรียมจะรูดบัตรเครดิต ระบบกลับแย้งขึ้น
ระบบ “อย่าใช้เงินฟุ่มเฟือย ถ้าฉันไม่ตกลง โฮสต์จะเอาของพวกนี้เข้าไปในพื้นที่ระบบไม่ได้ ซื้อเยอะแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์…”
ฟางหนิงอึ้ง มองหนังสือที่ขนไปยังรถบรรทุก และยังมีพนักงานที่กำลังฉีกยิ้ม กัดฟันพูด “แกจะจับตาดูฉันตลอดใช่ไหม อยากเห็นฉันขายหน้าหรือไง ไม่ให้วางในพื้นที่ระบบ ฉันซื้อไปวางที่บ้านไม่ได้หรือไง!”
ระบบ “โฮสต์อยากจะซื้อหนังสือนิยายออนไลน์พวกนี้อวดรวยก็เชิญเลย เพราะถึงยังไง โฮสต์ฏ้ใช้งบทั้งสามเดือนหมดเกลี้ยงแล้ว…”
ในที่สุดพนักงานสาวสวยก็ไม่ต้องผิดหวัง เธอส่งเศรษฐีขี้อวดคนนี้กลับบ้านไปอย่างมีความสุข
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็สองสัปดาห์แล้ว
วันนี้ ฟางหนิงฉวยโอกาสที่ระบบกำลังยุ่งอยู่กับการเก็บค่าความยุติธรรม มา แอบทำงาน อ่านนิยาย และเล่นเกม ในตอนนั้นเอง QQ ที่มุมขวาล่างของคอมพิวเตอร์ก็กะพริบ
ฟางหนิงเปิดกล่องข้อความ QQ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นประธานจ้าว มีเรื่องอะไรกันนะ
ว่าที่พ่อตาคนนี้มากินข้าวฟรีสัปดาห์ละครั้ง มนุษย์กลไกระดับสูงที่เป็นตัวแทนฟางหนิงคอยแสดงแทนและคอยต้อนรับอย่างสุภาพตลอด ยังจะมีเรื่องอะไรอีก
ปัญหาเดียวก็คืออีกฝ่ายเห็นห้องหนังสือของเขามีนิยายออนไลน์วางเรียงรายอย่างอลังการแล้ว ก็ส่ายหัวถอนหายใจอยู่นาน และเอ่ยหลายครั้งว่าจะแนะนำหนังสือสร้างแรงบันดาลใจให้ แต่รสนิยมกลับไม่ตรงกัน
ฟางหนิงรีบปฏิเสธ ในใจคิดว่าตอนนี้เขาอยู่ในสภาพถูกครองร่าง หนังสือคำคมคงไม่ได้ช่วยอะไร
ประธานจ้าวกำลังพิมพ์ “ลูกเขย ไม่ใช่ๆ เมื่อกี้การป้อนคำมีปัญหา หลานชาย หมู่นี้ฉันได้ยินมาว่าในประเทศเรามีสโมสรฝึกบำเพ็ญเศรษฐีกำลังรับสมัครสมาชิกทั่วประเทศ ฉันรู้สึกว่าฝึกฝน ‘การเปลี่ยนร่างมังกร’ คืบหน้าไปช้ามาก อีกอย่างฉันรู้สึกว่าเรียนไม่ไหว…
แม่ยาย ไม่ใช่สิ ภรรยาฉันน่ะบอกว่าพวกเราน่าจะลองไปฟังดู ที่นั่นมีวิธีฝึกบำเพ็ญพื้นฐาน ไม่ได้หลอกลวงเลยนะ ค่าสมาชิกหนึ่งปี 8,888,888 หยวน หนึ่งปีเรียน 12 คลาส เดือนละครั้ง ครั้งละสัปดาห์ ฉันช่วยจ่ายค่าสมาชิกให้แล้ว อีกสองวันพวกเราไปเรียนกันเถอะ สถานที่คือวิลล่าเทียนฮุ่ยเขตชานเมืองXX เมืองจี้ ถึงตอนนั้นจะอยู่ที่นั่นหนึ่งสัปดาห์”
ฟางหนิงกลุ้มใจ ว่าที่พ่อตาคงจะมองตัวเองทะลุปรุโปร่งแน่ๆ รู้ดีว่าถ้าถามว่าเขาจะไปไหม โอตาคุอย่างเขาจะต้องปฏิเสธทันควัน
จัดการเรื่องเรื่องเรียบร้อยหมดแล้ว จะบอกให้เขาไปขอเงินคืนได้อย่างไรกัน
ฟางหนิงพิมพ์ตอบอย่างไร้เรี่ยวแรง “ขอบคุณที่หวังดีครับ ทำให้คุณลุงต้องหนักใจแล้ว ส่วนเงินผมจะให้พวกเขาโอนเงินจากบัญชีบริษัทคืนไปให้เดือนหน้านะครับ ผมไม่รบกวนหรอกครับ”
เขาจะต้องเห็นด้วย เพราะบางทีระบบก็ออกไปจับปีศาจ ขี้เกียจก็ส่วนขี้เกียจ แต่เขาก็ยังมองการณ์ไกลถึงอนาคต
ประธานจ้าว “ไม่ต้องคืนเงินหรอก คนกันเองทั้งนั้น เดี๋ยวฉันจะให้คนขับรถไปรับ ไม่ต้องเตรียมของใช้สำหรับการเดินทางนะ คุณป้ากับเหยาเหยาเตรียมให้เธอหมดแล้ว”
ฟางหนิงคิดในใจ ก็ดีเหมือนกัน มนุษย์กลไกระดับสูงเจ๋งมาก ดูแลครอบครัวประธานจ้าวทำให้พวกเขารู้สึกดีกับตัวเองเพิ่มขึ้น
แม้ว่าจะรู้สึกไม่ค่อยปกติ แต่ไม่เป็นไร ในเมื่อมนุษย์กลไกนั่นเลียนแบบนิสัยตัวเองได้ทั้งหมด เมื่อกลับมาเป็นตัวจริงก็ยังเหมือนกัน ครอบครัวประธานจ้าวไม่มีทางสังเกตเห็นความผิดปกติหรอก
ฟางหนิง “งั้นฝากขอบคุณเธอด้วยครับ ผมยังมีธุระ ขอตัวก่อนนะครับ”
ประธานจ้าวคิด ‘ห่วงแต่เล่นอีกแล้วสินะ ไอ้เด็กคนนี้’
ฟางหนิงคิด ‘ระบบกลับมาแล้ว…’
“แค่กๆ อย่างนี้ ต้องการม้าดี ต้องทำให้ม้าดีมีใจชอบธรรม ถึงจะเป็นม้าดีได้ อ้อ หลายคำนี้ต้องไปค้นหาในอินเทอร์เน็ต…”
ระบบเห็นโฮสต์ไม่ได้แอบอู้ เพียงแต่ความรู้พื้นฐานภาษาโบราณยังต้องพัฒนา มันจึงไปจับหัวขโมยนักล้วงกระเป๋าต่อไป
…………………………………………..