ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 253 พ่อที่เสียแล้วของเธอ……
“ฉันยังเหลืออะไรอีกหรือไง?ฉันบอกน้าให้ ตั้งแต่ที่ผู้ชายคนนั้นถีบฉัน ฉันก็เข้าใจดีแล้ว ฉันไม่มีโอกาสอยู่ในตำแหน่งคุณนายน้อยแห่งตระกูลหิรัญชาได้อีก ในเมื่อเป็นแบบนี้ ทำไมฉันต้องปล่อยเขาไปด้วย?”
“……”
นานมาก ที่สุขาวดียืนอยู่ข้างเตียงไม่พูดอะไรออกมา
แผลนี้ ก็ยังเป็นผู้ชายคนนั้นที่ถีบเองกับตัวหรือ?!!
ในที่สุดอุณหภูมิสุดที่มีอยู่น้อยนิดอันสุดท้ายในดวงตาเธอก็เยือกเย็นลง ออกแรงกุมหมัด และเผยความแค้นอันมหาศาลออกมา:“โอเค ฉันเห็นด้วยที่แกจะทำแบบนี้ แต่ว่า ก่อนทำ พวกเราต้องหาเส้นทางต่อจากนี้ให้ตัวเองไว้เรียบร้อย”
“หมายความว่าไง?”
“แกเปิดเผยความลับนี้ไป แสนรักจะตามเบาะแสมาหาพวกเราแน่ ถ้าแกไม่อยากตาย สุดท้ายก็ต้องหาทางหนีทีไล่ไว้ล่วงหน้าให้เรียบร้อย”
สมแล้วที่สุขาวดีเป็นสุขาวดี ในช่วงเวลาสำคัญๆ แบบนี้ ก็ยังคิดเรื่องแบบนี้ออกมาได้
ดังนั้นแป้งร่ำมองไปที่เธอ รอสถานการณ์ที่ตามมาของเธอ
“ตอนนั้น คนที่ให้แกไปอยู่กับแสนรัก เป็นบุคคลนิรนามคนนั้นที่มักจะส่งต้นฉบับให้แกทางอีเมล ตอนนี้แกไปหาเธอ ให้เธอหาทางออกให้พวกเรา”
“หาเธอทำไม?”
“แกยังไม่เข้าใจอีกหรือไง?เธอจัดให้แกมาตั้งแต่แรก เธอพาแกมาถึงจุดนี้ทีละขั้นตอน หรือแกคิดว่า เธอไม่คิดจะหวังอะไรกับแกจริงๆ?แกจะไร้เดียงสาไปแล้วนะ!”
คิดไม่ถึงเลยว่า สุดท้ายแล้วสุขาวดีจะพูดประโยคแบบนี้ออกมา
แป้งร่ำตกใจ!
นี่เธอหมายความว่าไง?คนนั้น มีจุดประสงค์กับเธอ?
แต่ว่า เธอหลายปีมานี้ นอกจากจะให้เธอให้เงินแล้ว ก็ไม่ได้ต้องการอะไรนี่ ทุกครั้งที่ให้ต้นฉบับ เธอก็จะให้ค่าใช้จ่ายเธอไปก้อนหนึ่ง ซึ่งตัวเลขไม่น้อยเลยด้วย
ทำไมตอนนี้กลายเป็นมีจุดประสงค์อื่นแล้วล่ะ?
แป้งร่ำไม่ฉลาดเท่าน้าเธอคนนี้ หรือจะพูดได้ว่า ไม่ได้มีชีวิตอยู่มานานเท่าเธอ ยัยสาวไปหน่อย
สถานการณ์นี้ เธอไม่เคยตระหนักได้เลย
“บนโลกนี้ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆ แล้วนับประสาอะไรกับแกที่เป็นบ่อเงิน ตอนนั้นที่เธอเอาจดหมายให้แก และยังทำให้แกเป็นคนที่แสนรักตามหาอีก นั่นเท่ากับว่าได้เริ่มแผนของเธอแล้ว ฉันแค่เห็นว่าวินวินทั้งสองฝ่าย เลยไม่ได้พูด”
“……”
ตอนนี้ ในที่สุดแป้งร่ำก็รู้สึกขนหัวลุกทั่วร่างกาย
เธอมองน้าคนนี้นิ่งๆ อยู่นานมาก จึงได้ยินตัวเองถามไปว่า:“งั้น……เป้าหมายของเธอคืออะไร?”
สุขาวดีเผยให้เห็นความหม่นหมองออกมา:“ใครจะไปรู้ล่ะ?อาจจะอยากพาแกขึ้นไปแล้ว ค่อยควบคุมแก จากนั้นแย่งชิงหิรัญชากรุ๊ปไป หรือบางที พอเธอพาแกขึ้นไปบนจุดสูงสุด แล้วจึงปรากฏตัวอย่างกะทันหัน เปิดเผยแผนการสมรู้ร่วมคิดของแก และเข้าแทนที่แก!”
ทุกคำที่สุขาวดีพูด หัวใจของแป้งร่ำก็ดิ่งลงไป
จนกระทั่งตอนท้าย ตอนที่เธอพูดว่าแทนที่สองคำนี้ เธอก็รู้สึกขนลุกขึ้นมา ทั้งตัวเข้าสู่ความกลัว
ไม่ ไม่มีทาง คนๆ นี้ มีความสามารถขนาดนี้เชียวหรือ?
เธอเป็นแค่คนที่เอาต้นฉบับให้เธอ!
นี่จะต้องเป็นแค่การคาดเดาของน้าแน่!
แป้งร่ำไม่เชื่อ ภายใต้ความตื่นเต้น เธอดิ้นรนลุกขึ้นมาไปจับคอมพิวเตอร์
สุดท้าย ที่ทำให้เธอเหมือนโดนฟ้าผ่าก็คือ ตอนเธอเปิดคอมพิวเตอร์ อยากส่งอีเมลติดต่อกับบุคคลนิรนามคนนั้นเหมือนเมื่อก่อน จู่ๆ ที่อยู่อีเมลนั้นก็เด้งออกมาที่กล่องข้อความว่า“ไม่มีบุคคลที่ต้องการติดต่อ”!
ไม่มี!!
แป้งร่ำตกอยู่ในห้วงลึกทันที
เธอเหมือนคนบ้า ลองอีเมลนี้ไปเรื่อยๆ:“เป็นไปไม่ได้!นี่เป็นไปไม่ได้เลย!!”
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้ ก็เหมือนก่อนหน้านี้เลย
สุขาวดีเห็น ก็เข้ามา เห็นฉากนี้แล้ว เธอก็ได้แต่ปรากฏสายตาร้ายกาจออกมา ภายใต้ความที่ทำอะไรไม่ได้
“นี่เป็นการยืนยันการคาดเดาของฉันจริงๆ ด้วย โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกเราก็ลองปล่อยไปก่อน”
“น้าจะทำอะไร?”
“แน่นอนว่าแพร่เรื่องนี้ออกไปก่อน ใช่สิ อย่าลืมเอาต้นฉบับของเธอไปด้วย หนังสือเล่มนั้นน่ะ เชื่อว่าแบบนี้ แป๊บเดียวแสนรักก็จะสังเกตเห็นผู้เขียนคนนี้ รู้ว่าความลับนี้รั่วไหลออกมาได้อย่างไร”
ผู้หญิงคนนี้ยิ้มอย่างชั่วร้ายมาก
——
เรืองรอง ตึกวังฬาหนึ่ง
เส้นหมี่ที่เตรียมอาหารค่ำมากมายกับพี่ภาไว้นานแล้ว ตอนช่วงหัวค่ำ แสนรักขับรถกลับมา
“แด๊ดดี้ แด๊ดดี้กลับมาแล้ว!”
เห็นแด๊ดดี้กลับมาแล้ว คุณชายคิวกับชินจังสองคนก็เข้าไปต้อนรับอย่างดีใจทันที
หนูรินจังก็ไป
แต่ว่า พอเดินไปได้ครึ่งทาง เธอก็หยุดลงอย่างขี้ขลาด
ตอนนี้เธอยังไม่ใช่“ลูกสาว”ของแด๊ดดี้นะ
สุดท้ายล่ะ?
แสนรักลงมาจากรถแล้ว หลังจากเห็นลูกชายทั้งสองคน แล้วหยิบของขวัญที่ซื้อกลับมาแบ่งให้พวกเขาแล้ว ก็หันกลับ แล้วถือตุ๊กตาเงือกน้อยสีชมพูตัวใหญ่ๆ ออกมาจากรถอีกที
ว้าว!
ดวงตาโตๆ ที่เหมือนแก้วของหนูรินจังก็เป็นประกายทันที
“ไปเถอะ นี่แด๊ดดี้ซื้อให้ลูกไง ลูกดูสิ แด๊ดดี้รักลูกมากใช่ไหมล่ะ?”
เส้นหมี่เห็น ภายใต้ความตื่นเต้นนั้น ก็รีบให้กำลังใจลูกสาวตัวเอง
ดังนั้นสาวน้อยจึงก้าวขาเล็กๆ อ้วนๆ นั้นพุ่งออกไปเหมือนกับนกนางแอ่นตัวน้อยจริงๆ