เวลานี้เส้นหมี่ก็ส่งข้อความให้กับชายหนุ่มอยู่ที่ในค่ายทหาร
อีกทั้งสิ่งที่เกินไปคือ เธอได้เห็นในวีแชทกลุ่มชั้นเรียน ผู้ปกครองเหล่านั้นกำลังพูดถึงเรื่องนี้อีก
【เส้นหมี่:สามี คุณดูสิคุณดูสิ นี่มันโรงเรียนอะไรกัน?คนเหล่านี้ กำลังพูดอะไรกันเนี่ย?นี่มันใช่เรื่องไหม?】
เธอส่งข้อความผ่านวีแชทออกไป ทันใด แคปหน้าจอบันทึกการพูดคุยในกลุ่มชั้นเรียน ส่งไปให้เขาด้วย
—-กลุ่มชั้นเรียนห้องสี่
「แม่ของฮาตะ:พ่อชา ลูกของคุณไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม?ได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลหรือเปล่า?」
「แม่ของยุ้ย:ใช่ จนขนาดนี้แล้ว ทำไมผู้ปกครองของสองแฝดนั้นไม่พูดอะไรออกมาเลย?พึ่งจะมาก็ตีคนอื่นขนาดนี้แล้ว งั้นต่อไปพวกเด็กๆจะมีอันตรายหรือเปล่า?」
「พ่อของโจโจ้:สั่นอย่างหวาดกลัว……」
「พ่อของโจโจ้:นี่สรุปแล้วเบื้องหลังมีอะไรอยู่กันแน่?ทำไมถึงได้ย้ายมาที่โรงเรียนของพวกเราอย่างกะทันหัน?」
「แม่ของยุ้ย:เหมือนกับว่าจะย้ายมาจากคิวเอสวาย」
คิวเอสวาย?
ชื่อสถานที่นี้พูดออกมา ทันใดนั้น ในกลุ่มนี้ก็แทบจะระเบิด บางคนที่ปกติอ่านอย่างเดียวก็ยังออกมาแสดงความคิดเห็นแล้ว
เพราะว่า คนของคิวเอสวาย ถึงแม้ว่าจะเป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดของเมืองหลวง แต่ว่า รับเพียงนักเรียนที่มีคะแนนดี งั้นก็แสดงว่านักเรียนที่อยู่ที่นั่น ไม่ใช่ว่าต่างจะเป็นคนร่ำรวย
เส้นหมี่เห็นกับตาตัวเองว่าผู้ปกครองเหล่านี้ต่างดูถูกและเหยียดหยาม หลังจากแคปหน้าจอไป ในอกของเธอยิ่งโมโหขึ้นมาแล้ว
【เส้นหมี่:คุณเห็นหรือยัง?นี่ผู้ปกครองเหล่านี้ต่างมีความคิดเลิศล้ำอะไรขนาดนี้?】
【สามีที่รัก:นี่จะแปลกอะไรล่ะ?เดิมพวกเขาเหล่านี้ต่างก็เป็นคนมีหน้ามีตาของที่นี่】
【เส้นหมี่:คุณพูดอะไร?】
เธอมองข้อความที่ตอบกลับมาอย่างมึนงง จนนิ่งไปแล้ว
เป็นคนมีหน้ามีตา?
งั้นโรงเรียนแห่งนี้……
【สามีที่รัก:คิวเอสวายเป็นโรงเรียนพลเรือน แต่การรับสมัครเข้มงวด พวกคนเหล่านี้มีอำนาจคับฟ้า ลูกที่เกิดมาต่างเป็นกากเดนสังคม นอกจากที่นี่แล้ว ยังจะสามารถไปที่ไหนได้อีก?】
【เส้นหมี่:งั้นโรงเรียนแห่งนี้ไม่ใช่ว่ายิ่งแย่เหรอ?ต่างเป็นลูกของท่านขุนมูลนาย】
【สามีที่รัก:แย่อะไรล่ะ?ลูกคุณไม่ใช่ลูกท่านขุนมูลนาย?】
【เส้นหมี่:……】
ทันใดนั้น เธอมองไม่ที่คำไม่กี่คำนี้ แม้แต่คำเดียวก็ตอบกลับไปไม่ได้
ไม่ ไม่ใช่ลูก แต่เป็นเหลน!
แต่นี่ไม่ใช่จุดสำคัญ จุดสำคัญคือ เขายอมรับแล้วว่าเขาเป็นลูกหลานของท่านขุนมูลนาย
แล้วก็คำพูดของเขาอันนี้หมายความว่าอย่างไร? ทั้งที่ก็รู้ว่าสถานที่แห่งนั้นเป็นจุดศูนย์รวมของลูกท่านขุนมูลนาย ทำไมยังส่งลูกๆไปที่นั่น? เขาไม่กลัวว่าลักษณะนิสัยกับปัญญาของเจ้าเด็กจอมซนสองคนนั้น จะทำเอาที่นั่นยุ่งเหยิงวุ่นวายไปหมดหรือ?
ยกตัวอย่างเช่นวันนี้ ก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว
เส้นหมี่ยิ่งไม่สบายใจแล้ว
【เส้นหมี่:สามี คุณมีแผนการอะไรอีกหรือเหล่า?】
【สามีที่รัก:ไม่มี】
【เส้นหมี่:……】
พูดไม่ออกอีกครั้ง
เนิ่นนาน ในตอนที่เธอจะวางโทรศัพท์ไป ชายหนุ่มด้านนี้ ทันใดก็ส่งข้อความเสียงมา
【สามีที่รัก:เรื่องแบบนี้ ต่อไปให้รองผู้นำเดชาไปจัดการ คุณอยู่บ้านจัดการทำความสะอาดสักหน่อย อีกไม่กี่วันผมก็จะกลับมาแล้ว】
ทันใดนั้น เขาก็พูดถึงสิ่งนี้
อีกไม่กี่วันก็กลับมาแล้ว?
เส้นหมี่ได้ยินน้ำเสียงสุขุมและแสนดึงดูดอันนี้ ทันใดนั้น เธอต่างลืมทุกอย่างไปแล้ว ทั้งร่างมีความสุขมากจนแทบจะจับทิศทางไม่เจอแล้ว
【เส้นหมี่:ได้ค่ะ สามี ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ】
หลังจากนั้นทิ้งโทรศัพท์ วิ่งไปเก็บกวาดชั้นสามอย่างอารมณ์ดี
ทว่าทางด้านแสนรัก ได้เห็นข้อความอันนั้นส่งมาในโทรศัพท์ ก็วางใจลงได้ หลังจากนั้นก็หันหลังกลับไปฝึกต่อแล้ว
เขากำลังเดินเกมหมากรุกกระดานถัดไป อีกทั้งยังเป็นกระดานหมากใหญ่เสียด้วย
แต่ว่าเขาไม่อยากชักโยงเธอเข้ามาด้วย
แม้แต่ตาแก่คนนั้น ก็คงจะมองไม่เข้าใจ
โรงเรียนอันดับหนึ่งของเมืองหลวงดีๆมีไม่เข้า กลับไปรับกรรมเข้าโรงเรียนที่ไม่ขาวสะอาดแบบนั้น ไชยันต์มองไม่เข้าใจจริงๆ
จนหลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ ทันใดมีคนมาบอกเขา โรงเรียนแห่งนี้มีคนมากมายเริ่มย้ายออกไป โดยเฉพาะเหล่าคนที่พ่อแม่มีตำแหน่งใหญ่ ภายในเวลาสั้นๆไม่กี่วัน ก็ทำเรื่องย้ายโรงเรียนให้ลูกของพวกเขาเรียบร้อยแล้ว
ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้?
เขามองไปยังรองผู้นำที่รับผิดชอบรับ-ส่งทุกวัน:“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
รองผู้นำเดชาเหงื่อซึมเต็มศีรษะ:“หลายวันมานี้คุณหนูพวกเขาเรียนอยู่ที่นั่น มีเรื่องต่อยตีแทบทุกวัน ทำเอาคนอื่น……ถูกตีจนหนีหมดไปแล้ว”
“ถูกตีหนีแล้ว?”ไชยันต์ยากที่จะเชื่อมาก “ทำไมพวกเขาต้องตีเขา? ไม่ใช่ว่าพวกเราเป็นเด็กดีมาโดยตลอดเหรอ?”
“ใช่ ตอนแรกก็เป็นเด็กดี แต่ว่าต่อมา หลังจากเรื่องที่เจ้าเด็กสองคนนั้นอยู่ที่คิวเอสวายแพร่กระจายออกมาแล้ว ผู้คนมากมายต่างหัวเราะเยาะพวกเขา ยังแย่งของของพวกเขา หลังจากนั้นคุณหนูจึงมีเรื่องต่อยตีกับพวกเขาขึ้นมาแล้ว”
“……”
“ดังนั้น ถูกพวกเขาตีจนหนี?”
“เฮอ……”
เดิมทีรองผู้นำเดชาก็ไม่กล้าพูด เหตุผลที่พวกคนเหล่านี้ย้ายออกไป ส่วนใหญ่เป็นเพราะว่า หลังจากพวกคนเหล่านั้นถูกเจ้าเด็กทั้งสองจัดการเรียบร้อย แล้วรู้ว่าพวกเขาเป็นเหลนน้อยของตระกูลเทวเทพ
หลังจากนั้น ตกใจหนีไปหมดแล้ว
คนตระกูลเทวเทพ หลายปีแล้ว อยู่ที่เมืองหลวง ใครเคยเห็นลูกหลานของพวกเขาถูกส่งมายังสถานที่แบบนี้?
ลูกหลานตระกูลเทวเทพ แน่นอนว่าวาสนามากมี อมไว้ในปากยังกลัวว่าจะละลาย กุมไว้ในมือก็เกรงว่าจะหล่นแตก ด้วยสถานะแบบนี้ พวกเขาจะมาเรียนอยู่ในสถานที่แบบนี้ได้อย่างไร?
ดังนั้น อธิบายได้อย่างเดียว ตระกูลเทวเทพส่งพวกเขามาอย่างกะทันหัน แน่นอนว่าต้องมีจุดประสงค์อื่น
ทว่าจุดประสงค์นี้ จึงทำให้พวกเขานึกถึงเมื่อไม่นานมานี้พวกเขาพึ่งจะฉีกหน้าตระกูลประจักรสิน
นี่น่ากลัวจริงๆ!
ใครจะยินยอมออกหน้าก่อน? อีกทั้งไม่แน่ก็ถูกเล็งเอาไว้แล้ว
จากนั้นคืนนี้ หลายคนจึงถูกคนในครอบครัวลากหนีไปแล้ว หลังจากไวท์ พาเลซได้รับข่าวนี้ คณะรัฐมนตรีเกินกว่าครึ่ง ต่างไม่อยู่ที่เมืองหลวงแล้ว
“ไชยันต์!!”
ประพิศตะโกนออกมาอย่างโมโหเป็นที่สุด ยื่นมือออกพังสิ่งที่อยู่บนโต๊ะลง