เมื่อผมโดนระบบครองร่าง – บทที่ 180 ข้าต้องการบินให้สูงกว่านี้

บทที่ 180 ข้าต้องการบินให้สูงกว่านี้

บทที่ 180 ข้าต้องการบินให้สูงกว่านี้

ฟางหนิงตบอกสีหน้ามั่นใจ “ที่นี่คือถิ่นของแก ฉันยังต้องกลัวอะไรล่ะ แถมตอนนี้ฉันยังมีประสบการณ์เจอเหตุการณ์ใหญ่ๆ และปีศาจชั่วร้ายมานับไม่ถ้วน ใช่แล้ว คำเตือนประโยคสุดท้ายของฉัน แกเอาเจ้าคนโคตรเจ๋งเข้ามาในห้องขัง มันหนีออกไปได้ไหม”

ระบบ “พื้นที่เรือนจำของระบบมีกฎเคร่งครัด ใครเข้ามาที่นี่แล้ว ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน ไม่มีทางออกไปไม่ได้ นอกจากคุณ ฉันจะไม่ปล่อยให้สิ่งมีชีวิตอื่นใดเข้ามาได้แน่”

ฟางหนิงคิดๆ แล้วก็จริงอย่างที่ระบบพูด นอกจากตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นโรงตีเหล็กและห้องกลั่นยา สัตว์ประหลาดที่เข้ามาจะถูกระบบสังหารก่อนถึงจะเป็นวัตถุดิบเข้าไป…

ฟางหนิง “งั้นแกก็เอาหมอนั่นเข้าห้องขังมาเลย…”

ระบบ “ตกลง ฉันจะเริ่มปล่อยมันเข้ามาเลยนะ…แย่ละ เดี๋ยวก่อน เจ้าตัวนี้ดูเหมือนว่าจะตัวใหญ่เกินไป ฉันรู้สึกว่าห้องขังไม่พอใส่มัน ต้องขยายใหญ่กว่านี้อีก”

ฟางหนิงกลุ้มใจ “ในพื้นที่ของระบบนี้สิ่งมีชีวิตจะเข้ามาได้แค่จิตวิญญาณเท่านั้น วิญญาณจะใหญ่หรือเล็กก็ได้ เหมือนตอนที่ฉันฝึกฝน ‘หลักสูตรการฝึกจิตขั้นพื้นฐาน’ ก็เท่าฝุ่นละอองได้…”

ระบบ “เอ๊ะ โฮสต์ตอนนี้คุณเข้าใจดีมาก ไม่ผิดเลยสักนิด เมื่อวิญญาณของมันเข้ามาฉันกดให้มันเล็กจนกลายเป็นฝุ่นได้ แต่ฉันรู้สึกได้วิญญาณของมันน่าจะนำอาวุธวิเศษแข็งแกร่งติดตัวมาด้วย อาวุธวิเศษของมันไม่เล็กเลย ฉันไม่เคยรู้หลักการมาก่อน ไม่อาจกดให้เล็กโดยไม่เสียหายได้ มีแค่กดให้เล็กแบบสูญเสียเท่านั้น ฉันทำลายของรักของฉันได้ไหม”

ฟางหนิงทั้งประหลาดใจทั้งดีใจ “แน่นอนว่าแกทำไม่ได้…เจ้าหมอนี่ถึงกับนำของล้ำค่ามาเอง ความเอื้ออาทรมางั้นเหรอ”

ระบบ “ดูคุณสิ ประหลาดใจจนลืมเรื่องสำคัญไปแล้วเหรอ แน่นอนว่ามันมาจากเทียนจู๋นะ…”

ฟางหนิงพูดไม่ออก “แกเป็นถึงระบบอัศวินสง่างาม ต้องเรียนรู้ที่จะใจกว้างหน่อย อย่าเอาแต่ยกเรื่องเก่าๆ มาพูด ตอนนั้นฉันไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยกับแกนะ”

ระบบ “เลิกพล่ามเถอะ คุณออกไปจากพื้นที่ระบบของฉันก่อน กลับเข้าร่างของตัวเองไปซะ ฉันจะปรับปรุงพื้นที่ระบบของฉันต้องใช้เวลาสักหน่อย”

ฟางหนิงอดไม่ได้ที่จะถาม “หมอนั่นมีอาวุธวิเศษใหญ่แค่ไหนกัน แล้วแกจะสร้างใหญ่ขนาดไหน ฉันรู้สึกได้ว่าแกจะให้ฉันขุดหลุมอีกแล้วใช่ไหม”

ระบบ “แน่นอนว่าไม่ให้คุณขุด แต่ให้คนที่มาใหม่เป็นคนขุด…”

ฟางหนิงยอมออกไปแต่โดยดีแล้วกลับเข้าร่างของตัวเอง

ผ่านไปครู่หนึ่ง เขารู้สึกเบื่อหน่ายเป็นอย่างมาก อ่านนิยายก็ไม่สนุก เล่นเกมก็ไม่สนุก

ฟางหนิงถามในหัว “แกต้องขุดหลุมนานแค่ไหน”

ระบบ “เรื่องเล็กน้อยอย่างนี้ฉันแค่ต้องย้ายสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง”

นี่มันเป็นอาวุธชิ้นใหญ่ชัดๆ…ฟางหนิงคิดอย่างหมดคำพูด

เขากลับเข้าร่างกายของตัวเองแล้ว ตอนนี้ได้กลิ่นอาหารแสนอร่อยจากงานเลี้ยงในห้องอาหาร สุดท้ายเขาตัดสินใจไปกินสักหน่อยและถือโอกาสไปเจอสุนัขทั้งสองเป็นครั้งสุดท้าย

เป็นครั้งแรกของจ้าวอิ๋งที่ได้กินข้าวกับเทพบุตรของตัวเอง ใจเต้นแรงไม่หยุดจึงคอยเตือนตัวเองให้สงบเสงี่ยม

เธอจะไปรู้ได้ยังไงว่ารู้จักเขามาหลายปีแล้ว…

แน่นอนว่าฟางหนิงไม่เหมือนกับระบบที่เอาแต่วางหน้าเฉยชา เขาแย้มยิ้มอย่างอบอุ่น พูดกับจ้าวอิ๋งอย่างสุภาพ จากนั้นก็ให้กำลังใจสุนัขดำกับสุนัขเหลือง

สุนัขดำและสุนัขเหลืองสองตัวที่เพิ่งสวาปามอาหาร เมื่อเห็นเจ้านายปรากฏตัว ก็กินอย่างสุภาพมีมารยาท แต่ทำได้ไม่ถึงห้านาทีก็เริ่มกลับไปกินอย่างตะกละตะกลามเหมือนเดิม

ฟางหนิงแค่มองก็รู้แล้วว่าเจ้าสองตัวทำไมถึงสวาปามขนาดนี้ ทั้งสองตัวนั้นตะกละ ต่างก็รู้ว่าหลังออกเดินทางแล้ว อีกนานกว่าจะได้กินของอร่อยแบบนี้ ไม่เหมือนกับระบบที่มีตู้เย็นแบบพกพา แน่นอนว่าพวกมันต้องพยายามยัดอาหารลงท้องให้เต็มที่

ฟางหนิงคิดๆ ดูแล้ว ก็เรียกหนังสือเกมที่รักมาบอกข้อมูลเกี่ยวกับสุนัขทั้งสองให้เขารู้ และถ่ายรูปไว้ด้วยเพื่อนำมาเปรียบเทียบอีกครั้งในอนาคต

ไม่นานนักในสมองของฟางหนิงก็ปรากฏข้อมูลของพวกมัน

สุนัขเหลืองเซวป้า: เพศผู้ งานอดิเรก ‘อ่านหนังสือ กินข้าวและอ่านหนังสือและกินข้าวกับสุนัขสาว ช่วยงานเจ้านายและได้รับรางวัล’ อายุ 251 ปี สถานะ: สุนัขผู้ภักดีต่ออัศวิน A

การประเมินแนวโน้มความดีความชั่ว: ความยุติธรรมเป็นกลาง”

การประเมินพลัง: ระดับช้อนส้อม รายละเอียดขนาด: ไม่ต้องมีคำบรรยาย คุณสมบัติสูงมาก เชี่ยวชาญในการอ่านหนังสือ”

สุนัขดำไป่หลี่เท่อ: เพศผู้ งานอดิเรก: ออกกำลังกาย กินข้าว อ่านโลกแห่งสัตว์ ออกกำลังกายกับสาวๆ ช่วยงานเจ้านายและได้รับรางวัลจากเจ้านาย

อายุ 234 ปี สถานะ: สุนัขผู้ภักดีต่ออัศวิน A

การประเมินแนวโน้มความดีความชั่ว : ความยุติธรรมเป็นกลาง”

การประเมินพลัง: ระดับถังน้ำ รายละเอียดขนาด: ถังน้ำหนึ่งใบ ร่างกายกำยำแข็งแรง คุณสมบัติสูงมาก แต่มักพกระเบิดติดตัวไปด้วยและไม่ได้มีการป้องกัน ถังน้ำอาจถูกระเบิดรั่วได้”

ฟางหนิงอ่านมาถึงบรรทัดสุดท้ายก็คิดได้เรื่องหนึ่ง รอจนสุนัขดำฟื้นฟูกลับมาถึงระดับบ่อน้ำ ร่างกายก็จะแข็งแรงมาก

หากระดับต่ำกว่าบ่อน้ำไม่ได้ร่ายเวทย์มนตร์หรือมีอาวุธวิเศษป้องกัน หรือมีพรสวรรค์ทักษะการป้องกัน การป้องกันร่างกายของผู้ฝึกฝนส่วนใหญ่ไม่สูง เทคโนโลยีอาวุธของมนุษย์ธรรมดาอาจเป็นภัยคุกคามถึงชีวิตได้

แต่ร่างกายของผู้ฝึกฝนระดับบ่อน้ำนั้นแข็งแกร่งกว่ามากจึงไม่กลัวการคุกคามของเทคโนโลยีอาวุธธรรมดาๆ อีกต่อไป โทรศัพท์มือถือ ‘แบรนด์มังกรแห่งจิตวิญญาณ’ น่าจะต้องปลดเกษียณแล้ว เฮ่อ ปวดหัว เมื่อถึงเวลานั้นก็ต้องลำบากอีกแล้ว…

“ข้าอยากโบยบินสูงกว่านี้ โบยบินสูงกว่านี้

ปีกม้วนเกลียวพายุ หัวใจกู่ก้องคำราม”

นกอินทรียักษ์ลำตัวยาวกว่าสามเมตร ปีกนกกว้างเจ็ดแปดเมตร และขนนกเปล่งประกายแสงสีเงินเหมือนโลหะ มันโบยบินบนท้องฟ้าตามใจปรารถนา ได้ยินเสียงร้องเพลงดังติดหูเป็นระยะ

มันก็คืออินทรีสวรรค์ที่แยกกับอัศวิน A เมื่อหลายวันก่อน ตอนนี้มันกำลังสยายปีก บินวนอย่างอิสระเสรีท่ามกลางกระแสลมบนท้องฟ้า

เบื้องหลังของมันยังมีนกอินทรีทองที่มีขนาดเล็กกว่าอย่างเห็นได้ชัดตามมา

อินทรีทองตัวนี้มีลำตัวยาวหนึ่งเมตรกว่า ปีกกว้างสองสามเมตร แสงแดดสาดส่องขนของมันสะท้อนสีน้ำตาลแดงเหมือนโลหะ

มันติดตามอินทรีสวรรค์บินวนไปมาบนท้องฟ้า ตอนนี้ปากของมันก็ขยับร้องเพลง…

“ในหัวใจของคุณ โบยบินอิสระเสรี…”

“แสงดาวระยิบระยับ พเนจรชั่วนิรันดร…”

เหมือนจะเป็นเพลงดังอีกเพลงหนึ่ง…

อินทรีสวรรค์ฟังแล้วก็กลอกตา มันคิดอย่างค่อนข้างหลงตัวเอง ครอบครัวของข้าหล่อเหลาเป็นธรรมดา ถ้าพี่มังกรไม่ได้วาดภาพเหมือนให้ตัวเอง ตัวเองคงจะไม่มีวันรู้เรื่องนี้…

มันเพิ่งมายังโลกใหม่ได้ไม่กี่วันก็มีนกตัวเมียมาตามจีบแล้ว น่าเสียดายที่ขนาดร่างกายทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันมากเกินไปหน่อย ตัวเมียที่มาตามจีบตัวนี้ก็เหมือนกับลูกๆ ของเขาตอนยังเล็ก…

อินทรีสวรรค์หันหน้าไปเอ่ยว่า “ข้าจะบอกให้นะอินทรีทอง เจ้าอย่าติดตามข้าเลย ข้าคืออินทรีสวรรค์ ไม่อาจจับคู่กับนกธรรมดาอย่างเจ้าได้ ดูตัวเจ้าสิ ยังตัวเล็กขนาดนี้…”

อินทรีทองขยิบตา “พี่อินทรีสวรรค์ ข้ายังเติบโตได้อีก เติบโตได้ใหญ่พอๆ กับพี่เลยนะ…”

อินทรีสวรรค์กำลังคิดว่าจะพูดอะไรดี แต่จู่ๆ ก็มองไปยังทิศทางหนึ่ง ดูเหมือนว่าบางสิ่งที่อยู่ไกลลิบๆ ดึงดูดความสนใจของมัน

มันกระพือปีกพลางเอ่ยว่า “งั้นเจ้ากลับภูเขาของเจ้าไปก่อน พอโตแล้วค่อยกลับมาหาข้า…ตอนนี้ข้ามีเรื่องต้องทำ ไม่ว่างต่อเพลงกับเจ้าแล้ว”

อินทรีทองไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใด มันมองไปยังทิศทางเดียวกันนั้นแต่กลับไม่พบอะไรเลย เห็นเพียงเมฆปุยขาวที่พบได้ทั่วไปบนท้องฟ้า

ครู่หนึ่งมันเห็นท่าทางของอินทรีสวรรค์ดูชักจะรำคาญ ถึงได้เชื่อฟังบินลงไปยังภูเขาสูงลูกหนึ่ง

อินทรีสวรรค์เห็นอินทรีทองหายไปจากสายตา ดวงตาคู่นั้นของมันก็ส่องประกายแสงสีทอง แล้วมองย้อนกลับไปทางเดิม

ทิศทางที่มันมองไปเห็นเพียงกลุ่มเมฆสีขาวเท่านั้น แต่บนเมฆสีขาวนั้น ยังมีจุดสีดำสองจุด

ทั้งสองจุดนี้ห่างจากตำแหน่งที่อินทรีสวรรค์อยู่อย่างน้อยหลายร้อยกิโลเมตร เมื่อเทียบกับ ‘สไนเปอร์ซุ่มยิง’ ระยะยี่สิบกิโลเมตรของผู้อาวุโสเฝิงก่อนหน้านี้แล้วมันมีระยะห่างสิบเท่าขึ้นไป

ทว่าตอนนี้ดวงตาของอินทรีสวรรค์มองเห็นรูปร่างของจุดสีดำสองจุดที่เล็กจิ๋วนั้น เห็นได้ว่าพรสวรรค์ ‘นัยน์ตาอินทรี’ นั้นทรงพลังเพียงใด

จุดดำจุดหนึ่งคือแมวดำตัวอ้วนกำลังนั่งอยู่บนก้อนเมฆสีขาวและมองไปทางตรงข้าม

ฝั่งตรงข้ามของมันคือจุดดำอีกจุดหนึ่ง มันเป็นชายที่ครึ่งตัวบนมีสี่หัว ครึ่งล่างของชายคนนี้มีสารพัดสิ่งแปลกประหลาดที่น่าสะพรึงกลัว เช่น งู ภูตผี ยักษ์และปีศาจ

หนึ่งคนกับหนึ่งแมวกำลังสนทนากัน

แมวดำเอ่ย “ท่านผู้ยิ่งใหญ่ ข้าได้เล่าข่าวที่ข้ารู้ละเอียดลออแล้ว ที่ ‘เรือนจำพลังมังกร’ แม้ว่าจะมีมังกรแท้ควบคุมอยู่ แต่มันไม่ใช่ศัตรูของท่านผู้ยิ่งใหญ่แน่นอน”

ชายสี่เศียร “ฮ่าๆ คุณทอม แม้ว่าจะน้อยไปสักหน่อย แต่ก็ต้องขอบใจมากที่ช่วยเหลือ ก็แค่ ‘เรือนจำพลังมังกร’ ที่จริงแล้วเป็นสถานที่เล็กๆ แต่กล้าสะเออะตั้งชื่อยิ่งใหญ่ขนาดนั้น คุยโวโอ้อวดและยังหลอกตัวเองและหลอกคนอื่น ช่างน่าขันชะมัด! น่าเสียดายที่เมื่อครู่การติดต่อกับวิญญาณผู้สืบทอดของเทพการสร้างสรรค์ในโลกนี้หยุดชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง พิกัดพื้นที่หายไป รอให้ข้าติดต่อกับเขาได้อีกครั้ง หลังจากที่วิญญาณของข้าเข้าไปในพื้นที่นั้นแล้ว เพียงเหยียบมันครั้งเดียวก็แหลกลาญได้!”

แมวดำเอ่ยอย่างคล้อยตาม “ถูกต้อง แม้ว่าไพ่ของเสินโจวส่วนใหญ่จะถูกเปิดเผยแล้ว ผู้สืบทอดทั้งสามก็หมดประโยชน์ การต่อสู้ระหว่างมนุษย์มีทั้งแพ้มีชนะ สู้จนตัวตายเป็นเรื่องปกติ แต่ผู้สืบทอดของเทพแห่งการสร้างสรรค์ตายในการต่อสู้ วิญญาณควรจะเข้าสู่ดินแดนแห่งทวยเทพเพื่อเสวยสุขหรือกลับชาติไปเกิดใหม่ แต่ตอนนี้กลับถูกขังอยู่ในเรือนจำทนทุกข์ทรมานตลอดกาล มันเป็นการดูหมิ่นอย่างยิ่ง! วันนี้ท่านผู้ส่งสารแห่งเทพทำลายคุกแห่งนั้น จะต้องทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหลายในโลกนี้ได้รับรู้ว่าเทพแห่งการสร้างสรรค์เป็นเทพเจ้าสูงสุดอันดับหนึ่งและพลานุภาพไร้ขอบเขตในจักรวาล”

เมื่อชายสี่เศียรได้ยินใบหน้าทั้งสี่ก็เผยความพอใจพร้อมกัน “เทพแห่งการสร้างสรรค์ย่อมมีอานุภาพไร้ที่สิ้นสุด เป็นผู้สร้างสูงสุดของจักรวาลทั้งหลายหากเคารพบูชาท่านด้วยศรัทธาก็จะได้รับปกป้องคุ้มครองจากท่าน หลังจากตายไปแล้วจะไม่ต้องตกนรกและไม่ทุกข์ทรมาน…”

เมื่อทอมแมวดำได้ยินก็แอบพับหูแมวลงเงียบๆ เพื่อไม่ให้ถูกล้างสมอง แต่ปากยังคงประจบเยินยอต่อไป “ถ้าอย่างนั้นข้าจะอยู่ที่นี่เพื่อรอท่านผู้ส่งสารแห่งเทพกลับมาพร้อมชัยชนะ…”

สีหน้าของชายสี่เศียรหยิ่งผยอง “แน่นอนอยู่แล้ว ข้ามีอาวุธวิเศษอันทรงพลังจากเทพแห่งการสร้างสรรค์ซึ่งก็คืองูผู้พิทักษ์ตัวนั้น เมื่อมายังที่นี่ ข้าก็ไม่เกรงกลัวสิ่งใด”

ทอมแมวดำคิดในใจ ‘แม้ว่าคำพูดคำจาของคนผู้นี้จะเย่อหยิ่ง แต่เทพแห่งการสร้างสรรค์ก็คือผู้ทรงอำนาจจริง เทียบกับเทพแห่งความตายที่หนุนหลังตัวเองแล้ว ไม่รู้ว่าสูงกว่าตั้งกี่ชั้น’

ตนเองได้สำรวจ ‘เรือนจำพลังมังกร’ แห่งนั้นโดยอาศัยการติดต่อทางจิตวิญญาณสองครั้ง แต่เข้าถึงข้อมูลได้ค่อนข้างคลุมเครือ

อีกฝ่ายใช้พลังเทพของผู้ทรงอำนาจท่านนั้นผ่านการติดต่อกับผู้ศรัทธา ไม่เท่าไรก็จะได้รู้ขนาดที่แท้จริงของคุกนั้น ก็เป็นแค่คุกเล็กๆ ห่างชั้นกับนรกที่แท้จริง เพียงแต่ความสามารถด้านนี้ก็เหนือกว่าตัวเอง

ด้วยความสามารถของเขาประกอบกับอาวุธวิเศษที่เขาพูดถึง ที่บอกว่าเพียงก้าวเดียวก็ทำลายที่นั้นได้อาจจะฟังดูคุยโม้คำโตไปสักหน่อย แต่การที่จะพาวิญญาณออกมาก็ไม่ใช่เรื่องยาก

พอดีกับที่จะให้อีกฝ่ายจับแอนเดอร์สันกลับมา หลังจากไปอยู่ที่นั่น กล้าดียังไงมาต่อต้านตัวเอง ตัดขาดตัวเองจากการติดต่อกับวิญญาณพวกนั้น ข้าจะต้องลงโทษสถานหนัก ให้วิญญาณของมันไปเกิดใหม่ในหนูแก่แล้วเปลี่ยนชื่อเป็นเจอร์รี่ ข้าจะกดขี่มันทุกวัน ถือโอกาสให้หัวหน้าสมาคมได้ระบายความแค้นในอดีตสักหน่อย…

ทอมแมวดำจึงเอ่ยไหว้วาน “เมื่อท่านผู้ส่งสารทำลายคุกนั้นแล้ว ถ้าพาวิญญาณของคนของสมาคมดุลอำนาจแห่งชาติกลับมาได้ ตัวข้าจักขอบคุณยิ่ง วันหลังจะต้องตอบแทนท่านอย่างงาม”

ชายสี่เศียรหัวเราะร่า “พูดได้ดีๆ คุณทอมคอยเป็นธุระให้ข้าเสมอ มันก็แค่เรื่องเล็กน้อย ไม่ต้องพูดถึงของตอบแทนหรอก อืม ข้าสัมผัสพิกัดพื้นที่ได้อีกครั้ง วิญญาณข้าต้องออกจากร่างเพื่อเตรียมที่จะเข้าไป ขอให้คุณทอมอยู่ที่นี่คอยดูแลร่างให้ข้า เพื่อหลังจากนั้นวิญญาณของข้าจะกลับเข้าร่างได้”

ทอมแมวดำพยักหน้า “มันแน่อยู่แล้ว แถวนี้ในระยะหลายร้อยลี้ไม่มีผู้แข็งแกร่ง ท่านผู้ยิ่งใหญ่ถอดวิญญาณได้อย่างวางใจ แมวอย่างข้าตัวเดียวก็เพียงพอที่จะปกป้องร่างของท่าน”

……………………………………………………..

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง

Status: Ongoing

จู่ๆ ก็มีดาวตกพุ่งลงมาที่โลก ทำเอาพื้นดินถึงกับสั่นไหวเล็กน้อย

แต่แรงสั่นสะเทือนนั้นกลับทำให้ 'ฟางหนิง' หัวโขกกับโต๊ะคอมพิวเตอร์จนสลบไป

ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเขามีระบบ ขณะที่กำลังจะดีใจว่าในที่สุดก็มีขาทองคำมาให้เกาะ

เจ้าระบบนั่นกลับประเมินว่าเขาเป็นโรคขี้เกียจระยะสุดท้าย ปล่อยไว้ไม่มีทางเจริญก้าวหน้า

และทำการยึดครองร่างของเขาซะงั้น!?

...

จากหนุ่มโอตาคุผู้แสนจะขี้เกียจที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ

กลับต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนโฉมตนเองเป็นฮีโร่คอยปราบปรามเหล่าปีศาจร้าย

ปกป้องเมืองที่ตนอยู่อาศัย และฝึกวิทยายุทธ์เพื่อก้าวสู่จุดสูงสุดนิ้วทองคำของระบบ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท