ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 596 ในบ้านมีภรรยาโง่อยู่คนหนึ่งทำยังไงดี?
เส้นหมี่นิ่งไปสักพัก ถึงได้รู้สึกตัว
“ไม่……ไม่มีอะไร ฉันกำลังคิดว่า พี่สาวเธอ……เป็นไปได้ไหมว่าต่อจากนี้จะไม่สนใจฉันแล้ว วันนี้ตอนเที่ยงเธอโทรศัพท์มา ด่าฉันหนึ่งดอก”
เธอในตอนนี้โกหกเก่งมาก
แสนรักไม่ได้สงสัยแม้แต่น้อย เขาหยิบตะเกียบของเธอออกมา แล้วตักซุปให้เธอหนึ่งถ้วย
“ไม่หรอก เธอโง่กว่าเธออีก อาฆาตก็อาฆาตได้ไม่นานหรอก”
“……”
เขาพูดอะไรกัน?
ต้องอ้อมค้อมไปตั้งไกลเพื่อจะมาเสียดสีเธองั้นเหรอ?
เส้นหมี่รอเขาอยู่อย่างชิงชัง ผ่านไปสักพัก จึงถามออกมาอย่างขุ่นเคือง:“งั้น……คุณกับม็อกโกคนนั้น มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกคุณหรือเปล่า”
“คุณคิดว่ายังไงล่ะ”
ชายหนุ่มที่ทานข้าวเสร็จแล้ว ใช้ผ้าเช็ดปากเช็ดมืออย่างช้าๆอย่างไม่เดือดร้อนอะไร อีกทั้งมองมาที่เธออย่างมีความนัยบางอย่างแอบแฝง
ทันใดภายในใจของเส้นหมี่เต้นอย่างระส่ำระสาย เหมือนทำเรื่องไม่ดีแล้วถูกจับได้ ทันใดความหวาดผวาก็ออกมาจากร่างกายของเธอ
“ทำไมถึงฉันรู้สึกว่า นี่เป็นเรื่องของคุณล่ะ”
“ใช่น่ะสิ แต่ว่า คุณพูดว่าไม่อยากให้ผมกับเขาใกล้ชิดกันมากนักไม่ใช่หรือ งั้นตอนนี้ผมถามคุณหน่อย ต้องตัดขาดความสัมพันธ์กับเขาไปเลยหรือเปล่า”
แสนรักถามออกมาอย่างจริงจังหนึ่งประโยค
เวลานี้ เส้นหมี่เบิกตาออกมาอย่างอึ้งไป
เหมือนกับคนโง่ที่มองมาที่เขาตั้งนาน จึงได้ยินตัวเองถามออกมาหนึ่งประโยค:“ฉันพูดแล้วคุณจะเชื่อฟังงั้นเหรอ”
“แน่นอน”
ชายหนุ่มพยักหน้าเบาๆ สีหน้า มองดูแล้วไม่เหมือนกับกำลังล้อเล่นอยู่
เส้นหมี่กลืนน้ำลายลงไปหนึ่งอึก
ผ่านไปสักพัก หลังจากนั้นเธอมองไปที่เขาอย่างระมัดระวัง ในที่สุด เธอกัดฟัน:“ใช่! ฉันคิดว่าระวังเอาไว้ดีกว่า”
แสนรักอยากจะหัวเราะออกมา:“จะว่ายังไงดีล่ะ ผมคิดว่าเขาในสายตาของคุณนั้น คงดูโหดร้ายทารุณยังไงอย่างงั้น”
“หรือว่าไม่ใช่อย่างนั้นเหรอ พี่ชาย เรื่องเรื่องนี้ฉันรู้สึกว่า……กันเอาไว้ดีกว่าแก้ที่หลังจะดีกว่านะ โดยเฉพาะเนติคนเจ้าเล่ห์แบบนั้น ใครจะไปรู้ว่าในใจของเธอกำลังคิดอะไรอยู่ พวกเราระวังเอาไว้จะดีกว่านะ”
“แน่นอนอยู่แล้ว ถ้าคุณไม่อยากให้ความสัมพันธ์แตกหักกับเขาจริงๆละก็ งั้นพวกคุณ……รอให้จัดการซาจากับเนติให้เรียบร้อยเสียก่อน ค่อยคืนดีกันก็ได้”
เธอกลัวว่าเขาจะโมโห ดวงตาทั้งสองข้างน้ำตาพรั่งพรูหยดออกมาแล้วกะพริบตาอย่างระมัดระวัง ประโยคสุดท้ายเหมือนคำพูดของเด็กน้อยที่พูดออกมา
“หึ——”
ขมับของเส้นรักปวดตุบๆขึ้นมา
เด็กโง่คนนี้!
เขาส่ายหน้าไปมาอย่างเหนื่อยใจ
ความจริงแล้วเขาไม่เชื่อคำพูดของเธอสักนิด
แต่ว่า เธออยากจะให้เขาทำแบบนั้น งั้นช่วงนี้เขาก็จะไม่ติดต่อกับม็อกโกก็แค่นั้น เพราะว่า เขารู้ว่า ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรมั่วซั่วมากมาย
ท้ายที่สุดแล้วเธอไม่มีทางทำร้ายเขา
ตั้งแต่แรกจนท้ายที่สุดก็ไม่มีทาง!
หลังจากที่ทั้งสองทานข้าวเสร็จแล้วก็พักผ่อนสักหน่อย ตอนบ่ายก็ทำงานต่อ
แสนรักก็ยังคงยุ่งอยู่กับงานในบริษัท
แต่หลังจากที่เส้นหมี่มาถึงที่แผนก สิ่งแรกคือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความไปให้กับเนติ
【เส้นหมี่:ไปสืบมาแล้ว คดีความกำลังจะสิ้นสุดแล้ว คุณวางใจได้ ไม่ต้องจ่ายค่าราคาอะไรมากมายหรอก อย่างมากก็แค่ให้พวกคุณเอาหุ้นส่วนของหิรัญชากรุ๊ปคืนมา แล้วก็จ่ายค่าเสียหายแค่นั้นเอง】
เธอปกปิดเรื่องที่ผู้รับผิดชอบจะต้องรับโทษ จุดประสงค์ แน่นอนว่าเพื่อไม่อยากทำให้ผู้หญิงคนนี้เดือดดาลขึ้นมา
แต่ว่า เธอไม่รู้เลยว่า ความจริงแล้วตอนที่เธอโทรศัพท์ไปหาฝ่ายกฎหมายของบริษัทนั้น เนติที่อยู่ไกลถึงญี่ปุ่น เธอได้รู้สถานการณ์เรื่องคดีความตั้งนานแล้ว
“คุณหญิง ดังนั้น เส้นหมี่คนนี้โกหกคุณอย่างนั้นหรือคะ”
“พูดโกหก นั่นเป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือ ในมือของฉันยังมีความลับของเธออยู่ ถ้าเธอทำให้ฉันโมโหขึ้นมาล่ะก็ คงจะรู้ผลที่ตามมา”
เนติไม่ได้แปลกใจแม้แต่น้อย
คุณแม่บ้านได้ฟัง ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ
ทั้งที่รู้ว่าหญิงสาวคนนี้ไม่มีทางพูดความจริง? งั้นทำไมยังให้เธอไปทำเรื่องแบบนี้? อากิโกะ นากาจิมะก็อยู่ที่นั่น ทำเรื่องแบบนี้จะทำได้ดีกว่าไม่ใช่เหรอ?
“คุณหญิง งั้นที่ทำแบบนี้หมายความว่า……?”
“แน่นอนว่าฉันหาเหตุผลที่จะเข้าหาเธอได้อีกครั้งน่ะสิ ไม่งั้น ฉันจะเข้าหาเธอได้อย่างไร ฉันเป็นคนที่’พูดคำไหนคำนั้น’ ฮ่าๆๆๆๆ”
ผู้หญิงที่กำลังตัดแต่งกิ่งดอกไม้อยู่ในสวน อารมณ์ดีจนหัวเราออกมา แม้แต่ใบหน้า ยังหัวเราะออกมาจนบิดเบี้ยวไป
คำไหนคำนั้น?
คุณแม่บ้านได้เห็นฉากฉากนี้ ภายในใจรู้สึกตันขึ้นมา
ดังนั้น จุดประสงค์ที่แท้จริงของเธอ ก็เพื่อให้เด็กสาวคนนี้พูดโกหกเธอ
เพราะว่า เพียงแค่เธอโกหก คุณหญิงคนนี้ก็มีข้ออ้างว่าเธอโกหก หิรัญชากรุ๊ปไม่เพียงแค่ให้บริษัทจ่ายค่าเสียหายเท่านั้น ยังให้ลูกชายของเธอจำคุก เธอไม่พอใจอย่างมาก โมโหอย่างมาก
หลังจากนั้น ค่อยควบคุมหญิงสาวคนนั้น ก็มีเหตุและผลเพียงพอในการกระทำสิ่งต่างๆ
ผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่น่ากลัวขนาดไหนกันแน่ อุบายล้ำลึกถึงขนาดนี้ และก็โหดเหี้ยมได้ถึงขนาดนี้
“ใช่สิ รูปภาพล่ะ มีหรือเปล่า”
“มีค่ะ”
คุณแม่บ้านเอารูปที่ได้รับส่งมา
นี่คือรูปของเส้นหมี่สองรูปเป็นรูปในชีวิตประจำวัน เพียงแต่ ครั้งนี้ เธอที่อยู่ในนั้นมีเนื้อหาอย่างมากมาย
ยกตัวอย่างเช่นรูปที่หนึ่ง เธอกับพนักงานในแผนกกำลังพูดคุยถกเถียงเรื่องการทำงาน หน้าตาสะอาดหมดจด เป็นมืออาชีพอีกทั้งยังไม่สูญเสียความงดงามแม้จะอยู่ในชุดทำงาน มองไปแวบเดียว ก็เห็นถึงลักษณะท่าทางของผู้ความเป็นผู้นำที่กล้าหาญ แต่ก็ไม่ได้ขาดความสง่าและความมีเสน่ห์ของหญิงสาว
ใครได้เห็นก็คงใจเต้นเป็นธรรมดา
แต่รูปที่สอง นั้นยิ่งเพิ่มความเสียดแทง
เพราะว่า นั่นเป็นรูปที่เส้นหมี่กับแสนรักอยู่ด้วยกัน
ทั้งสองอยู่ในบริษัท เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกติฉินนินทา ความจริงแล้วน้อยมากที่จะแสดงความรักในที่สาธารณะ ไม่งั้นเส้นหมี่ก็จะไปที่ออฟฟิศของท่านประธาน