บทที่ 13 ดาร์ก เดม่อนก้าวสู่จุดเปลี่ยน
คาบเรียนวันศุกร์นั้นผ่อนคลายมาก เพราะมีเพียงคาบวิชาการประลองในตอนเช้าคาบเดียวเท่านั้น
เมื่อเที่ยงวันมาเยือน เส้นทางไปยังถนนนักเดินทางจะเปิดขึ้น และจะไม่ปิดจนกว่าจะถึงเวลาเที่ยงคืนของวันอาทิตย์
ในช่วงเวลานั้น นักเรียนทุกคนสามารถเข้าออกจากถนนนักเดินทางได้อย่างอิสระ
ไม่เพียงแต่นักเรียนใหม่ที่เพิ่งได้รับอนุญาตเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงนักเรียนรุ่นพี่ที่เก็บตัวอยู่ในปราสาทมาตลอดทั้งสัปดาห์ด้วย
แม้ว่าสถาบันเซนต์แมเรียนจะมอบของใช้ประจำวันทุกประเภทให้ฟรี แต่สิ่งของอื่น ๆ ทั้งหมดจำเป็นต้องซื้อที่ถนนนักเดินทาง
นักเรียนสามารถใช้คะแนนของตนซื้ออะไรก็ได้ที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นของเล่น ลูกกวาดแปลก ๆ เสื้อผ้าสวยงาม เครื่องประดับ หรือแม้แต่ตุ๊กตาน่ารัก
แน่นอนว่าสินค้าส่วนใหญ่เป็นตำราการปรุงยาและไอเทมอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการทำการ์ดเวทมนตร์
ที่เป็นแบบนี้เพราะอาจารย์ของสถาบันมักให้นักเรียนชั้นปีสูงทำการบ้านที่ต้องใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์หรือหนึ่งเดือนกว่าจะเสร็จ
โดยของที่จำเป็นสำหรับทำการบ้านต้องซื้อที่ร้านค้าในถนนนักเดินทาง
นอกจากนี้ ยังมีนักเรียนบางคนที่ทำตำราการปรุงยา ไอเทม และการ์ดเวทมนตร์กึ่งสำเร็จรูปของตัวเอง ซึ่งของพวกนั้นจะถูกขายที่ถนนนักเดินทางด้วย
นักเรียนชั้นปีสูง ๆ ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในดันเจี้ยนสามารถล่าสัตว์เวทมนตร์ หาของแล้วเอามาขายให้กับพ่อค้าที่ถนนนักเดินทางได้
และพ่อค้าก็จะจ่ายเป็นคะแนนด้วย
ในถนนนักเดินทาง มูลค่าต่อหนึ่งหน่วยคะแนนคือสิบหกเหรียญศักดิ์สิทธิ์ ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนนั้นจะถูกปรับตามการเปลี่ยนแปลงของตลาด
นักเรียนใหม่ที่เรียนได้เดือนเดียวไม่รู้ว่าพวกเขาเพียงแค่ตั้งใจฟังในแต่ละคาบเรียนก็จะสามารถรับคะแนนเป็นจำนวนหนึ่งร้อยหกสิบเหรียญศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!
หากนับสิบสองคาบเรียนต่อสัปดาห์ นักเรียนสามารถรับเหรียญศักดิ์สิทธิ์ได้ถึงเจ็ดพันหกร้อยแปดสิบเหรียญต่อเดือน!
มาวันนี้พ่อค้าในถนนนักเดินทางทำเอาพวกนักเรียนที่ไม่ได้ตั้งใจฟังในคาบเรียนเจ็บปวดจนอยากกระอักเลือดออกมา!
…
“ดาร์กไปด้วยกันไหม?”
“ไม่ล่ะ วันนี้ฉันมีเรื่องต้องทำ”
“งั้นฉันจะไปกับโรโระก่อนนะ ได้ยินมาว่ามีร้านขายขนมที่น่าสนใจบนถนนนักเดินทาง ฉันอยากจะลองดูมานานแล้ว!”
ไดแอนนาจับแขนโรสและรีบวิ่งออกไป
ดาร์กส่ายหน้า เพราะตนมีแผนที่ต้องทำในวันนี้
ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังถนนนักเดินทาง เขาหยิบสมุดบันทึกออกมาจากกระเป๋าและพิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสิ่งของต่าง ๆ ที่จดมาอย่างละเอียดถี่ถ้วน
[เขี้ยวแวมไพร์: ฟันของแวมไพร์ เมื่อมันเจาะเข้าไปในเส้นเลือด มันสามารถทำให้ผู้คนรู้สึกสงบได้ ผลข้างเคียงคือ [ราคะ] หลังจากเสียเลือด]
[มารยาทแห่งความอ่อนน้อมถ่อมตน: หมวกทรงสูงของขุนนางปีศาจ ไม่ว่าคน ๆ นั้นจะหยาบคายแค่ไหน เมื่อสวมใส่แล้วจะถ่อมตัวและสุภาพ แต่เมื่อถอดหมวกจะโกรธจัด!]
[น้ำตาแห่งมหาสมุทร: น้ำตาของนางเงือก สามารถใช้ทำยาที่สามารถลดน้ำหนักได้ แต่จริง ๆ แล้วมันคือการทำให้เกิดอาการเบื่ออาหาร]
[รองเท้าเต้นรำสีแดงของมาร์กาเร็ต: รองเท้าเต้นรำของแม่มดผู้ลึกลับมาร์กาเร็ต สามารถช่วยให้ผู้สวมใส่เต้นรำได้สมบูรณ์แบบที่สุดในโลก ราคาที่ต้องจ่าย คือไม่สามารถถอดมันออกได้]
[แอปเปิ้ลมีพิษของคาเตอริน่า: แอปเปิ้ลที่ราชินีคาเตอริน่าปลูกไว้ในสวนหลังวัง สามารถดูดซับความอิจฉาริษยาและเปลี่ยนให้กลายเป็นยาพิษที่ทำให้ผู้คนหลับไปตลอดกาล มีเพียงจุมพิตแห่งรักแท้เท่านั้นที่สามารถขจัดผลของยาได้]
[เหรียญทองของแกลนเด็ท: เหรียญทองที่ตกทอดมาจากแกลนเด็ทผู้ที่ถือมันจะกลายเป็นคนตระหนี่และโลภมาก พวกเขาจะถือว่าเงินคือชีวิต และครอบครัวเป็นเพียงมูลสัตว์]
[ตุ๊กตาวูดู: ตุ๊กตาต้องสาปที่สร้างด้วยหัวใจที่ริษยาอย่างแรงกล้า เข็มในตุ๊กตาจะทำให้ผู้คนรู้สึกเจ็บปวดอย่างที่สุด]
[หม้อแห่งการละเว้น: มันสามารถดูดซับความปรารถนาและปล่อยให้ผู้คนเข้าสู่สภาวะที่ไม่สามารถรู้สึกถึงความสุขหรือความเศร้าได้ โดยสูญเสียความสามารถในการนึกถึงความปรารถนาเหล่านั้นไป]
[วงแหวนแสงดาวประดับฟ้า: วงแหวนของจอมเวทแห่งแสงดาวประดับฟ้าผู้ยิ่งใหญ่ มันสามารถเห็นฉากของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวในจักรวาล ทำให้ผู้คนรู้สึกไร้ค่าในตัวเอง และมันอาจทำให้ผู้คนร่วงหล่นด้วยความกลัว]
[หนอนฝันร้าย: มันสามารถเจาะเข้าไปในความฝัน ดูดซับความปรารถนาของมนุษย์ ราคาคือสมองจะมีรู]
[เครื่องหยดสมองวิเศษ: มันจะดูดซับเนื้อสมองจำนวนเล็กน้อย รวมทั้งอารมณ์ ความปรารถนา ความรู้ ฯลฯ ซึ่งมักใช้ในการผลิตการ์ดเวทมนตร์ขั้นสูง การใช้บ่อย ๆ จะทำให้สูญเสียความจำทางอ้อม]
[ไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์: สามารถชำระจิตใจและทำให้จิตใจของผู้สวมใส่บริสุทธิ์ได้ ผลข้างเคียงคือสมองสึกกร่อน]
[ระฆังสยบวิญญาณ: เขย่าระฆังให้ผู้คนสงบ แม้นตายไป ก็ไม่หวั่นไหว]
[ธูปเทพจันทรา: การจุดธูปในระหว่างเรียนจะสามารถทำให้จิตใจบริสุทธิ์ ขจัดความคิดที่วอกแวก และปรับปรุงประสิทธิภาพในการอ่าน]
[ความโกรธเกรี้ยวของพระเจ้า: ไม้กายสิทธิ์แห่งยุคโบราณ สามารถเปลี่ยนความโกรธให้เป็นเปลวไฟแห่งเวทมนตร์ ถ้าความโกรธไม่หยุด เพลิงเวทมนตร์ก็จะไม่ดับ!]
…
สมุดบันทึกทั้งหมดเป็นรายชื่อไอเทมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งดาร์กหามาจากหนังสือหลายเล่มในช่วงที่ผ่านมา
สิ่งเหล่านี้อาจเป็นไอเทมเวทมนตร์ที่หลงเหลือจากยุคก่อนหรืออาจถูกปรับแต่งให้เป็นการ์ดไอเทมเวทมนตร์
แต่ไม่ว่ามันจะเป็นแบบไหน เพื่อต่อต้านบาปเจ็ดประการนั้นย่อมจำเป็นมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ตามคำที่ว่า คุณต้องจ่ายบางสิ่งหากต้องการบางอย่าง หลายสิ่งหลายอย่างย่อมมีผลข้างเคียงที่ยากจะละเลยไปได้ และราคาที่ต้องจ่ายก็ร้ายแรงเช่นกัน
ตอนนี้มีของไม่กี่อย่างที่ดูเหมือนจะไม่มีผลข้างเคียง
ในหมู่พวกมัน สิ่งที่ดาร์กต้องการมากที่สุดคือเครื่องมือเล่นแร่แปรธาตุอย่าง [เครื่องหยดสมองวิเศษ] และสินค้าล้ำค่าชั้นยอด [ธูปเทพจันทรา] พวกมันมีผลข้างเคียงที่ยอมรับได้ และหาได้ในถนนนักเดินทาง
ดาร์กเชื่อว่า [ธูปเทพจันทรา] จะทำให้คนกระหายในความรู้ และเห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้อันตรายมาก เขาจำเป็นต้องทดลองอะไรบางอย่างเพิ่มเติม
ดังนั้น จุดประสงค์ของเขาที่จะไปยังถนนนักเดินทางวันนี้คือเพื่อหา [เครื่องหยดสมองวิเศษ] ก่อน!
[เครื่องหยดสมองวิเศษ]
เป็นเครื่องมือเล่นแร่แปรธาตุที่ใช้สกัดสารจากสมอง มันเหมาะสำหรับการผลิตการ์ดเวทมนตร์ระดับสูงที่แม่นยำ
ดาร์กอ่านหนังสือหลายเล่มและถามศาสตราจารย์เคเซอร์ ผู้เป็นอาจารย์สอนวิชาเวทมนตร์พื้นฐาน เขามั่นใจมากว่ามันน่าจะสามารถดึงอารมณ์และความปรารถนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากต้องใช้เทคโนโลยีที่สูงมากและไม่สามารถใช้ได้บ่อย ๆ
ถ้าดาร์กไม่สามารถซื้อมันจากถนนนักเดินทางได้ เขาอาจจะต้องหาวิธีเอามันมาจากการทดลองของศาสตราจารย์เคเซอร์แทน
แม้ว่าจะไม่เหมาะกับการใช้ซ้ำ ๆ แต่หากเป็นกรณีฉุกเฉินเขาสามารถใช้มันเท่าที่จำเป็นได้
ปัญหาเร่งด่วนคือต้องดูดเอา [อัตตา] ออกไปบ้าง!
…
หลังจากนักเรียนใหม่ซึ่งยืนอยู่ตรงประตูของปราสาทหายไป ก็ถึงเวลาที่ดาร์กจะไปบ้าง เขาเดินไปที่ประตูปราสาทอย่างสงบและสง่างาม
สิ่งที่ถูกพร่ำสอนมาของความเป็นชนชั้นสูงมันฝังรากถึงกระดูกของเขาทำให้การเคลื่อนไหวของดาร์กยังคงประณีตสุขุมแม้จะตรงข้ามกับจิตใจที่กำลังวิตกกังวลอยู่ก็ตาม
ทางเดินไปยังถนนนักเดินทางตั้งอยู่ในศาลาริมทะเลสาบนอกปราสาท
ขณะข้ามสะพานที่มีสวนยาวไปถึงศาลาริมทะเลสาบอันสวยงาม สายตาของเด็กชายก็เหลือบมองสภาพแวดล้อมอย่างเป็นนิสัยไปด้วย
นอกจากที่นั่งแบบวงกลมตรงขอบศาลาแล้ว ศาลาริมทะเลสาบที่กว้างขวางนี้ยังมีโต๊ะและเก้าอี้หินรองรับทั้งหมดแปดชุด
มันมีคำจารึกที่สลักไว้บนเสาหินอยู่ตรงข้ามว่า ‘หากเราพยายามค้นหา มันก็จะมีที่สำหรับพัฒนา รอเราอยู่ที่ไหนสักแห่งอยู่เสมอ’
ดาร์กกะพริบตาและเห็นใครบางคนนั่งอยู่บนเก้าอี้หิน เขาคนนั้นบิดก้นแล้วจู่ ๆ ก็หายวับไปในอากาศ
ยังมีคนที่บิดมันมาเป็นเวลานาน แต่คนที่ยังอยู่ก็ยังอยู่กับที่ไม่ไปไหน!
“ดูเหมือนว่าทางเข้าของถนนทางเดินจะถูกย้ายออกไป มีโต๊ะหินแปดตัวและเก้าอี้หินแปดตัวสำหรับแต่ละโต๊ะ เฉพาะคนที่เลือกเก้าอี้หินที่ถูกต้องจากแปดตัวเท่านั้น ถึงจะสามารถเข้าสู่ถนนนักเดินทางได้”
เขาเหลือบมองโรเบิร์ตและเวอร์เธอร์ที่กำลังหน้าแดง แล้วนั่งลงกับเก้าอี้หินอีกโต๊ะหนึ่งซึ่งยังไม่เคยมีใครนั่งมาก่อน
ดาร์กอดทนมาก เขารอจนกระทั่งทุกคนที่โต๊ะอื่นล้มเหลว ก่อนที่ตนจะบิดสะโพกเล็กน้อยแล้วหายตัวไปจากตรงนั้น
…