ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 467 พี่ชายคุณถูกฉันรับเลี้ยงดูมาตลอด
“……”
ผู้หญิงคนนี้จึงกลับมาด่า
“เธอโง่หรือไง?เขาทำแบบนั้นกับเธอแล้ว เธอยังไปเจอเขาอีก?เธอซาดิสม์หรือไง?ยังรักเขาหรือ?เส้นหมี่ ถ้าเธอเป็นแบบนี้ เธอเชื่อไหมฉันเอาเธอตายได้ทันที?”
ด่าใส่หน้าเส้นหมี่โครมๆ
เส้นหมี่ร้อนรน รีบปฏิเสธ:“เธอพูดไร้สาระอะไร?ฉันไม่รู้เลยว่าเขาจะมา ถ้ารู้ วันนี้ฉันก็ไม่มาหรอก”
แสงดาว:“……”
สุดท้าย เธอก็ไม่สงสัย
แต่ว่า สีหน้าเธอยังดูแย่ เหยเกสุดๆ
เส้นหมี่คิดเล็กน้อย และพูดไปว่า:“งั้นวันนี้เธอมาหาฉันมีอะไร?ไม่งั้น พวกเราเข้าไปนั่งก่อนดีไหม?”
เธอพยายามชวนผู้หญิงคนนี้เข้าไปนั่งก่อน เพื่อให้ใจเย็นลง
ยังไง เมื่อกี๊เธอก็เพิ่งช่วยเธอ
โชคดีที่ คราวนี้ผู้หญิงคนนี้เชื่อฟังเสียที หลังจากเธอยืนแป๊บหนึ่ง ก็เข้าไปจริงๆ จากนั้น ก็ดื่มชาด้านในไปสองถ้วย และในที่สุดก็มีสติ
“หิรัญชากรุ๊ปจะจบเห่แล้ว”
“……อะ……อะไรนะ?จบเห่?จบเห่หมายความว่าไง?”เส้นหมี่ที่กำลังดื่มชาก็ตกใจ
ใบหน้าแสงดาวมีแต่ความโกรธเคืองและท้อใจ:“คนเลวนั่นใช่บริษัทเจแปนแห่งหนึ่ง ซื้อหุ้นของหุ้นส่วนทั้งหมดของหิรัญชากรุ๊ปไป ตอนนี้ในบริษัทเหลือแค่หุ้นส่วนสามคน เขา พ่อฉัน และก็ซาจาแห่งเจแปน”
“……”
ในที่สุดเส้นหมี่ก็ไม่ขยับ
ราวกับว่าน้ำเย็นราดลงมาจากหัว เยือกเย็นไปทั้งตัว
ที่แท้ หิรัญชากรุ๊ปก็แย่ถึงจุดนี้
“บริษัทตอนนั้นที่พ่อฉันโอนให้น้องชายฉัน เพราะกลัวว่าน้องชายฉันจะทำยุ่งเหยิง เขาเลยไม่ได้เอาหุ้นในมือทั้งหมดให้เขา เขายังถืออยู่ 35% น้องชายฉันมี 25% ในสิทธิ์การพูดนั้น พ่อฉันก็ต้องได้เปรียบมากกว่าอยู่แล้ว”
“แต่ว่า ตั้งแต่ไอ้สารเลวนี่ขึ้นมา เขาไม่ใช่แค่สืบทอด 25% นั้นของน้องชายฉัน เขายังใช้ซาจากรุ๊ปเพื่อกลืนกินส่วนที่เหลืออีก 20% และถ้าเอา 20% จากผู้ถือหุ้นรายเก่าพวกนั้นมาอยู่ในมือเขาอีก เขาก็จะมี 45% ถึงตอนนั้นหุ้นส่วนรายใหญ่ที่สุดของบริษัทก็จะเป็นเขา พ่อฉันก็จะทำอะไรเขาไม่ได้ งั้นหิรัญชากรุ๊ปก็จะกลายเป็นของเขากับบริษัทเจแปนนั่นใช่ไหมล่ะ?”
แสงดาวเล่าสถานการณ์ของบริษัทตอนนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน และกัดฟันตลอดที่เล่า
เส้นหมี่ได้ยิน หัวใจก็ดิ่งลงไปอีกครั้ง
บริษัทที่เป็นระบบถือหุ้น สิทธิของผู้ถือหุ้นจะจัดสรรอย่างไร เธอช่ำชองในเรื่องการเงิน แน่นอนว่ารู้อยู่แล้วว่า ใครมีหุ้นในมือเยอะสุด คนนั้นก็จะมีสิทธิ์ในคำพูดมากที่สุด ซึ่งก็จะมีบทบาทความเป็นผู้นำ
ยิ่งไปกว่านั้นหิรัญชากรุ๊ปในตอนนี้ ซาจาที่มีหุ้นส่วนอีก 20% ก็เป็นของเขาคณาธิป
ดังนั้น เขาอยากทำอะไรกันแน่?
อยากฮุบหิรัญชากรุ๊ปคนเดียวงั้นหรือ?
เส้นหมี่นึกถึงเรื่องที่คนๆ นั้นบีบบังคับลงมือเธอเมื่อครู่ ก็โกรธจนหน้าเล็กๆ นั้นบูดบึ้ง
“เขาไม่มีทางสมหวังแน่!”
“อะไร?”
“สิทธิของผู้ถือหุ้น หนังสือโอนสิทธิ์ผู้ถือหุ้นของผู้ถือหุ้นเหล่านั้นอยู่ในมือฉัน แค่พวกเราเก็บมันไว้ เขาก็ไม่มีโอกาสเอามันไปได้แล้ว”
เส้นหมี่โยนหนังสือสิทธิของผู้ถือหุ้นไม่กี่ฉบับที่ตัวเองพกติดตัวไปที่โต๊ะดัง“ฟิ้ว”
ดวงตาคู่นั้นของแสงดาวเบิกกว้างทันที!
“จะเป็นไป……ได้ไงกัน?”
เธอไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง นานมากกว่าจะกล้าหยิบซองเอกสารนี้ขึ้นมา จากนั้นจึงดูของด้านในอย่างละเอียด
สุดท้าย พอมองดู ก็ทำให้เธอเหมือนโดนฟ้าผ่าอีกครั้ง
สิทธิของผู้ถือหุ้นจริงๆ!!
เด็กดี ช่วงนี้ทั้งบริษัทต่างกำลังหาสิ่งนี้ จนตื่นตระหนกกันไปหมดแล้ว สุดท้าย ดันอยู่ในมือเธอได้
“สมเดชนั่นมาให้ฉัน วันนั้น เขามาหาฉันกับน้องชายเธอ แต่ว่า น้องชายเธอไม่เอาไป จากนั้นเขาเลยยัดใส่ฉัน”
เส้นหมี่อธิบายสั้นๆ
แสงดาวจึงค่อยๆ แยกแยะเรื่องนี้
จากนั้น ในใจเธอก็เกิดคลื่นลูกใหญ่!
“แล้วที่เธอพูดว่าเก็บไว้เมื่อกี๊คืออะไร?ให้คนอื่นซื้อสิทธิของผู้ถือหุ้นนี้ไปหรือ?นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ สิทธิของผู้ถือหุ้นบริษัทไม่ได้จะขายได้ตามชอบ”
“ตอนนี้ยังเป็นพ่อเธอที่พูดอะไรก็ว่าตามนั้นไม่ใช่หรือ?ให้เขาตกลงก็พอแล้ว”
“……”
แสงดาวเงียบไปแป๊บหนึ่ง ยอมรับว่าผู้หญิงคนนี้พูดถูก
งั้นต่อไปล่ะ?ให้ใครไปซื้อ?นี่เป็น 20% ของหุ้นหิรัญชากรุ๊ป หิรัญชากรุ๊ปเป็นบริษัทประเภทไหนกัน?เป็นบริษัทใหญ่ที่ลงทุนมากถึงหลายแสนล้าน
20% นั่นเป็นจำนวนหลายหมื่นล้านเลย
ทั้งสองซึมทำอะไรไม่ถูก
“เธอว่าน้องชายฉันมีเงินนี้ไหม?เขามีอำนาจมาตั้งหลายปี”
“พอเถอะ เขาไม่มีเงินสักบาท ตอนนี้ไม่ว่าจะกินจะดื่มก็เป็นฉันที่ออก”เส้นหมี่พูดอย่างเซ็งๆ
“แค่กๆๆๆ……”
แสงดาวสำลักกาแฟทั้งหมด……
สุดท้ายผู้หญิงสองคนนี้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่กลับไปก่อน
เส้นหมี่ก็กลับตระกูลวชิรนันท์ และเพื่อไม่ให้แสนรักกังวลหลังจากรู้เรื่องนี้ ระหว่างทางที่เธอกลับ ก็ตั้งใจกำชับปอร์เช่น้องชายเธอ ไม่ให้เขาพูดเรื่องนี้
ปอร์เช่แสดงออกว่าตัวเองจำได้
จากนั้น สองพี่น้องก็กลับบ้านไปด้วยกัน
ใกล้ค่ำ หลังจากพระอาทิตย์ตกดิน ลานบ้านที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแบบโบราณ ผนังสีขาวหลังคาสีดำ ต้นไม้กิ่งไม้ที่เคลื่อนไหว มองไปแล้ว ถึงแม้จะรู้สึกเก่าไปหน่อย แต่ทำให้คนรู้สึกอุ่นใจแปลกๆ
“รินจัง คุณชายคิวชินชิน หม่ามี๊กลับมาแล้ว”