เมื่อผมโดนระบบครองร่าง – บทที่ 127 กู้ภัยกำลังจะมา นับถอยหลังภายในเวลา 24 ชั่วโมง

บทที่ 127 กู้ภัยกำลังจะมา นับถอยหลังภายในเวลา 24 ชั่วโมง

บทที่ 127 กู้ภัยกำลังจะมา นับถอยหลังภายในเวลา 24 ชั่วโมง
หลังจากอ่านข้อความจากระบบ ฟางหนิงก็ถามขึ้นว่า “ต้องใช้เวลานานแค่ไหนจึงจะฟื้นฟูได้สมบูรณ์”

ระบบ “สองวัน”

ฟางหนิงพยักหน้า “ตกลง ถ้าอย่างนั้นแกก็รักษาตัวเถอะ ฉันจะไปทำธุระเรื่องหนึ่งก่อน”

ระบบ “โฮสต์คงไม่ได้จะไปสู้กับปีศาจในเกมหรอกใช่ไหม”

ฟางหนิง “ฉันดูเป็นคนไม่เรียงลำดับความสำคัญก่อนหลังขนาดนั้นเลยหรือยังไง? คนอื่นมีไม้ตายคือไพ่ดอกจิกเรียงกันห้าใบเชียวนะ เพราะฉะนั้นเราต้องได้คิง ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม…”

หลังจากพูดจบ ฟางหนิงก็ไปที่ QQ เพื่อติดต่อกับนกฮัมมิ่งเบิร์ด การติดต่อสำนักสัจธรรมเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดสำหรับเจิ้งต้าว พวกเขาจะได้รู้ว่าตอนนี้ไม่มีปัญหา แต่เมื่อพูดเรื่องนี้ออกมาต่อหน้าอาจไม่ดีนัก เพราะนั่นอาจเป็นอันตรายกับมังกรขาวได้

นกฮัมมิงเบิร์ด “นายท่าน คำสั่งของท่านคืออะไร?”

ฟางหนิง “ซื้อเครื่องจับเวลามาสักโหลหรือมากกว่านั้นมาติดตั้ง ฉันอยากให้หน้าตาของพวกมันดูเหมือนโทรศัพท์มือถือและไม่ได้มีพลังอะไรมากมาย ตราบใดที่พวกมันสามารถฆ่าสุนัขได้ก็เพียงพอแล้ว สามารถตั้งเวลานับถอยหลังได้อย่างน้อย 24 ชั่วโมง และสามารถเปิดปิดการควบคุมได้ด้วยตนเอง ที่สำคัญที่สุดคือ คุณภาพต้องดีพอ แต่หากพบว่าเป็นสินค้าปลอมแปลง ฉันจะไม่ปล่อยไปง่ายๆ แน่นอน”

นกฮัมมิงเบิร์ด “วางใจได้นายท่าน มันจะต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน คุณภาพสูง และส่งถึงบ้านโดยเร็วแน่นอน”

ฟางหนิง “พวกคุณเก่งจริงๆ แม้ว่าจะถูกควบคุมอย่างเข้มงวดภายใต้สังกัดของสำนักสัจธรรม แต่พวกคุณก็ทำมันได้”

นกฮัมมิงเบิร์ด “นายท่าน เมื่อก่อนก็เป็นเรื่องยาก แต่ตอนนี้พวกหนูยักษ์ได้เปิดบริการการจัดส่งแล้ว หนูยักษ์ส่งไปตามทางใต้ดินอย่างรวดเร็ว ถึงแม้มันจะไม่ได้ดีเท่าบริษัทขนส่งบนพื้นดิน แต่ก็ยังสามารถเดินทางได้หลายพันลี้ต่อวัน กุญแจสำคัญคือการปกปิด ไม่ให้ใครรู้”

ฟางหนิงสะดุ้ง ‘บ้าจริง มีคนฉลาดในกลุ่มหนูยักษ์อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว พวกมันได้หน้าได้ตากันแบบนี้มากี่เดือนแล้ว? ฉันพยายามสร้างระบบเศรษฐกิจของตัวเอง การขนส่งด่วนดูเหมือนจะง่าย แต่สถานะของมันสำคัญมากทีเดียว มันเทียบเท่ากับหลอดเลือดในร่างกายมนุษย์’

ด้านหนึ่งมันทำเงินในพื้นที่สีเทาของมนุษย์และในทางกลับกันก็ปรับปรุงระบบเศรษฐกิจของตัวเองด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว นี่เป็นแนวทางด้านทฤษฎีที่ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์แนะนำให้แก่หนูยักษ์

ฟางหนิงรู้สึกกดดันอีกครั้ง เมื่อกองกำลังอันยิ่งใหญ่เหล่านี้พัฒนาพลังขึ้น ในอนาคตพวกมันจะน่ากลัวอย่างยิ่ง

ฟางหนิงเอ่ยถาม “สำนักสัจธรรมจะไม่สนใจเรื่องนี้เหรอ?”

นกฮัมมิงเบิร์ดตอบกลับ “ตามข้อมูลลับ ทั้งสองฝ่ายดูเหมือนจะบรรลุความเข้าใจโดยปริยายผ่านสมาคมราชาผีแล้ว หนูยักษ์ไม่สามารถขนส่งสิ่งของที่มีระดับต่ำได้ แต่อย่างอื่นสามารถผ่อนปรนได้ แน่นอนว่าสำหรับนายท่าน ข้อจำกัดนี้ไม่ควรกล่าวถึง”

ฟางหนิงนึกถึงไพ่ดอกจิกของสำนักสัจธรรม ดินแดนมรดกลึกลับนั่น และเข้าใจดีว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ทำการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่กับพวกกลุ่มหนูยักษ์

พวกเขารอจนกว่าการพัฒนาจะเสร็จสิ้น แล้วจากนั้นค่อยทำลายมันในคราวเดียวโดยไม่ทิ้งปัญหาเอาไว้ในอนาคต ส่วนสิ่งสำคัญที่สุดของพวกเขาในตอนนี้ก็คือการควบคุมสถานการณ์โดยรวมให้ปราศจากความวุ่นวาย และยังคงส่งเลือดไปพัฒนาดินแดนมรดกของพวกเขาต่อไป

ฟางหนิง “ลำบากพวกคุณแล้ว ไว้ของถึง แล้วค่อยมาเก็บเงินนะ”

…………

สองวันต่อมา ที่วิลล่าของฟางหนิง

ในฤดูหนาว ฟาร์มรกร้างยิ่งกว่าปกติ ยกเว้นเรือนกระจกไม่กี่แห่งที่ยังคงปลูกผักสดเอาไว้ ไร่ส่วนใหญ่กลายเป็นผืนดินเปล่า ไม่มีใครปลูกข้าวสาลีในฤดูหนาว

ในทุ่งว่างแห่งนี้หมาดำไป๋หลี่ยื่นขาหน้าออกมาและจิ้มไปที่โทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าที่อยู่บนพื้นตรงหน้า โทรศัพท์เครื่องนี้แย่ยิ่งกว่า iphone X ที่มันซื้อผ่านทางออนไลน์อีก

โทรศัพท์เครื่องนี้ภายนอกดูเหมือนโทรศัพท์ Nokia รุ่นเก่า โดยมีหน้าจอขนาดเล็กอยู่ด้านบนและแถวของปุ่มด้านล่างหน้าจอ ปุ่มหนึ่งมีเครื่องหมาย “โทร” ส่วนอีกปุ่มหนึ่งระบุว่า “ยกเลิก” ส่วนที่เหลือเป็นปุ่มตัวอักษรและตัวเลข

มังกรขาวตัวเล็กเอ่ยขึ้น “ไป๋หลี่ นี่เป็นรางวัลใหญ่สำหรับแก ‘ด้วยลูกศรเจาะเมฆา ทหารนับพันจะพบกัน’ ซึ่งเรียกว่าลูกศรเจาะเมฆ กดตัวเลข 139 ลงไป… จากนั้นกดปุ่มโทรออกเพื่อเรียกมังกร

“ไม่ว่าแกจะอยู่ที่ไหน ท่านมังกรแห่งจิตวิญญาณจะมาถึงทันเวลา แน่นอนว่าถ้าแกไม่มีเรื่องด่วน ก็อย่ากดเลย ถ้าปิดการโทรออก ท่านมังกรแห่งจิตวิญญาณจะไม่มา”

ได้ยินคำพูดนี้ เจ้าหมาดำไป๋หลี่เท่อก็ก้มศีรษะลงทันทีและกอดโทรศัพท์ที่เหมือนก้อนอิฐหนาปึกเครื่องนั้นไว้ในอ้อมแขน มันตอบกลับ “ข้าเข้าใจแล้ว ท่านมังกรแห่งจิตวิญญาณมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำ ไป๋หลี่จะเรียกหาเขาเพราะเรื่องเล็กน้อยได้อย่างไร มันต้องเป็นเรื่องเร่งด่วนสิถึงจะเรียก”

มังกรขาวตัวเล็กพยักหน้าและพูดว่า “แกฉลาดมาก อย่าเผลอกดปุ่มผิดโดยไม่ได้ตั้งใจล่ะ อาวุธเวทมนตร์นี้สร้างขึ้นใหม่โดยเราเอง ดังนั้นมันจะได้รับการทดสอบเป็นเวลานาน เมื่อถึงเวลานั้นแกจะติดตามพวกเราเพื่อทดสอบทีละเมือง”

ฟางหนิง ‘ไม่สำคัญหรอกว่าแกจะเผลอกดมันไหม เพราะอย่างมากที่สุด มันจะบินข้ามฟ้าและลากแกกลับไปทานอาหารสองมื้อเพื่อเพิ่มความจำของแก”

หมาดำเงยหัวขึ้นตอบรับ “ข้าเข้าใจแล้ว นายท่าน”

ตอนที่มันพูดออกไป สายตาก็มองไปรอบด้านราวกับกำลังมองหาสุนัขตัวอื่นเพื่ออวดสมบัติของมัน แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หมาเหลืองไม่ได้อยู่ที่นี่ คาดว่าอีกฝ่ายคงกำลังฝึก “คัมภีร์พลังปราณแท้จักรวาล”

ฟางหนิงตอบ “ดีมาก แต่หนังสือ “คัมภีร์พลังปราณแท้จักรวาล” ฉันอนุญาตให้แกไปถามเซวียเฟิงเพื่อเรียนรู้ได้ แกต้องรีบเรียนรู้มัน”

เจ้าหมาดำดีใจมากอีกครั้ง “ขอบคุณสำหรับของขวัญจากนายท่าน”

ฟางหนิงพูด “เอาล่ะ อย่าลืมดูแลโทรศัพท์เครื่องนี้ให้ดี เป็นการดีที่สุดที่จะขอให้พ่อบ้านเจิ้ง ทำกระเป๋าหนังที่คล้องคอให้แกได้ จะได้พกพามันได้สะดวก”

เมื่อได้ยินคำพูดนั้น เจ้าหมาดำก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้ววิ่งออกไปทันที

ฟางหนิงพยักหน้า ความคิดของเขาคล้ายกับเจ้าหมาดำ ดังนั้นเขาจึงสามารถรักษาจิตใจของมันไว้ได้ ส่วนอัจฉริยะและวายร้ายอย่าง แอนเดอร์สันควรเข้าคุกและปล่อยให้เน่าตายไปในนั้นซะ..

ระบบ “โฮสต์ ทำไมคุณใจร้ายจัง…”

ฟางหนิงถลึงตาใส่ “อะไรกัน? ทั้งหมดนี้ก็เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการเปิดแผนที่ของแกไง ฉันพยายามที่จะหาช่องโหว่ได้ง่ายๆ แล้วนะ นอกจากนี้ยังมีการทดสอบที่จะดำเนินการโดยเริ่มจากเมืองเถาที่อยู่ใกล้เคียง

“เซวียยปากำลังฝึกซ้อม ส่วนเจิ้งต้าวกำลังหาข้อมูล มีเพียงไป๋หลี่เท่านั้นที่ไม่ได้ทำอะไร ผิวของมันหยาบและหนามาก มันออกกำลังกายทุกวัน ผู้ที่ใช้พลังของนกฮัมมิ่งเบิร์ดในโทรศัพท์ได้ทำวิดีโอสาธิตแล้ว มันไม่ได้ใหญ่มาก ถ้าหากเปลี่ยนเป็นมังกรพ่นน้ำไปก็จะช่วยชีวิตมันไว้ได้

“อีกอย่างจากกรณีของพ่อบ้านเจิ้ง ฉันพบว่าแม้ว่าพวกเขาจะไม่พบอันตรายร้ายแรงก็จริง แต่ก็คงจะลำบากมาก หากพวกเขาต้องถูกขังอยู่ในสถานที่บางแห่งเป็นเวลานานและไม่สามารถออกไปไหนได้ เมื่อทดสอบแล้ว ก็ส่งให้พวกเขาเพื่อจะได้หลีกเลี่ยงการเกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้นอีกในอนาคต”

ระบบ “โฮสต์รอบคอบมาก ระบบอยากชมโฮสต์ว่าเหมือนดั่งสายน้ำที่ไหล…”

ฟางหนิง “หยุด อย่าให้น้ำไหลเข้าออกเลย แกต้องมีท่าทีตอบโต้ทันทีเมื่อถึงเวลา ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการทดสอบ และเป็นการยากที่จะรับประกันข้อผิดพลาดอะไรได้ เมื่อโหมดช่วยเหลือพันลี้ เปิดใช้งาน ก็ต้องรีบไปช่วยทันที ”

ระบบ “ไม่เป็นไร เพราะถ้ามีข้อผิดพลาดจริง ก็ปล่อยให้วิญญาณของเขาเข้าไปในห้องขังของระบบในฐานะสุนัขเฝ้ายาม หมาดำจะมีช่วงเวลาที่ดีในนั้น”

ฟางหนิง “หยุดนะ แกหยุดความคิดนี้ไปเลย นั่นเป็นสหายที่ซื่อสัตย์และมีประโยชน์ของฉันนะ ถ้ามีอะไรผิดพลาดจริงๆ ค่อยขอให้ราชาผีช่วยเขา”

…………

“โอเค การทดสอบเริ่มต้น และไป๋หลี่เท่อเริ่มใช้ ‘ลูกศรเจาะเมฆา’ เพื่อเรียกมังกรทันที”

ฟางหนิงโทรหาไป๋หลี่ด้วยโทรศัพท์อีกเครื่องหนึ่ง

ในเวลานี้เซวียเฟิงซึ่งกำลัง “บินอยู่” บนฟ้า ได้พาไป๋หลี่ไปเมืองเฉิงแล้ว เมื่อได้ยินเช่นนี้ เจ้าหมาดำก็วาง iPhone X ลงด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือ Nokia เครื่องเก่าขึ้นมา และแตะปุ่ม “โทร” ด้วยอุ้งเท้าหน้าของมัน

จากนั้นข้อความหนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอของโทรศัพท์มือถือทันที

“หน่วยกู้ภัยกำลังจะมาถึง นับถอยหลัง 24 ชั่วโมง 23:59:59…”

ในชั่วพริบตาไป๋หลี่ก็เห็นอัศวิน A ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตามันด้วยใบหน้าไร้อารมณ์

“ดีมาก การทดสอบสำเร็จ สามารถหยุดการโทรได้”

ไป่หลี่รู้สึกปลาบปลื้มในทันที และกดปุ่ม “ยกเลิก” อย่างรวดเร็ว มันคิดกับตัวเองว่า นายท่านใจดีกับตนมาก อาวุธวิเศษนี้คงจะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อมันโดยเฉพาะ ด้วยเรื่องที่มันถูกลอบโจมตีครั้งล่าสุด

สิ่งนี้ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากมหาศาลแน่นอน และฉันต้องรักมันให้เหมือนที่ฉันรักพี่ชายของฉัน

อัศวิน A พูดอีกครั้ง “โอเค ถ้าแกทำการทดสอบได้สำเร็จ ก็ไปหาที่วิ่งเล่นเถอะ บอกให้พ่อบ้านเจิ้งตอบแทนแกด้วยเงินจำนวนเล็กน้อยด้วยล่ะ”

หมาดำยืนนิ่งและนั่งยองๆ ยกขาขึ้นแสดงความเคารพ “ครับ นายท่าน”

หลังจากพูดจบ เจ้าหมาดำก็ใส่โทรศัพท์มือถือทั้งสองเครื่องไว้ในกระเป๋าที่ด้านหน้าคอของมัน จากนั้นสุนัขก็ออกวิ่งไปอย่างมีความสุข

ในเวลานี้ อัศวิน A มองไปรอบๆ ดวงตาของเขาเป็นประกาย และเขาก็วิ่งไปยังที่แห่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว

…………

ในอาคารพักอาศัยที่ค่อนข้างเก่าในเมืองเถาง อาคารชั้น 12 ในห้องเช่าแห่งหนึ่ง มีชายชราใบหน้าหมองมัวคนหนึ่งเพิ่งลุกขึ้นจากเตียงในเวลา 11 โมงเช้า

เขาเดินไปที่หน้าต่างบ้านเช่าและมองออกไปยังทางหลวงที่อยู่ใกล้กับอาคารสูงซึ่งขณะนี้แออัดไปด้วยการจราจรและผู้คนมากมาย

เขาเห็นชายหนุ่มมีเสน่ห์มากความสามารถ ฉับพลันแววตาละโมบก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขาเมื่อเห็นเหยื่อ

ในโลกนี้ ในอนาคตฉันจะเป็นเทพเจ้าแห่งความตาย แม้ตอนนี้ฉันจะทำได้แค่ตามล่าพวกคนธรรมดาไปก่อน แต่ในอนาคต ฉันจะตามล่าพวกคนมีอำนาจเหล่านั้นด้วย ชีวิตและความตายของทุกคนอยู่ในกำมือฉัน

หน่วยกิจการพิเศษจะมีประโยชน์อะไร พอโตมาในเมืองที่ห่างไกลพวกนี้ เมื่อถึงตอนนั้นพวกแกก็หมดหนทาง…

ในเวลานี้ ชายหนุ่มหน้าตาธรรมดาที่ดูราวกับเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย กำลังขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าคันหนึ่งอยู่ริมถนนด้านขวา ในฤดูหนาวอันหนาวเหน็บ บนใบหน้าของเขามีเหงื่อผุดพรายเล็กน้อย ด้านหลังสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามีกล่องเขียนคำว่า take away ติดอยู่

ทันใดนั้น ลมกระโชกแรงสายหนึ่งก็พัดเข้ามา กองใบไม้ที่ถูกกวาดไว้กองเป็นปลิวระเบียบกระจัดกระจาย ก่อนจะบดบังทัศนวิสัยของเขา

นักศึกษาคนนั้นใช้มือขวาออกไปปัดเป่าใบไม้ ทำให้รถส่ายโดยไม่รู้ ก่อนจะตัวล้มลงบนถนนทางหลวงพิเศษ ตอนนั้นบนถนนก็มีมีรถโฟล์คสวาเกนขับผ่านมาพอดี…

ด้วยเสียงเบรกอันรุนแรงของรถ รถโฟล์คสวาเกนคันนั้นหยุดรถได้ทันเวลา หน้าต่างถูกลดระดับลง เผยให้เห็นชายหนุ่มใบหน้าซีดเผือด

คนขับหนุ่มตบหน้าอกตนเองด้วยความตื่นตระหนก ชะเง้อคอมองไปที่สกู๊ตเตอร์และคนที่อยู่ข้างหน้ารถของเขา ระยะห่างมีเพียงแค่สามสิบเซนติเมตรเท่านั้น

คนขับหนุ่มตกใจมากและคิดว่า แต่เขาก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่เพิ่งถูกแฟนลากไปเล่นเกม “Battle of the Beasts” และฝึกฝน “Basic Refinement Magic”

เหมือนกับที่ผู้เล่นคนอื่นๆ พูดกัน เกมนี้ทำให้ปฏิกิริยาตอบสนองเพิ่มขึ้นมากเลยทีเดียว เพราะเพียงชั่วครู่เท่านั้นที่เขาสามารถตอบสนองต่อการเหยียบเบรกได้ทันเวลา

ไม่อย่างนั้นด้วยสถานการณ์ที่กะทันหันขนาดนี้ คงไม่มีทางเหยียบเบรกทันแน่นอน เขาเพิ่งกู้เงินมาซื้อรถซะด้วยสิ ไม่งั้นเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน

นักศึกษาเหลือบมองคนขับอีกครั้ง ก่อนจะโค้งคำนับและพูดว่า “ขอโทษครับที่ทำให้คุณลำบาก” แล้วรีบออกไปเลื่อนสกูตเตอร์ไฟฟ้ามาไว้ด้านข้างถนน

คนขับหนุ่มโบกมือไม่สนใจอะไร ดูเหมือนนักศึกษาคนนั้นจะไม่ได้ตั้งใจ เขาสตาร์ทรถแล้วขับรถต่อไป

ถนนกลับสู่ความสงบดังเดิม ไม่มีใครรู้เลยว่ามีหน่วยกิจการพิเศษอยู่ที่นี่

“น่าเสียดาย พลาดอีกแล้ว มันยากจริงๆ ที่จะเลือกคนหนุ่มสาวเป็นเป้าหมายในการตามล่า ถึงแม้ว่าพวกเขาจะให้ประโยชน์สูงสุดก็ตาม” ชายชราอยู่ชั้นบน ส่ายหัว แล้วมองไปยังคนถัดไป “ครั้งต่อไปจะไม่เลือกพวกเขาอีกแล้ว ”

“ไปในคุกเพื่อหาโอกาสอีกครั้งเถอะ…” เสียงเย็นเยียบดังขึ้นข้างหู ก่อนที่ชายชราจะหายตัวไปจากห้องเช่า

…………

ในพื้นที่ห้องขังของระบบ จู่ๆ ก็เกิดห้องขังหมายเลข 3 ขึ้นมา

แอนเดอร์สัน “ตอนนี้ผมสามารถต่อสู้กับเจ้าโฮสต์นั่นได้…”

ผู้เฒ่าเฟิง “ฉันยังอยากนอน ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน”

แอนเดอร์สัน “น่าเสียดาย ที่จริงผมว่าจะบอกวิธีที่ทำให้คุณได้มีชีวิตอยู่ต่อสักหน่อย ”

ผู้เฒ่าเฟิงลุกขึ้นทันที “มีวิธีนั้นด้วยเหรอ?”

แอนเดอร์สัย “ร่วมมือกับผม เพื่อต่อสู้กับโฮสต์ก่อน”

ผู้เฒ่าเฟิง “ที่นี่ไม่มีอะไรเลย จะทำได้ยังไงกัน?”

แอนเดอร์สัน “ทำไมจะไม่ได้ล่ะ…”

ผู้เฒ่าเฟิง “น่าทึ่งมาก แอนเดอร์สัน มันสมองของแกสุดยอดจริงๆ แกยังสามารถพบเขาวงกตจิตในสถานที่แบบนี้ได้”

ตอนนั้นเองชายชรานิรนามก็เอ่ยขึ้น “ที่นี่คือที่ไหน ฉันอยู่ที่ไหนกัน?”

แอนเดอร์สัน “ผู้เฒ่าเฟิง เรียกสติให้กับคนมาใหม่นั่นหน่อยสิ”

ผู้เฒ่าเฟิงแสยะยิ้ม “ได้สิ แอนเดอร์สัน”

………………………………………………………..

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง

Status: Ongoing

จู่ๆ ก็มีดาวตกพุ่งลงมาที่โลก ทำเอาพื้นดินถึงกับสั่นไหวเล็กน้อย

แต่แรงสั่นสะเทือนนั้นกลับทำให้ 'ฟางหนิง' หัวโขกกับโต๊ะคอมพิวเตอร์จนสลบไป

ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเขามีระบบ ขณะที่กำลังจะดีใจว่าในที่สุดก็มีขาทองคำมาให้เกาะ

เจ้าระบบนั่นกลับประเมินว่าเขาเป็นโรคขี้เกียจระยะสุดท้าย ปล่อยไว้ไม่มีทางเจริญก้าวหน้า

และทำการยึดครองร่างของเขาซะงั้น!?

...

จากหนุ่มโอตาคุผู้แสนจะขี้เกียจที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ

กลับต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนโฉมตนเองเป็นฮีโร่คอยปราบปรามเหล่าปีศาจร้าย

ปกป้องเมืองที่ตนอยู่อาศัย และฝึกวิทยายุทธ์เพื่อก้าวสู่จุดสูงสุดนิ้วทองคำของระบบ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท