แสนรักหักนิ้วของเขา
ผู้หญิงคนนี้ไม่ทำให้เขาผิดหวังจริงๆ เพียงแค่จะสู้ เธอก็กลับมาโหดร้ายและมีพิษ
“แล้วตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้าง”
“ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลแล้ว ผมคิดว่ามันเป็นยาชนิดใหม่ เกรงว่าโรงพยาบาลปกติจะไม่สามารถช่วยชีวิตได้” ดลธีพูดอีกครั้งทางโทรศัพท์ด้วยความกังวล
เมื่อพัสดุถูกเปิดออก มันจะเกิดปฏิกิริยาออกซิไดซ์ทันที จากนั้นคนที่สูดดมก็จะโดนพิษ
นี่ต้องไม่ใช่ของธรรมดา มันเป็นสารเคมี และเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเคมี และเมื่อเกี่ยวข้องกับคนพวกนั้นก็ต้องทำยาพิษอย่างไม่ต้องสงสัย
อย่างแสงดาวเมื่อก่อนหน้านี้
เมื่อแสนรักได้ยิน ใบหน้าของเขามืดลง และกำลังจะลุกขึ้นไปโรงพยาบาลเกือบจะในทันที
แต่ทันใดนั้นสมองของเขาก็คิดอะไรบางอย่างได้ทำให้ร่างกายที่ยืนขึ้นก็หยุดลงทันที
“ประธาน”
“ไปดูก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วก็ไปติดต่อกับเจ้าของยารายใหญ่ที่ฉันรู้จักด้วย”
เขานั่งลงอีกครั้ง ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที สีหน้าของเขาก็กลับมาสงบ สั่งด้วยเสียงเบาๆ
ดลธีตกตะลึง
ไม่ใช่สิ พ่อตาเขาเป็นขนาดนี้แล้ว เขาไม่ไปดูหน่อยหรอ นี่มันเรื่องความเป็นความตายเลยนะ เขาทำแบบนี้ นายหญิงต้องเสียใจมากแน่
“ท่านประธาน ผมว่าเวลานี้คุณไปโรงพยาบาลหน่อยไหม เรื่องอื่น…เอาไว้ก่อน” ดลธีพยายามเกลี้ยกล่อมเขา
แน่นอนว่าเรื่องอื่นที่เขาพูดนั้นหมายถึงเรื่องของทั้งสองคน
แต่ทันทีที่เขาพูดจบ ปลายสายก็ราวกับว่าผ่านหน้าจอออกมาได้ ทำให้เขารู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกที่ส่งมาจากร่างของเขา
“พูดอะไร นี่ไม่ใช่แผนปกติที่ต้องทำหรอ จำไว้ อย่าบอกข้อมูลใดๆของฉันกับเธอ อย่าทำลายเรื่องของฉัน!”
ในประโยคสุดท้ายน้ำเสียงของเขาค่อนข้างเข้ม
เมื่อดลธีได้ยิน เขาก็ขนลุก ไม่กล้าพูดอะไรอีก แล้วจึงรีบวางสายไป
นี่เป็นสถานการณ์ที่สิ้นหวังจริงๆ!
เมื่อดลธีมาถึงโรงพยาบาลก็เที่ยงแล้ว เขารีบไปที่แผนกฉุกเฉิน และเห็นหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่นอกห้องผู้ป่วยด้วยความตื่นตระหนก
“นายหญิง”
“หืม”
เส้นหมี่ที่กำลังเหม่อลอยได้ยินก็เงยหน้าขึ้นมอง
“หัวหน้าดลธี ประธานของคุณมาหรือเปล่า เขาอยู่ที่ไหน”
เธอเห็นเขาชัดเจน ทันใดนั้นเธอก็คว้าฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้ายไว้ราวกับปลาที่กำลังจะตาย และลุกขึ้นจากที่นั่งทันทีอย่างตื่นเต้น และมองไปข้างหลังเขา
แต่มันไม่มีใคร
ในทางเดินของแผนกฉุกเฉินตรงทางเข้า นอกจากหัวหน้าดลธีบอดี้การ์ดตระกูลหิรัญชาแล้วก็ไม่มีใครตามมาข้างหลังเขาอีก
“แล้วเขาล่ะ”
“ขออภัยครับนายหญิง ท่านประธานกำลังพบลูกค้าและอาจไม่ได้กลับมาเร็วๆนี้”
เขาอธิบายอย่างเย็นชา
เมื่อพูดจบเขาก็เห็นใบหน้าซีดของหญิงสาวที่อยู่ข้างหน้าซึ่งกลายเป็นไร้สีเลือดมากขึ้นเรื่อยๆ
“คุณพูดอะไร พบลูกค้าหรอ คุณบอกเขาไม่ชัดเจนหรอ ไม่ได้บอกเขาหรอว่าเกิดเรื่องกับพ่อของฉัน” เธอไม่เชื่อเลยถามซ้ำๆอย่างตระหนก
แต่คำตอบคือความเงียบของหัวหน้าเพียงอย่างเดียว
เส้นหมี่ “…”
ความผิดหวังและความโกรธครั้งใหญ่ผุดขึ้นจากก้นบึ้งของหัวใจ และด้วยความโกรธในที่สุดเธอก็เดินออกไป
“นายหญิงจะไปไหน”
“ฉันจะไปหาเขา จะถามว่าชีวิตกับงานอะไรสำคัญกว่ากันแน่ นี่คือพ่อตาของเขา เขาปฏิบัติต่อเขาแบบนี้หรอ เขายังมีความเป็นมนุษย์อยู่ไหม”
ผู้หญิงที่ถูกจับกำลังดิ้นรนอย่างรุนแรงด้วยความคลุ้มคลั่ง และตะคอกเสียงดังเหมือนคนบ้า
ที่จริงแล้วใครได้พบเรื่องแบบนี้ก็ไม่มีใครสามารถยอมรับได้
ดลธีทำได้เพียงจับเธอไว้แน่นเท่านั้น!
“นายหญิง ฟังผมนะ ไม่ใช่ท่านประธานไม่สนใจคุณ เขามาไม่ได้จริงๆ ไม่ต้องกังวล ผมได้ติดต่อคนมารักษาพ่อของคุณแล้ว พวกเขาสามารถช่วยเขาได้อย่างแน่นอน”
“ไร้สาระ! ฉันจะต้องการนายไปทำไม ฉันต้องการเขา!!”
เส้นหมี่ผู้ซึ่งเสียสติไปแล้วยังคงคำรามอยู่
ดลธี “…”
ไม่มีทางไหนได้อีก เขาทำได้แค่เคาะที่ท้ายทอยของเธอ และในที่สุดผู้หญิงคนนั้นก็สงบลงในมือของเขา
นายหญิง อย่าโทษผมเลย มันทำอะไรไม่ได้จริงๆ
ดลธีพาเธอกลับไป
ในแผนกฉุกเฉิน หมอพวกนั้นตื่นกลัวมาตั้งนานแล้ว เมื่อเห็นเขาพาเธอกลับมา พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะเดินหน้าต่อไปจนกระทั่งดลธีจะพาเธอเข้าไปในห้องผู้ป่วย
“ผมถามพวกคุณว่าตอนนี้พ่อของเธอเป็นยังไงบ้าง”
“พ่อของเธอถูกวางยาพิษ ตอนเข้ามา เพราะเธอเป็นหมอเองจึงทำการฝังเพื่อไม่ให้พิษในร่างกายแพร่กระจาย มันไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิตในขณะนี้ แต่เรายังไม่รู้ว่าต้นตอของพิษนั้นคืออะไร ยังคงทดสอบอยู่”
หมออธิบายสถานการณ์ปัจจุบันของดิลกอย่างตรงไปตรงมา
ตรวจเจอสิถึงจะแปลก!
ดลธีไม่ได้บอกความจริงกับพวกเขา เขาแค่ไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “แบ่งตัวอย่างให้ผมได้ไหม ผมมีเพื่อนที่ดูเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน”
“แน่นอน!”
หมอกำลังหมดหนทาง แต่เมื่อพวกเขาได้ยินเรื่องนี้ ก็มีคนไปเอามาทันที