ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 473 เธอไม่เคยได้รับแหวนแต่งงานจากเขามาก่อน
“ตกลงว่าเธอเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงได้กลายเป็นผู้หญิงที่โชคดีคนนั้น”
“นั่นสิ เธอแตกต่างตรงไหน ฉันมองดูรูปลักษณ์ก็ธรรมดา ใช้เล่ห์กลอะไรหรือเปล่า”
“ฉันว่าใช่ ไม่งั้น แสนรักอยู่ดีๆ ทำไมถึงได้ออกจากหิรัญชากรุ๊ปไป เขายังหนุ่มยังแน่น ทั้งยังเก่งมาก เป็นคนที่มีอำนาจควบคุมบริษัทแต่ออกไปอย่างกะทันหัน ไม่รู้สึกว่าแปลกไปหน่อยเหรอ”
เพียงเวลาสั้นไม่กี่นาที ผู้คนเหล่านี้สร้างความเป็นปรปักษ์ที่ยิ่งใหญ่กับเส้นหมี่
พวกเธอสงสัยว่าเธอใช้วิธีการที่ไม่ปกติ เพื่อให้ได้แสนรักมา จนในที่สุดก็ได้ชายหนุ่มมา
เส้นโกรธจนหน้าดำหน้าแดง
แต่เมื่อแครอทได้เห็น หลังจากนั้นรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก
เธอรีบเดินไปข้างๆ เถ้าแก่คนนี้: “จริงสิ เถ้าแก่ เดิมทีคุณรู้จักพี่สาวของฉันด้วยหรือคะ”
“ต้องรู้จักอยู่แล้ว นั่นคือคุณหนูใหญ่ตระกูลหิรัญชาเชียวนะ”
เถ้าแก่ร้านจิวเวอร์รี่เข้าใจความหมายของคำพูดของเธอ รีบยิ้มออกมาแล้วพยักหน้า
แครอทยิ่งยิ้มกว้างออกมากกว่าเดิม
เธอในตอนนี้ เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ จากที่ไม่ชอบใส่กระโปรง ทุกวันแต่ตัวสบายๆ สะดวกต่อการทำการทดลองในห้องวิจัย
แต่ตอนนี้ เธอใส่กระโปรงสีแดงอย่างงดงามเหมือนกับแป้งร่ำในตอนนั้นราวกับคนๆ เดียวกัน
“งั้นก็ดีเลยค่ะ นี่คือแหวนแต่งงานของพวกเรา รบกวนคุณยื่นให้พี่สาวหน่อย แล้วก็พี่สะใภ้ใหญ่ดูสักหน่อย”
“สะใภ้ใหญ่?”
“เธอคือภรรยาของพี่ชายใหญ่แสนรัก คุณรู้จักพี่ชายใหญ่ของฉันใช่ไหมคะ แต่ว่า พวกเขายังไม่ได้จัดงานแต่งงาน ถ้าเธอได้ดูแหวนวงนี้ เถ้าแก่ค่ะ ไม่แน่คุณอาจจะได้ทำการค้าอีกครั้งก็ได้ค่ะ”
เธออธิบายอย่างยิ้มแย้ม ในตอนท้ายฉีกยิ้มออกมาอย่างหน้าบานเพื่อช่วยแนะนำการค้าให้กับเถ้าแก่คนนี้
ผู้คนทั้งลานเจี๊ยวจ๊าวขึ้นมาอีกครั้ง
แม้แต่เจ้าของร้านก็ด้วย
แสนรักใครจะไม่รู้จัก?
แสนรักชื่อนี้ ในเมืองเมืองนี้ เกรงว่าแม้แต่เด็กสามขวบ ก็คงจำได้และคุ้นหูอยู่ไม่น้อย เขาก็เป็นเหมือนนามบัตรของเมืองเมืองนี้ แพร่ออกไป ทุกคนด้านนอกต่างก็ยำเกรงคุณ
ดังนั้น ผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยาของเขาอย่างนั้นเหรอ?
งั้นทำไมยังไม่มีการจัดงานแต่งงาน?
ประธานผู้ยิ่งใหญ่ของหิรัญชากรุ๊ป แต่งงานแล้ว ไม่จัดงานแต่งงานได้อย่างไร แม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่ได้อยู่ในหิรัญชากรุ๊ปแล้ว แต่เขาก็ยังเป็นคนตระกูลหิรัญชา เรื่องแต่งงานของตนเอง คงไม่มักง่ายขนาดนั้น
งั้นแบบนี้ก็แสดงถึงอะไรล่ะ?
แสดงว่าเขาไม่อยากจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้?
หรือแสดงว่าการแต่งงานครั้งนี้ อาจจะเป็นผู้หญิงคนนี้โมเมขึ้นมาเอง เพราะว่า เมื่อก่อนก็มีผู้หญิงไม่น้อยที่พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้แต่งงานกับเขา
สุมไฟขึ้นมาสีหน้าเยาะเย้ยก็เริ่มแสดงออกมา
บวกกับความริษยาในก่อนหน้านี้ วินาทีนี้ สายตาของพวกเธอมองไปยังเส้นหมี่ เหมือนกับว่าในที่สุดก็หาจุดไคลแมกซ์เจอ
พวกเขาดูถูก เย้ยหยัน รังเกียจ……
วินาทีนี้สิ่งที่แสดงออกมาจากสีหน้าของพวกเธอประเดประดังเข้ามา
เส้นหมี่หน้าซีดขาวเป็นอย่างมาก
แต่ว่า เธอไม่ได้เพราะว่าคนเหล่านี้ที่ไม่รู้อะไรจริงแล้วเยาะเย้ยออกมา แต่เพราะว่าผู้หญิงที่ชื่อแครอท ที่แทงเข้าไปในบาดแผลลึกๆ ภายในใจ
แหวนแต่งงาน
จริงๆแล้ว เธอแต่งงานกับผู้ชายคนนั้นมาหลายปี เขาไม่เคยซื้อของแบบนี้ให้เธอเลย
สิ่งนี้เป็นสิ่งประจักษ์ถึงความรักนิรันดร์ และแสดงถึงเขารักเธอที่เธอเป็นเธอ เธอไม่เคยได้รับมาก่อน ต่างเป็นคุณท่านที่ไปซื้อมาให้เธอ
เส้นหมี่กำหมัดแน่นค่อยจิกลงไป
เธอไม่อยากยอมรับ แต่วินาทีนี้ ตรงตำแหน่งของหัวใจเธอ เหมือนกับว่ามีอะไรทิ่มแทงเข้ามา บาดแผลที่เธอที่ไม่เคยนึกถึงมาก่อน
กลับมาเจ็บปวดอีกครั้ง
“คุณเสียใจมากเลยใช่ไหมคะ เขาไม่เคยให้แหวนแต่งงานกับคุณใช่ไหมคะ ฉันจะบอกอะไรคุณนะ ฉันได้รับจากเขาสองวง วงแรกตอนเขาอายุ22ตอนที่พวกเราเตรียมตัวแต่งงานกัน อีกวงเมื่อปีที่แล้วตอนที่พวกเราหมั้นกัน เขาเลือกกับมือของเขาเอง เส้นหมี่ คุณมีหรือเปล่า”
ในเวลาสำคัญ ผู้หญิงคนนี้ยังขว้างลูกดอกเข้ามา พูดและยิ้มออกมาเบาๆ เหมือนกับปีศาจอยู่ข้างๆ หูของเธอออกมาหนึ่งประโยค
ทันใดเส้นหมี่รู้สึกเคว้งคว้าง
เขาอายุ22 ให้แหวนกับเธอ
แต่ว่าในตอนนั้นเธอ ยังโง่เง่าเขียนจดหมายให้เขาส่งไปถึงสวิตเซอร์แลนด์
หลังจากพึ่งได้รับข้อมูลที่สร้างความเจ็บปวดแพร่ไปถึงก้นบึ้งหัวใจ ใบหน้าเรียวของเธอ ในที่สุดก็ไม่เหลือแม้แต่สีเลือด
“แครอท คุณจะทำอะไร คุณช่วยไปไกลๆ จากฉันหน่อย!”
แสงดาวที่รู้ตัวขึ้นมา พุ่งเข้ามาผลักหญิงสาวคนนี้ออกไปทันที
คณาธิปก็มองเห็นฉากนี้ เห็นแล้วว่าไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเอาไว้ก่อนหน้านี้ ใบหน้าของเขาก็ดุดันขึ้นมา
“แครอท คุณบ้าไปแล้วหรือเปล่า พอแล้วกลับไปได้แล้ว!”
“บ้า?”
แครอทยิ้มออกมา “ฉันบ้าที่ไหนกัน คณาธิป คุณไม่เห็นเหรอ ฉันลองทดสอบให้คุณต่างหาก เธอหน้าด้านหน้าทนจับแสนรักเอาไว้ตั้งนาน แม้แต่แหวนวงเดียวก็ไม่มี คุณวางใจเถอะ คุณยังมีโอกาส”
“……”
เส้นหมี่ทั้งร่างสั่นเทา !
แต่ว่า ในเวลานี้เธอปะทะกับคำพูดของเธอแบบนี้ แม้แต่คำเดียวก็โต้แย้งออกมาไม่ได้
เพราะว่า เธอไม่ได้มีแหวนจริงๆ
และเพราะว่า ตอนนี้เธอเองก็ไม่กล้าแน่ใจ ผู้ชายคนนั้นรักเธอจริงหรือเปล่า? ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกับเธอตลอดชีวิตหรือเปล่า?
รอบด้านมองดูเธออย่างเย้ยหยัน