ยัยหมอวายร้ายที่รัก – บทที่ 199 เลี้ยงดู ตลอดชีวิต!

บทที่ 199 เลี้ยงดู ตลอดชีวิต!

ชายหนุ่มที่จับพวงมาลัยไม่ได้ปฏิเสธอย่างไม่พอใจเหมือนที่ผ่านมา แต่มือข้างหนึ่งเชยไปยังคางที่ได้รูปและกำลังขบคิดอยู่
ทันใดนั้น คิ้วที่ได้รูปของเขาก็ขมวดมุ่น“ พ่อแท้ๆของเธอเสียชีวิตไปแล้วจริงๆเหรอ?”
เส้นหมี่“ห๊า?”
สีหน้าแสนรักดูแย่มากขึ้นไปอีก“ห๊าอะไร ? ผมถามคุณ พ่อของเธอเสียแล้ว ครอบครัวของเธอไม่มีญาติที่ไหนอีกเหรอ ? ตายกันหมดเลยเหรอ ?”
เส้นหมี่“……”
คำพูดที่ร้ายแรงแบบนี้ จะสาปแช่งให้ตระกูลหิรัญชาตายให้หมดหรือยังไง ?
เส้นหมี่ทนฟังไม่ได้กับคำพูดแบบนี้……
“ไม่……ไม่หรอกมั้งปู่กับ……ป้ายังมีชีวิตอยู่”
“แล้วทำไมคุณไม่ยกเธอให้พวกเขาไป ? ผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างคุณจะมาดูแลเด็กมากมายแบบนี้ทำไมกัน?”
“นี่มันคำพูดบ้าบออะไร ? ฉันเป็นคนคลอดออกมาเอง ทำไมฉันจะเลี้ยงดูไม่ได้ ? หากฉันยกเธอให้คนอื่น เกิดคนอื่นดูแลเธอไม่ดีขึ้นมาจะทำยังไง ? ไม่ให้เธอกินข้าว แล้วยังทารุณเธอ คุณทนได้เหรอ?”
เมื่อเส้นหมี่ได้ฟังคำพูดแย่ๆนี้ ก็สวนกลับไปทันที
ในที่สุดแสนรักก็หยุดพูด
เพราะว่า ไม่รู้ทำไม ตอนที่เขาได้ยินเธอพูดว่า “ไม่ให้กินข้าว แล้วยังทารุณ”คำนี้ ทันใดนั้น หัวสมองของเขาก็ปรากฏภาพของเด็กหญิงตัวน้อยที่ใสซื่อ ภายในใจก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา
ใช่ จะยกลูกให้คนอื่นพร่ำเพรื่อไปได้ยังไง ?
ตลอดทางแสนรักไม่ได้พูดอะไรอีก
เมื่อเส้นหมี่เห็นเขาไม่พูดอะไร เธอก็ยิ่งไม่อยากจะพูดเข้าไปใหญ่ เธอรู้สึกว่าบางครั้งผู้ชายคนนี้ก็ฉลาดเสียจนราวว่ามีใครมาฝังตาทิพย์เอาไว้อยู่บนตัวของเขา
และบางครั้ง ก็ตาบอดเสียจนน่าโมโหอย่างที่สุด !
พ่อคนนั้น ไม่ใช่เขาหรือไง ?
ตลอดทางต่างไม่มีใครพูดอะไร จนครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถก็ขับมาถึงที่เรืองรอง
“ฉันลงไปก่อนนะ”เมื่อเส้นหมี่เห็นว่าถึงที่หมายแล้ว ก็จะเปิดประตูลงไป
“เส้นหมี่ คุณฟังให้ดีนะ แสงดาวเป็นคนอาฆาตพยาบาทมาก ในช่วงนี้ คุณพักอยู่ที่นี่ซะ และอย่าไปไหน!”
ทันใดนั้น ชายหนุ่มที่นั่งตรงคนขับก็พูดเตือนด้วยน้ำเสียงที่ไม่เคยพูดมาก่อน
ห๊า!
เส้นหมี่รู้สึกตกใจเล็กน้อย หันมองมาด้วยสายตาที่มึนงง เห็นนัยน์ตาคมที่ดำขลับราวก้อนหมึก มีประกายของความเย็นเยือกและน่าเกรงขามแผ่ซ่านออกมา
“ได้ ฉัน……ฉันเข้าใจแล้ว”เธอพยายามควบคุมการสั่นไหวภายในหัวใจ และตอบเสียงตะกุกตะกัก
นิสัยของแสงดาว และวิธีการของเธอ หญิงสาวรู้มันทุกอย่าง ดังนั้น เธอไม่สงสัยในคำพูดของเขาเลย และตอบตกลงเขาจริงๆ
แต่ว่า ทันทีที่เธอพูดจบ ชายหนุ่มก็กลับหัวเราะเยาะออกมา
“จำเอาไว้ให้ดีแล้วกัน อย่ามีความคิดพิเรนทร์อะไร ไม่อย่างนั้น ด้วยสมองของคุณ หากออกไป แล้วถูกเธอจับได้ คุณจะตายยังไงก็ยังไม่รู้เลย!”
“……”
ในชั่วพริบตา เส้นหมี่ก็มีน้ำโหขึ้นมาในทันที
ยังไงเสียเธอก็เคยใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศมานานกว่าห้าปี ในช่วงห้าปีนั้น เธอก็ไม่ได้ใช้ชีวิตที่สุขสบายนัก แต่ตอนนี้มาอยู่ที่นี่ ทำไมถึงได้มากลัวแสงดาวขนาดนี้ ?
เส้นหมี่รู้สึกเคืองมาก“หากทำตามอย่างที่คุณบอก ฉันจะต้องหลบอยู่นานแค่ไหน ? หรือต้องหลบอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิต ?”
คิ้วแสนรักเลิกขึ้น“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ? ถือซะว่าผมจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลเด็กๆ ด้วยเงินของผม เลี้ยงคุณจนแก่เฒ่าแล้วตายจากยังได้เลย ”
ผู้ชายชั่วคนนี้ ยังจะมาหัวเราะได้อีก……
เส้นหมี่โมโหขึ้นมาแล้วจริงๆ!
เสียง“ตึ้ง”ดังขึ้น เธอถีบประตูรถออก ลงจากรถมาได้ก็ชี้หน้าด่าผู้ชายเฮงซวยคนนี้ทันที“ฝันไปเถอะ เป็นพี่เลี้ยงให้คุณงั้นเหรอ ไปตายซะ?”
จากนั้นเธอก็เดินฟึดฟัดไปด้วยความโกรธ
ห่างออกไปตั้งไกล ก็ยังคงได้ยินเสียงก่นด่าของเธออยู่ไม่ขาดสาย
มุมปากแสนรักยกหยัก ลงจากรถ เขาปิดประตูอย่างใจเย็น ขาวที่เรียวยาวก็เดินตามเข้าไปด้านในเช่นกัน
เมื่อบอดี้การ์ดของตึกวังฬาหนึ่งเห็นเข้า ก็เดินปรี่เข้ามาหา “ ท่านประธาน กลับมาแล้วเหรอครับ ”
“อืม”
แสนรักพยักหน้าให้เล็กน้อย สายตาเหลือบมองไปยังร่างบางตรงหน้าที่กำลังจะเดินเข้าไปในคฤหาสน์อย่างไม่ตั้งใจ หยุดลงชั่วครู่ ครู่ต่อมา ดวงตาก็ฉายแววเย็นยะเยือก!
“ไปจัดเตรียมเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่ง คืนนี้เอาตัวคุณหนูดาวไป!”
“ครับ ท่านประธาน ”
บอดี้การ์ดไม่ได้แปลกใจกับการตัดสินใจนี้เลย
เพราะว่า นิสัยของท่านประธานก็เป็นแบบนี้ ขอแค่เขามีความคิด ก็จะไม่เปลี่ยนมันอย่างแน่นอน จะไปที่คฤหาสน์หลังเก่าหรือไม่ ? หรือคุณผู้หญิงจะปรากฏตัวหรือเปล่า ?
สิ่งเหล่านั้นล้วนไม่ได้สำคัญเลย สิ่งที่เขาตั้งใจจะทำ ยังไงก็ไม่มีใครมาเปลี่ยนแปลงมันได้ !
บอดี้การ์ดเองก็หายวับไปในความมืดทันที
และในคืนนั้น คุณหนูใหญ่ตระกูลหิรัญชาที่เอาตัวรอดได้แล้ว อยู่ดีๆก็หายตัวไปจากห้องนอนของเธอ ที่เหลือทิ้งไว้ มีเพียงยาสลบที่หล่นอยู่บนพื้นอย่างโจ่งแจ้ง
หลังจากที่คุณท่านกมลภพทราบเรื่องก็รีบตามมา เมื่อเห็นภาพนี้ ทันทีทันใด ก็แทบลมจับในทันที
“แสนรัก ไอ้ลูกเวร!!นั่นมันพี่สาวแกนะ !!”
น้ำตาเขาไหลอาบแก้ม ทำอะไรไม่ได้ กับการกระทำที่เด็ดเดี่ยวและเฉียบขาดนี้ของลูกชาย
พ่อบ้านสมมาตรที่คอยดูแลเขามาตลอดก็เดินเข้ามา เมื่อเห็นยาสลบนั้น เขาก็ทอดถอนใจ“คุณท่าน ดูเอาเถอะ คุณชายเขาตกหลุมรักคุณนายน้อยเข้าแล้วจริงๆ”
“ว่าไงนะ?”
คุณท่านที่กำลังโกรธและเสียใจอยู่ ก็เงยหน้าขึ้นแล้วจ้องเขม็งมองมาที่เขา

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท