บทที่ 98 ดาร์ก เดม่อนและเจ้าหญิงกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง
บทที่ 98 ดาร์ก เดม่อนและเจ้าหญิงกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง
หมีน้อยตัวนั้นย่องเท้ามาอยู่ข้างหลังของดาร์ก
เมื่อดาร์กหันไปมอง หมีน้อยก็รีบซ่อนตัวที่ด้านข้างทางเดินทันที
แต่ด้วยลักษณะขาสั้นป้อมที่วิ่งเร็วไม่ได้นั้น กลับทำให้คนที่ผ่านมาเห็นต่างรู้สึกขบขันไม่น้อย
“นี่มันชุดคอสตูม…”
ดาร์กพึมพำ
ค่อนข้างเป็นไปได้ว่าจะเป็นนักเรียนที่สวมชุดหมี แต่ไม่รู้ว่าเป็นนักเรียนปีหนึ่งหรือปีที่สอง
ดูจากส่วนสูงแล้ว…นักเรียนคนนี้ไม่น่าอายุเยอะ
“หยุดตามฉันซะ” หลังพูดจากระยะไกล ดาร์กก็หันหลังเดินต่อไป
แต่หลังจากเดินไปไม่กี่ก้าวก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นข้างหลังเขา
นั่นทำให้ดาร์กขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาหันกลับมาพูด “ตามฉันมาทำไม”
หมีน้อยตัวแข็งทื่อ ทันใดนั้นก็ยกมือขึ้นและคำรามเบา ๆ “โฮก!”
ดาร์กถาม “เธออายุเท่าไหร่กัน?”
หมีน้อยตอบ “สิบเอ็ด”
ดาร์ก “…”
หมีน้อย “อะฮิ~ ( 1 > < 1)”
…
ใบหน้าดาร์กมืดครึ้มลง เขากอดอกก่อนแล้วพูดว่า “สิบเอ็ดขวบ งั้นเธอคือแอนนาหรือแองจี้ล่ะ?”
หมีน้อยตอบ “แอนนา!”
ดาร์ก “อ้อ แองจี้สินะ?”
หมีน้อยดื้อด้าน “แอนนา!”
ดาร์กยอมแพ้ “ช่างเถอะ พี่สาวของเธออยู่ไหน?”
องค์หญิงลำดับสามแองจี้กระโดดเข้าไปหาดาร์ก “เลี้ยงหรือหลอก!”
ดาร์กโยนถุงขนมที่เขาถือให้กับเธอ
แองจี้รับมันไว้โดยไม่รู้ตัว แต่เนื่องจากน้ำหนักที่มาก เธอจึงเกือบทำมันหลุดมือ “นี่อะไร?”
ดาร์กยิ้มเล็กน้อย “ลูกกวาดที่เธออยากได้ไง เอาล่ะ ตอนนี้ขนมถุงนี้เป็นของเธอแล้ว ไปเล่นคนเดียวเถอะ แล้วเลิกตามฉันได้แล้ว”
หลังจากกำจัดถุงขนมที่ยุ่งยากออกไปได้ ดาร์กก็รู้สึกมีความสุขมาก
ในอาณาจักร เพราะเขาเป็นบุตรชายของดัชเชส จึงทำให้ได้รู้จักกับเจ้าหญิงทั้งสามมาตั้งแต่เด็ก
เช่นเดียวกับเด็กเล็กที่ชอบวิ่งตามหลังพี่สาว ดาร์กก็เคยตัวติดหนึบกับเจ้าหญิงเอลิซาเมื่อตอนที่เขายังเป็นเด็กเช่นกัน แต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว
ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็มีอายุห่างกันอย่างน้อยหกปี เมื่อดาร์กเริ่มจำความได้ เจ้าหญิงก็ยุ่งกับการเรียนแล้ว
หลังจากนั้นมา คนที่เล่นกับเขาก็คือเจ้าหญิงฝาแฝดที่อายุน้อยกว่า
เนื่องจากเจ้าหญิงลำดับที่สองแอนนาเกิดมาพร้อมกับพลังเวทมนตร์มหาศาล มีอยู่ครั้งหนึ่งที่พลังเวทมนตร์เกิดควบคุมไม่ได้ ทำให้ของเล่นที่อยู่รอบ ๆ ลอยไปมา จนมาโดนหัวของดาร์ก
ในเวลาต่อมา ดาร์กจึงได้ตั้งชื่อเล่นให้กับเธอว่า ‘แม่มดแก่’
หลังจากนั้น…
หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรอีก
ความสัมพันธ์ระหว่างดาร์กและแอนนาเริ่มแย่ลง แม้แต่ความสัมพันธ์ของเขากับแองจี้ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อดาร์กมีอายุได้ประมาณเจ็ดขวบ
ในตอนนั้น ดาร์กซุกซนและนิสัยเสียมากขึ้น ขณะที่เจ้าหญิงทั้งสองก็ไม่ได้ต่างกันเลย
ผ่านมาเพียงชั่วพริบตา เป็นเวลาห้าปีแล้ว ดาร์กไม่คิดเลยว่าจะได้พบกับพวกเธออีกครั้งบนทางเดินของปราสาทเซนต์แมเรียน
เด็กชายถอนหายใจเล็กน้อย
แองจี้วางถุงขนมลงบนพื้นแล้ว และแกะเชือกออกมาดูอย่างกระตือรือร้น
“เฮ้ ดาร์ก” แองจี้เรียกทันที
ดาร์กตอบอย่างไม่ใส่ใจว่า “หืม”
แองจี้พูดอีกครั้ง “ทำไมนายถึงมีลูกอมมากมายขนาดนี้ล่ะ? งั้นฉันขอตามนายไปช่วยเก็บลูกอมนะ ตกลงไหม?”
ดาร์กปฏิเสธ “ไม่”
แองจี้พูดอย่างตื่นเต้น “ถ้างั้นก็เป็นอันตกลง!”
ดาร์กไม่อยากให้เธอตามเขาไป เขาใช้ประโยชน์ระหว่างที่เธอดื่มด่ำกับขนมเวทมนตร์ของวันฮัลโลวีน หันหลังวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว!
“อ๊ะ!”
ชุดหมีนั้นเทอะทะอยู่แล้ว
เมื่อเห็นดาร์กวิ่งหนี แองจี้ก็อยากจะไล่ตามเขาทันที เป็นผลให้ถุงขนมถูกเตะโดยไม่ได้ตั้งใจ และขนมจำนวนมากก็กระจัดกระจายกลิ้งไปทั่วพื้น
ท่ามกลางบรรยากาศยามค่ำคืน กลิ่นอายลางไม่ดีพลันปรากฏขึ้น
ดาร์กซึ่งวิ่งไปได้ไม่ไกลก็หยุดลงทันใด เขาได้ยินเสียงบางอย่างมาจากที่ไกล ๆ
เสียงนั้นค่อย ๆ ใกล้เข้ามาและชัดเจนมากยิ่งขึ้น
“หมีน้อยของฉันอยู่ที่ไหน?”
“ใครเห็นหมีน้อยของฉันบ้าง?”
ดาร์กหันไปมองและเขาก็ได้เห็นหุ่นเชิดหมีตัวโต มันโผล่ร่างกายออกมาครึ่งหนึ่งจากอีกฟากหนึ่งของทางเดินอันมืดมิด
ตุ๊กตาหมีสูงสามเมตร ดวงตาแบบกระดุมของมันมีเปลวไฟสีเขียวลุกโชนให้เห็น และผิวหนังบนตัวของมันก็ประกอบไปด้วยผ้าหลากสีสัน ขณะที่ลมหายใจสีดำไหลออกมาจากรอยต่อบนตัว
หากเป็นเพียงแค่นั้น มันก็คงไม่ได้ทำให้คนรู้สึกกลัวจนเกินไป
แต่เผอิญว่าร่างอีกครึ่งหนึ่งของมันที่โผล่ออกมาหลังจากนั้น กลับเป็นโครงกระดูกสีซีดซึ่งมีเศษเนื้อห้อยติดมาด้วย!
“เธอเห็นหมีน้อยของฉันไหม?”
เสียงแหบแห้งนั้นดูเหมือนจะสามารถเจาะเข้าไปในกระดูกของมนุษย์ได้ และมันทำให้คนตัวสั่นกึกโดยไม่รู้ตัว
…
“เอ๋?”
ที่ไหนสักแห่งในปราสาท
ศาสตราจารย์ลิลลี่ ลาปลาซ ผู้ซึ่งกำลังนอนอยู่บนโซฟาและเป่าฟองสบู่อยู่ ทันใดนั้นเธอก็เด้งตัวขึ้นมาจากโซฟา
“เอาจริงเหรอเนี่ย กลไกแบบนั้นก็ถูกกระตุ้นได้ด้วย?”
ศาสตราจารย์ลิลลี่ตื่นเต้นขึ้นในทันที เธอรีบร่ายการ์ดลงบนร่างกาย แล้วจากนั้นร่างกายของเธอก็กลายเป็นเพียงภาพลวงตาอย่างรวดเร็ว
ปีกของแมลงปอบนหลังของเธอพลันกระพืออย่างรวดเร็ว ก่อนจะบินตรงผ่านกำแพงไปยังชั้นห้าของปราสาท
เธอไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด กลับกันคือมีแต่ความสงสัยเสียมากกว่า
“ใครเป็นผู้โชคดีที่สามารถกระตุ้นสิ่งนี้ได้กันนะ”
…
“อุ๊บ!”
เมื่อแองจี้หันกลับมา เธอก็รีบปิดปากตัวเอง
สปิริตตัวเล็กที่ดูเหมือนกริฟฟินโผล่หัวออกมาจากกระเป๋าชุดหมีน้อยของเธอ
แต่แล้วแองจี้ก็มีความคิดอื่น เธอเก็บสปิริตตัวน้อยที่อาจารย์ใหญ่อาร์เต้ให้มากลับเข้าไปในกระเป๋า แล้วเริ่มกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนก
ทว่าทันทีที่กรีดร้อง เธอก็เห็นวัยรุ่นผมบลอนด์ ซึ่งตอนนี้กลับดูแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้โดยสิ้นเชิง เขาวิ่งผ่านเธอและพุ่งเข้าไปหาซอมบี้หมีหุ่นเชิดที่น่าสะพรึงกลัว!
“โชคดีจริง!”
ดาร์กพยายามระงับความสุขของเขา ขณะถือการ์ดวิญญาณไว้ระหว่างนิ้ว
เขายังคงมั่นใจในการจัดการกับผีลับซึ่งปรากฏตัวเพียงลำพังอยู่
จากคำพูดของซอมบี้หมีหุ่นเชิดนี้ ดูเหมือนว่ามันจะเล็งแองจี้ที่สวมชุดหมีอยู่?
อาจจะเป็นหมีกับลูกกวาดที่กระตุ้นมัน?
หรือจะเป็นเพราะเหตุการณ์ ‘หมีน้อยทำขนมหกบนพื้น’ กันนะ?
ในตอนนี้ดาร์กยังไม่สามารถเข้าใจได้
แต่เรื่องนี้สำคัญไหมน่ะเหรอ?
ไม่สำคัญเลยสักนิด!
ดาร์กหยุดลงอย่างกะทันหัน และการ์ดวิญญาณที่ถือไว้ก็ถูกสะบัดออกในทันที
“จงออกมา!”
สปิริตซึ่งคล้ายกับเต่าตัวเล็กพลันปรากฏตัวขึ้น คั่นกลางระหว่างดาร์กกับหมีตัวใหญ่
…
แองจี้หยุดกรีดร้องแล้ว สายตาจ้องมองไปที่เต่ากระดองสีแดงและสีเหลืองตัวเล็ก เธออดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัย “นี่คือสปิริตของดาร์กเหรอ? ทำไมมันดูง่อยจัง?”
ในขณะเดียวกัน สปิริตตัวน้อยที่ดูเหมือนกริฟฟินก็บีบนิ้วของเธออีกครั้ง
แต่มันเพียงกะพริบและหยุดเคลื่อนไหวไปอย่างกะทันหัน
พลันมีภูตตัวน้อยตนหนึ่งโผล่หัวออกมาจากเพดานราวกับผีและกะพริบตา
…
“เจอแล้ว หมีน้อยของฉัน!”
ซอมบี้หมีหุ่นเชิดไม่สนใจชัคคารุกับดาร์กเลยสักนิด แต่กลับจ้องไปที่องค์หญิงลำดับที่สามซึ่งอยู่ในชุดหมีน้อย
และในวินาทีต่อมา มันก็วิ่งเข้าใส่ทันที