ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 987 คุณแสงดาว ฉันทำได้…
ไม่นานก็มีข้อความตอบกลับมา
【แสงดาว:พี่อยู่ที่เมืองเอก】
【เส้นหมี่:อะไรนะ? พี่ไปทำอะไรที่เมืองเอก? เมื่อวานเราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าพี่จะมารับพวกเรา? ฉันไม่เจอพี่เลย】
เส้นหมี่รู้สึกสับสน
เพราะว่าเมื่อวานหล่อนได้ติดต่อมาหาเธอ ตอนนั้นเธอยังจำได้ว่าหลังจากที่หล่อนได้ยินว่าพวกเขาจะกลับมา ผู้หญิงคนนี้ก็รีบรับปากทันที่ว่าจะเป็นคนมารับพวกเขาเอง
ตอนนี้ไม่มารับไม่ว่า
แต่ทำไมต้องไปที่เมืองเอกด้วยล่ะ?
【เส้นหมี่:พี่ไปทำอะไรที่เมืองเอก?】
【แสงดาว:ไม่ได้มาทำอะไร มีคนไปรับพวกเธอตั้งเยอะแยะไม่ใช่เหรอ? พี่จะไปรับหรือไม่ไปรับก็ไม่ต่างกัน?】
【เส้นหมี่:คนเยอะที่ไหนกัน? มีแค่น้องชายของพี่กับดลธีเท่านั้น พี่ก็รู้ว่าฉันมีลูกอีกสามคนและไหนจะกระเป๋าเดินทางอีก ผู้ชายแค่สองคนจะยกไหวได้ยังไง?
เส้นหมี่อธิบายอย่างร้อนรน คำพูดที่ออกมามีแค่แสนรักกับดลธีเท่านั้น
กดส่งข้อความแล้ว
หลังจากนั้นโทรศัพท์ก็ไม่ได้รับข้อความอีกเลยเป็นเวลานาน ราวกับว่าผู้หญิงคนนี้ได้หายตัวไปอย่างไรอย่างนั้น
โธ่ ช่างเหอะ
ยังไงหล่อนก็เป็นคนแบบนั้นอยู่แล้ว ชอบทำตามอำเภอใจและรักอิสระจนติดเป็นนิสัย
เมื่อเส้นหมี่คิดอย่างนั้นก็เก็บโทรศัพท์
แต่เธอไม่รู้ว่า ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในเซ็นทรัลแสคว์ที่เมืองเอก แสงดาววางโทรศัพท์ไว้ข้างๆตัวหล่อนนั้น ใบหน้าของหล่อนชาเหมือนถูกน้ำแข็งฟาดหน้า
ใบหน้าที่สดใสก็หายไป
เหลือเพียงใบหน้าที่ซีดเซียว
“คุณแสงดาว เป็นอะไรรึเปล่า? สีหน้าของคุณดูไม่ดีเลยนะ”
เมื่อชายสวมเสื้อสูทที่นั่งอยู่ตรงหน้าเห็นว่าหล่อนเปลี่ยนไปจึงถามด้วยความห่วงใย
หน้าตาของผู้ชายคนนี้ไม่ได้ดูแย่
เขาเป็นคนสุภาพ ผิวพรรณขาวสะอาดและยังสวมแว่นตาอีกด้วย เมื่อมองใบหน้าเขาก็คล้ายกับคณาธิปมาก
แต่เขามีหนึ่งสิ่งที่ไม่เหมือนคือ ไม่ว่าจะเป็นท่านั่งหรือการแต่งตัวเขาก็ดูมีกาลเทศะ ราวกับถูกสั่งสอนเรื่องมารยาทมาเป็นอย่างดี
ลักษณะอย่างนี้คงเป็นมาตรฐานของลูกข้าราชการ
“ไม่เป็นอะไร”
แสงดาวเงียบไปสักพักและตอบเขาไปอย่างแผ่วเบา
ผู้ชายคนนี้ก็เผยรอยยิ้มออกมา
“ดีแล้ว ถ้าอย่างนั้นอีกสักครู่เราไปดูภาพยนตร์ด้วยกันไหม? เมื่อกี้ผมได้เช็ครอบภาพยนตร์แล้ว วันนี้มีภาพยนตร์ใหม่เข้าด้วย”
“ก็ได้”
แสงดาวตอบไปด้วยท่าทีที่เฉยเมย
หลังจากนั้น พวกเขาทั้งสองก็ออกจากร้านกาแฟและไปขึ้นรถรถมาเซราติที่จอดอยู่ข้างนอกเพื่อที่จะไปโรงภาพยนตร์
แต่ไหนแต่ไรหล่อนไม่ได้เป็นคนจมปลักอยู่กับความทุกข์ หล่อนเป็นคนตัดสินใจเด็ดขาด กระฉับกระเฉงและเป็นคนง่ายๆต่างหาก
และแสงดาวก็มาถึงโรงภาพยนตร์กับชายคนนี้
พูดตามจริงนะ แผนที่เมื่อคบกันแล้วพาไปดูภาพยนตร์ หล่อนคิดว่าไม่เหมาะกับหญิงที่มีอายุสามสิบกว่าอย่างหล่อนแล้ว
ดูสิ ป๊อปคอร์นหล่อนก็ไม่ชอบกิน
น้ำโค้กยิ่งทำให้หล่อนรู้สึกหน่อมแหน่ม
อย่างหล่อนต้องเหมาะกับไวน์!
หรือสุราที่หมักและฝังไว้ใต้ดินมาสิบๆปี
“คุณแสงดาว นี่คือป๊อปคอร์นของเธอ พวกเราดข้าไปกันเถอะ
“ค่ะ”
แสงดาวถือถังป๊อปคอร์นไซส์ใหญ่หนึ่งใบ และเดิมตามผู้ชายคนนี้ไปด้วยความชา
หาที่นั่งแล้วรีบนั่งลง ภาพยนตร์กำลังจะฉายแล้ว
MMPหรือหนังสยองขวัญ
“คุณแสงดาวเป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญนิดหน่อย ถ้าหากเธอดูแล้วกลัวไม่กล้าดูต่อ เธอก็มาซบไหล่ผมได้นะ”
ผู้ชายคนนี้พูดติดๆขัดๆอยู่ในความมืด
แต่แสงดาวไม่พูดอะไรเลย
หล่อนโยนป๊อปคอร์นหนึ่งชิ้นเข้าไปในปากของหล่อน เสียงเคี้ยวดัง“กร้วมๆ——”
10นาทีต่อมา เมื่อภาพยนตร์ฉายมาถึงจุดไคลแม็กซ์ภาพสยองขวัญก็ปรากฏขึ้น “อ้ากก”และเสียงกรี๊ดร้องก็ดังขึ้น
เขาซบลงบนไหล่ของแสงดาวด้วยความกลัว
“เอี๊ยดๆ”
หล่อนไม่ได้รู้สึกกลัวเลยในที่มืดนั้น แต่กลับกำป๊อปคอร์นยัดเข้าไปในปากของเธอ
ในขณะที่ดูภาพยนตร์ต่อไป ทันใดนั้นเขาที่ซบอยู่บนไหล่หล่อน ไม่รู้ว่าเป็นอะไรอยู่ดีๆก็เงยหน้าขึ้นมองแสงดาว
“ดาว……”
“มีอะไรรึเปล่า?”
มือที่ยัดป๊อปคอร์นเข้าไปในปากก็นิ่งค้างอยู่อย่างนั้นแสงดาวหันไปแล้วมองผู้ชายคนนี้ในความมืดด้วยความตกตะลึง
น้อยคนนักที่เรียกชื่อหล่อนแบบนี้
คนข้างนอกที่รู้จักหล่อนจะเรียกหล่อนว่าคุณหนูดาว
ส่วนคนที่สนิทและญาติของหล่อนจะเรียกชื่อและนามสกุลว่าแสงดาว ส่วนผู้หญิงแบบเส้นหมี่ก็จะเรียกแค่คำว่าพี่
แต่คำว่า“ดาว”นอกจากพ่อของหล่อนแล้ว
ก็ไม่มีใครเรียกชื่อนั้นอีกเลย
“ดาว ผม…ผมอยากจะพูดว่า คุณสวยมาก ผมโตมาขนาดนี้ยังไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนเหมือนคุณมาก่อนเลย คุณเป็นคนคนง่ายๆอิสระและทำตามอำเภอใจราวกับกุหลาบที่เร้าร้อน”
“……”
สมองของแสงดาวเหมือนตายไปชั่วขณะ
ไม่เคยมีใครชมว่าหล่อนสวยเลย
หลายปีมานี้เพราะการแต่งตัวที่ต่างจากคนอื่นๆของหล่อน จึงทำให้มีผู้คนมากมายด่าหล่อนว่าเป็นบ้า!
พูดว่าเป็นเด็กผู้หญิงอยู่ดีๆไม่ชอบ ชอบทำให้ตัวเองเหมือนครึ่งคนครึ่งผี วันๆเอาแต่แต่งหน้าสไตล์โกธิค และสวมชุดแปลกๆ
ไม่มีใครบอกว่าหล่อนเป็นคนปกติ
แต่ตอนนี้ชายที่เพิ่งเจอกันวันนี้กลับชมว่าหล่อนสวย
และยังพูดอีกว่าหล่อนเหมือนกุหลาบที่เร่าร้อน
แล้วแสงดาวก็นิ่งไม่ขยับเลย
“ดาว ผม…ผม…” ในความมืด เมื่อชายคนนี้เห็นว่าหล่อนไม่ขยับ ไม่ยินเพียงเสียงลมหายใจเข้าอย่างแรง แล้วเขาก็ยกศีรษะขึ้น
หลังจากนั้นก็ค่อยๆโน้มลงมาที่ริมฝีปากของแสงดาว