บทที่ 164 ศิษย์พี่ใหญ่ฟางฉางธาตุไฟเข้าแทรก
เมื่อเห็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทำทีท่าว่าจะไม่ยอม จะลากมารดาเถาลวี่จีออกมาแล้ว เสิ่นเทียนก็ปาดเหงื่อ
เขาไม่รู้ว่ามารดาเถาลวี่จียังมีส่วนเล็กๆ สองสามชุ่นนั้นหนีรอดไปได้ แต่คิดว่ามันโดนกินไปแล้ว
ตอนนี้ถ้าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะควบคุมสายฟ้ากระจายไปทั่วหุบเขาหมอกลับแลแล้วหาอีกฝ่ายไม่เจอล่ะจะทำอย่างไร
ถ้าอย่างนั้น พวกเขาจะไม่สงสัยว่าข้าเป็นนางปีศาจชุดผู้หญิงนั่นหรือ
เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็ตกใจกลัว “อาจารย์ระงับโทสะ ระงับโทสะก่อน!”
ประกายเซียนของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เกิดคลื่นขึ้น “เทียนเอ๋อร์ไม่ต้องร้อนใจ อาจารย์จะรับผิดชอบให้เจ้าเอง!”
มีคนปกป้องมันก็สบายอยู่หรอก แต่ตอนนี้เสิ่นเทียนยังไม่อยากสบาย “อาจารย์ ช่างมันเถอะ! ถึงมารดาเถาลวี่จีจะเข้าใจผิดจับตัวข้าไป แต่ก็ไม่ได้ทำร้ายข้า ปล่อยนางไปเถอะ!”
จางอวิ๋นซีข้างกายขมวดคิ้วเล็กน้อย เหตุใดศิษย์น้องต้องช่วยพูดให้ปีศาจนั่นด้วย อีกทั้ง…ยังเหมือนมีอะไรแปลกๆ
ซี้ด~!
หรือว่าปีศาจนั่นจะใช้วิชามายาทำให้ศิษย์น้องลุ่มหลงกัน
เมื่อคิดได้ดังนั้น จางอวิ๋นซีก็แอบประสานมุทราแก้วิชามายาใส่เสิ่นเทียน
อ๊าก ฟิน~
เสิ่นเทียนรู้สึกเบาไปทั้งตัว สบายไปทั่วร่าง
จางอวิ๋นซีถาม “ศิษย์น้องมั่นใจนะว่าจะปล่อยนางไป”
เสิ่นเทียนพยักหน้า “อาจารย์เป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ คำพูดมีน้ำหนัก จะให้กลืนคำพูดง่ายๆ ได้อย่างไรกัน ตอนที่ปีศาจนั่นปล่อยข้ายังบอกว่าหุบเขานี่มีเหมืองแร่ศิลาวิญญาณแห่งหนึ่ง ยินดีจะให้ข้าเป็นการชดเชย”
พอได้ยินว่ามีเหมืองแร่ศิลาวิญญาณ นักพรตชราก็ตาแดงขึ้นมา “เหมืองแร่ศิลาวิญญาณรึ มันใหญ่เท่าใด หนาเท่าใด มีค่าพอหรือไม่”
เสิ่นเทียนพูดด้วยความจำใจ “น่าจะไม่เล็ก ถึงอย่างไรก็พอให้มารดาเถาลวี่จีใช้ฝึกบำเพ็ญจนเป็นจอมปีศาจเช่นนี้ได้”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มองเสิ่นเทียนลึกๆ “นางยินดีมอบเหมืองแร่นั้นให้เจ้าจริงๆ รึ”
เสิ่นเทียนพยักหน้าอย่างขาดความมั่นใจเล็กน้อย “อาจจะเพราะ…นางใจฝ่อกระมัง! ศิษย์ยินดีมอบเหมืองแร่นี้ให้แดนศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเป็นการขอบคุณที่อาจารย์มาช่วยในวันนี้”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ส่ายหน้า “ในเมื่อเป็นของชดเชยให้เจ้าก็ต้องเป็นของเจ้าทั้งหมด แดนศักดิ์สิทธิ์รับไว้ไม่ได้ ช่างเถอะ ในเมื่อปีศาจนั่นขอโทษจากใจจริง ข้าก็จะให้โอกาสมันสักครั้ง วันนี้จะปล่อยมันไปก่อน
หากภายภาคหน้าปีศาจนี่ก่อกรรมทำชั่วจนแม้แต่สวรรค์และคนยังเคียดแค้นละก็ ข้าจะไม่ปล่อยมันไปแน่!”
เมื่อกล่าวจบ สายฟ้าทั่วฟ้านั้นก็ค่อยๆ จางหายไป
เถาน้อยสองชุ่นบนที่ราบไกลๆ ถอนหายใจโล่งอก
ทำข้าตกใจแทบแย่ ก็คิดว่าสวรรค์จะส่งสายฟ้ามาผ่าข้าเสียอีก!
สวรรค์ไม่มีทางเล่นงานข้าได้เต็มที่จริงๆ เหอะๆ มันก็มีแค่นี้แหละ! ข้าบรรลุนิพพานแล้ว แม้ของเหลววิญญาณนิพพานจะโดนนางหญิงสารชั่วนั่นเอาไปหมด แต่แก่นแท้สายเลือดของข้ายังอยู่ ขอแค่มีเหมืองแร่ศิลาวิญญาณช่วย ไม่ช้าก็เร็วต้องฝึกฝนกลับมาได้แน่!
ชะตาข้าข้าลิขิตเองมิใช่สวรรค์ลิขิต รอข้าฝึกบำเพ็ญใหม่สามพันปี จะพลิกฟ้าแก้ดวงชะตากลับมาอีกครั้ง!
เถาน้อยกำลังเพ้อฝันว่าหลังฝึกบำเพ็ญใหม่แล้วจะท่องแดนบูรพา กำราบเผ่ามนุษย์!
ทันใดนั้นสีเถาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ทั้งเถาเริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง เพราะมันเป็นร่างเงาที่หุ้มด้วยสายฟ้าประกายเซียนร่างหนึ่งลอยขึ้นและพุ่งมาทางมัน
นั่นคือบุรุษผู้องอาจห้าวหาญ ใบหน้าถูกบดบังไว้หมด มองไม่เห็นเลย แต่เถาน้อยรู้สึกได้ว่าเจ้านี่แกร่งมาก!
ต่อให้เป็นมารดาเถาลวี่จีก่อนบรรลุนิพพานก็อาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้บุรุษคนนี้ จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงเถาน้อยตอนนี้ที่พลังบำเพ็ญเหลือไม่ถึงหนึ่งส่วนหมื่น แม้แต่ผู้ฝึกบำเพ็ญระดับสร้างฐานธรรมดายังลำบาก
‘บัดซบ เหตุใดผู้อริยะเผ่ามนุษย์ถึงชอบบุกมาที่ราบหมอกลับแลของข้าจริง มันจะรังแกเถาเกินไปแล้ว! รอก่อนเถอะ! รอข้าฝึกบำเพ็ญใหม่สามพันปี กล้าพูดเลยว่าพวกเจ้ารอลงนรกได้เลย!’
มารดาเถาลวี่จีกำลังด่าสาปในใจ พลันรู้สึกว่าก้นเริ่มสั่นสะเทือนขึ้นมา มันรู้สึกว่าข้างใต้ตนมีวัตถุมหึมากำลังขยับยึกยือไปมาไม่หยุด ดูรุนแรงมาก
ลางสังหรณ์เลวร้ายแผ่ซ่านไปทั่วร่างเถาน้อย ทำให้มันไม่สบายตัวเลย
ผู้อริยะเผ่ามนุษย์สารเลวนี่กำลังทำอะไร นี่จะฉวยโอกาสกันรึ!
เหมืองแร่ผลึกสีเขียวยักษ์ถูกดึงขึ้นมาจากพื้นดิน ลอยอยู่กลางอากาศ มันเหมือนกับมังกรฟ้า แผ่พลังวิญญาณเข้มข้นทุกส่วน ทำให้คนที่แค่เข้าใกล้ก็รู้สึกสบายไปทั้งตัว
นี่ก็คือเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ใช้ยอดวิชาดึงเหมืองแร่ศิลาวิญญาณในที่ราบหมอกลับแลขึ้นมา กล่าวได้ว่าเหมืองแร่ศิลาวิญญาณนี้มีค่าไม่เบาเลย เรียกได้ว่าสมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้!
ลำพังแค่ศิลาวิญญาณสำเร็จรูปในเหมืองแร่ตอนนี้ก็มากพอจะซื้ออาณาจักรใหญ่ๆ ได้หลายอาณาจักรแล้ว และที่สำคัญกว่านั้นคือในเหมืองแร่ศิลาวิญญาณแฝงไว้ด้วยความลี้ลับ สามารถดูดพลังวิญญาณที่ลอยอยู่ในฟ้าดินได้
ถ้าย้ายเหมืองแร่ศิลาวิญญาณไปไว้ในฝ่ายเซียนจะทำให้พลังวิญญาณฟ้าดินในฝ่ายเซียนเต็มเปี่ยมมากขึ้น
นี่มีประโยชน์ต่อสภาพแวดล้อมการฝึกบำเพ็ญของทั้งฝ่ายเซียนอย่างมาก
………
ตอนนี้นักพรตชราข้างๆ ปวดร้าวแล้ว
ดมเหมืองแร่วิญญาณนี้แล้วหอมมาก!
อยากจะดูดกินมันให้แห้งเลย!
เหตุใดข้าถึงไม่รับเจ้าหนูเสิ่นเทียนเป็นศิษย์กัน ถ้าไม่อย่างนั้นเหมืองแร่ศิลาวิญญาณนี้ก็คงจะมีส่วนแบ่งของข้าสามถึงห้าส่วนกระมัง!
ใช่ ตอนนี้นักพรตชราอิจฉามาก ปวดร้าวตั้งแต่หัวจรดเท้า แน่นอนว่าเขาไม่ใช่คนที่เป็นบ้าที่สุด คนที่เป็นบ้าที่สุดไม่ใช่คน แต่เป็นเถาน้อยต้นหนึ่ง มันกระโดดลงกลางหลุมดินเว้านั้น
มันมองเหมืองแร่ศิลาวิญญาณมหึมายิ่งที่ลอยอยู่กลางอากาศ ของเหลวสีขาวขุ่นสองสายไหลลงมาช้าๆ เถาน้อยรู้สึกว่าทั้งโลกมืดมิดไร้แสงสว่างแล้ว
หมดเลย เหมืองแร่ศิลาวิญญาณหายไปทั้งหมด ไม่เหลือสักก้อน
เจ้ามนุษย์ พวกเจ้าสารเลวเกินไปแล้ว!
ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานกับสุราเหลวเซียนของข้าช่างมันเถอะ ตอนนี้พวกเจ้ายังจะยึดกระทั่งเหมืองแร่ศิลาวิญญาณของข้าด้วยรึ
ข้าไม่ใช่คนก็จริง แต่พวกเจ้ามันเป็นสุนัขจริงๆ
พวกเจ้าทำเช่นนี้ไม่กลัวกรรมตามสนองรึ
ฮือ สวรรค์ไม่ยุติธรรมเลย!
เถาน้อยเหม่อมองเหมืองแร่ศิลาวิญญาณ
มันมองเหมืองแร่จากไป แววตาเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์และเคียดแค้น
น่าเสียดายที่ไม่มีใครรู้ถึงความเคียดแค้นของมัน เพราะจิ่วเอ๋อร์ก็ไปไกลมากแล้วเช่นกัน
……..
เหมืองแร่ศิลาวิญญาณยักษ์ค่อยๆ เล็กลงในมือเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ สุดท้ายเหลือเพียงเท่าฝ่ามือ
นั่นคือทักษะมิติอันลี้ลับ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอาเหมืองแร่ใส่ไปในมิติ หดมิติลง
ทักษะเช่นนี้มีวิธีการต่างกันกับตอนนั้นที่นักพรตชราย่อส่วนพญาอินทรีปีกทองแต่ก็ให้ผลลัพธ์เหมือนกัน เพียงแต่ว่าการจะย่อเหมืองแร่นี้ง่ายกว่าย่อส่วนพญาอินทรีมาก
“เทียนเอ๋อร์ กลับไปข้าจะใส่ไว้ในยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กล่าว “จากนี้ไปยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์จะมีเหมืองแร่สองเหมือง ศิลาวิญญาณที่ขุดมาจากเหมืองแร่ยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์จะเป็นของแดนศักดิ์สิทธิ์ ส่วนเหมืองแร่นี้เป็นของเจ้า”
เสิ่นเทียนตกใจที่ได้รับความเมตตาอย่างคาดไม่ถึง ความจริงตอนแรกเขาว่าจะยกเหมืองแร่ให้แดนศักดิ์สิทธิ์ เปลี่ยนธงชัยใหม่ ถึงอย่างไรตอนนี้เขาก็ยังต้องอาศัยแดนศักดิ์สิทธิ์ ถ้าได้แบ่งสามถึงห้าส่วนก็กำไรเลือดสาดแล้ว
แต่เขาไม่นึกเลยว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะมอบเหมืองแร่ให้เขา
สวรรค์ เหตุใดโลกนี้ถึงมีผู้นำดีเช่นนี้
ซาบซึ้งใจ ฉากนี้ช่างน่าซาบซึ้งใจยิ่งนัก!
เสิ่นเทียนเลือดเดือดพล่านขึ้นมา “อาจารย์ นี่จะได้อย่างไรกัน!”
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ตบบ่าเสิ่นเทียน “มีอะไรไม่ได้กัน ข้าสนับสนุนเจ้าเต็มที่อยู่แล้ว เจ้าคือบุตรศักดิ์สิทธิ์ เป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ในอนาคต จะเป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องมองแดนศักดิ์สิทธิ์เป็นบ้านตัวเอง พลังของแดนศักดิ์สิทธิ์ก็คือพลังของเจ้า มิหนำซ้ำเดิมทีนี่เป็นโชคลิขิตของเจ้า ดังนั้นไม่ต้องทำเป็นตัวเป็นเด็กสาวน้อย
ภายภาคหน้าถ้าเจ้าสำเร็จมรรคเป็นเซียน แดนศักดิ์สิทธิ์ย่อมได้รับเกียรติยศร่วมด้วย นี่จะเทียบกับเหมืองแร่เล็กๆ แค่นี้ได้รึ”
นักพรตชราข้างกายได้ฟังคำพูดเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แล้วก็ปวดร้าวในใจจนฟันร่วง
นักพรตชราก็อยากมองแดนศักดิ์สิทธิ์เป็นบ้านตัวเองเช่นกัน เหตุใดถึงไม่ได้ล่ะ
ทุกครั้งที่เอาศิลาวิญญาณนิดหน่อยมาจากในบ้าน ก็ยังมาด่าข้า!
ศิษย์น้องรอง เจ้ามันลำเอียงเกินไปแล้ว!
……
ช่วงที่ทุกคนบ้างดีใจบ้างปวดร้าวนั้น ป้ายคำสั่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ในอกเสื้อของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พลันสั่นอย่างรุนแรง
เสียงของจางอวิ๋นถิงดังมาจากในป้ายคำสั่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ว่า “ท่านพ่อๆ ข้าอวิ๋นถิงเอง ได้ยินหรือไม่ท่านพ่อ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว เมื่อวานซืนศิษย์พี่ใหญ่ตระหนักรู้พอดี จึงอยากจะปิดด่านทะลวงแก่นพลังทองรอบที่เก้า แต่วันนี้จู่ๆ เขาก็ธาตุไฟเข้าแทรก แก่นพลังทอง…แตกละเอียดแล้ว!”
………………………………………………..