องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ บทที่ 338 เนรคุณ
“อวิ๋นอวิ๋น….”ซูมู่หรงหน้าเสีย กอบกุมที่ไหล่ทั้งสองของของฉีเฟยอวิ๋นแน่น
ฉีเฟยอวิ๋นเจ็บเจียนตาย แต่ทว่าเธอกลับมองซูมู่หรงโดยไม่พูดอะไร
เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไร แต่เธอรู้ได้ว่า เธอไม่ตาย แต่กำลังจะไปแล้ว
“ยา ……หีบยา….”
ฉีเฟยอวิ๋นมองหีบยาที่อยู่อีกด้าน เธอเตรียมตัวที่จะไปเวลานี้ เพราะฉะนั้นหีบยาต้องเอาไว้ข้างกาย
ซูมู่หรงชำเลืองมองแล้วรีบเอาให้เธอ
ฉีเฟยอวิ๋นกอดหีบยาไว้แล้วพูดว่า “หัวหน้า คุณเป็นหัวหน้าที่ดีของฉันตลอดไปนะคะ”
“ผมไม่อยากเป็นหัวหน้าของคุณ ผมอยากเป็นสามีของคุณ คุณเป็นของผม”ซูมู่หรงพูดด้วยดวงตาแดงก่ำ แต่เขาเก็บฉีเฟยอวิ๋นเอาไว้ไม่ได้ ฉีเฟยอวิ๋นที่อยู่ข้างกายเขาค่อยๆจางหายไป
ก่อนที่ฉีเฟยอวิ๋นจะไปเธอจ้องมองซูมู่หรง จนเงาของเขาหายวับไปจากสายตา
หนานกงเย่มาจวนเสนาบดีช้ามาก มู่เหมียนก็คิดไม่ถึงสี่ชั่วโมงแล้วหนานกงเย่ยังไม่มา และฉีเฟยอวิ๋นก็ไม่ตื่น
เมื่อคืนมู่เหมียนไม่ค่อยได้นอนพักผ่อนเท่าไหร่เลย วันนี้นางเลยง่วงนอน
พอสัปหงกเข้าหน่อยนางก็ผล็อยหลับไปเลย
เฉินอวิ๋นเอ๋อร์ใช้สายตาบอกเป็นนัยบางอย่างกับสาวใช้ข้างกาย สาวใช้รีบหมุนตัวออกไป เอาขวดเล็กๆใสๆมาส่งมอบให้กับเฉินอวิ๋นเอ๋อร์ เฉินอวิ๋นเอ๋อร์เปิดฝาออก ด้านในนั้นมีแมงป่องมีพิษสีดำอยู่
นางใช้ตั๋วเงินซื้อมันมาในราคาแพงหูฉี่ นางไม่เคยคิดที่จะเอามาทำร้ายคน แต่ตอนที่เฉินอวิ๋นเอ๋อร์ซื้อได้ยินฝ่ายตรงข้ามแนะนำสรรพคุณ ทันใดนั้นนางก็นึกถึงฉีเฟยอวิ๋น นางเลยซื้อมาหนึ่งตัว
แมงป่องร่าเริงเป็นอย่างมาก เฉินอวิ๋นเอ๋อร์เดินมาข้างกายฉีเฟยอวิ๋น พยายามหลีกเลี่ยงจากมู่เหมียนจวิ้นจู่อย่างสุดความสามารถ จากนั้นนำแมงป่องไปใส่บนตัวของฉีเฟยอวิ๋น ตอนที่แมงป่องหล่นลงไปแปลกประหลาดมาก มันตกใจเป็นอย่างมากราวกับว่าเจออะไรที่น่ากลัว จนลนลานมาอยู่บนตัวของเฉินอวิ๋นเอ๋อร์ เฉินอวิ๋นเอ๋อร์รีบปัดออกจากตัวเป็นพัลวัน
ชั่วประเดี๋ยวแมงป่องได้เอาหางปักลงบนมือของเฉินอวิ๋นเอ๋อร์ นางเจ็บจนร้องเสียงหลงออกมา ขวดแก้วที่อยู่ในมือก็ตกลงมาแตกกระจาย
มู่เหมียนตื่นตกใจจากความฝัน
เฉินอวิ๋นเอ๋อร์ร้องไห้คร่ำครวญ สาวใช้ร้องตกใจกล่าวว่า “คุณหนู คุณหนู”
สาวใช้ร้องเสียงดัง เฉินอวิ๋นเอ๋อร์โซเซนั่งลงบนพื้น ใบหน้าดำคล้ำ สายตาพร่ามัว ชั่วประเดี๋ยวก็ล้มพับลงบนพื้นไร้การตอบสนองแล้ว
สาวใช้ร้องไห้โฮเสียงดังลั่น มู่เหมียนมองเห็นแมงป่องเลยรีบหลบไปอยู่ที่หน้าประตู
พอดีกับที่หนานกงเย่เข้ามา เห็นเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าแล้วสีหน้าอึมครึม รีบเข้าไปดูฉีเฟยอวิ๋นแล้วกล่าวว่า “อวิ๋นอวิ๋น”
เวลานี้ฉีเฟยอวิ๋นยังไม่ฟื้นขึ้นมา มู่เหมียนเลยกล่าวว่า “เมื่อครู่ข้าหลับ พวกนางน่าจะอยากทำร้ายคน แต่แมงป่องได้กัดเฉินอวิ๋นเอ๋อร์เสียก่อน
พอดีกับที่ท่านเข้ามาพอดี”
หนานกงเย่มองมู่เหมียนที่กล่าวด้วยน้ำเสียงอรช้อนอ่อนช้อย เขาคุ้นชินนานแล้วเลยไม่ได้โตเถียงคิดเล็กคิดน้อยกับนาง
ก้าวสองสามก้าวเข้าไปดูฉีเฟยอวิ๋น แล้วอุ้มฉีเฟยอวิ๋นไว้ในอ้อมกอดไปนั่งลงอีกด้าน
“หากว่าอวิ๋นอวิ๋นเป็นอะไรไป ข้าจะทำลายจวนเสนาบดี”หนานกงเย่กำมือแน่นจ้องมองฉีเฟยอวิ๋น
แววตาของเขาอึมครึมมากขึ้น พอนึกถึงแมงป่องตัวเมื่อครู่นี้ก็โมโหขึ้นมาอีก
เสนาบดีเฉินกับฮูหยินเสนาบดีรีบเข้ามาดู มองเห็นฉีเฟยอวิ๋นสลบ ก็รีบเข้าไปทักทายหนานกงเย่ว่า
“ท่านอ๋องเย่”
“เฉินอวิ๋นเอ๋อร์ทำเรื่องเช่นนี้ ข้ารู้ตั้งนานแล้วว่านางเล่ห์เหลี่ยมจัด แต่ข้าเห็นแก่หน้าของจวนเสนาบดีของพวกท่าน จะไม่ตอบโต้กับนาง
คิดไม่ถึงเลยว่าพอเกิดเรื่องกับพระชายา นางจะใช้สัตว์มีพิษมาเพิ่มความรุนแรงขึ้นอีก”
เสนาบดีและฮูหยินตกใจจนสั่นสะท้านระริก วันนี้จวนเสนาบดีมีภัยเข้ามาใกล้ตัวแล้ว เป็นอย่างนี้ต่อไปเกรงว่าจะหลบเลี่ยงเรือนแตกสาแหรกขาดไม่ได้แล้ว
คิดไม่ถึงเลยว่าเฉินอวิ๋นเอ๋อร์จะทำเรื่องอย่างนี้อีก เสนาบดีเหงื่อไหลอาบ
ฮูหยินเสนาบดีก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว เลยรีบกล่าวว่า” ท่านอ๋องโปรดระงับความกริ้ว บุตรสาวผู้นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่กระทำผิด จวนเสนาบดีของข้าจะให้คำอธิบายแก่ท่านอ๋องอย่างแน่นอน”
หนานกงเย่สีหน้าอึมครึม เขาไม่อยากพูดอะไรมาก
หมอโจวเดินตามมา มองไปที่กระปุกน้ำเกลือของเฉินอวิ๋นเจี๋ยแล้วกล่าวว่า”ท่านอ๋อง ควรถอนเข็มแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“ถอนเถอะ”หนานกงเย่สั่ง หมอโจวเลยถอดเข็มออก
พอตรวจสอบบาดแผลของเฉินอวิ๋นเจี๋ย แล้วชะงักงันเล็กน้อย
หมอโจวส่ายศีรษะ แม้แต่พระชายายังรักษาไม่ได้ ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน
หมอโจวไม่กล้าจะกล่าวพูดอะไร หมุนตัวไปดูฉีเฟยอวิ๋น จากนั้นกล่าวว่า”ท่านอ๋อง กระหม่อมขอดูหน่อยนะพ่ะย่ะค่ะ”
หนานกงเย่พยักหน้า วันนี้เขาก็ไม่มีหนทางอื่นแล้ว
หมอโจวตรวจดูอาการของฉีเฟยอวิ๋น กล่าวด้วยความประหลาดใจว่า “ท่านอ๋อง ลองเรียกปลุกพระชายาตื่นไหมพ่ะย่ะค่ะ พระชายาคล้ายดั่งคนที่หลับอยู่พ่ะย่ะค่ะ”
หนานกงเย่ขมวดคิ้วกล่าวด้วยความฉงนว่า “ใช่หรือ?”
หนานกงเย่หลุบตามองคนที่อยู่ในอ้อมกอดจากนั้นเรียกเธอว่า”อวิ๋นอวิ๋น”
ฉีเฟยอวิ๋นขมวดคิ้ว เธอรู้สึกว่ามีของหนักเบียดกดเธออยู่ อึดอัดเป็นอย่างมาก
“ท่านอ๋อง”
ฉีเฟยอวิ๋นลืมตาช้าๆ ตรงหน้าเป็นใบหน้าอันหล่อเหลาของหนานกงเย่
หนานกงเย่จับที่ใบหน้าของฉีเฟยอวิ๋น แล้วก้มลงจูบเธอ
ฉีเฟยอวิ๋นเขินจนหน้าแดง แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะโอบกอดหนานกงเย่
“ท่านอ๋อง หม่อมฉันกลับไปแล้ว”ฉีเฟยอวิ๋นกลัวมากว่าจะไม่ได้กลับมาที่นี่ เธอกังวลใจเป็นอย่างมาก
หนานกงเย่กอดฉีเฟยอวิ๋นแน่น กล่าวว่า “ครั้งหน้าห้ามกลับไปอีกนะ”
หนานกงเย่รู้สึกได้ว่า ฉีเฟยอวิ๋นไม่ได้หลับไปอย่างไร้สาเหตุ
แต่เขาไม่อยากจะโวยวาย เขากลัวว่าเธอจะไม่กลับมา
ฉีเฟยอวิ๋นไม่ได้เป็นอะไรเลยลุกออกจากอ้อมกอดของหนานกงเย่ และกล่าวว่า”หม่อมฉันจะไปดูแม่ทัพน้อย ท่านอ๋องรอประเดี๋ยวเดียวนะ”
ฉีเฟยอวิ๋นมองหีบยาที่มู่เหมียนนำมา นั่นเป็นของเมื่อก่อน แต่ยังมีอีกหีบนั่นถึงจะถูกต้อง
ตอนนี้ฉีเฟยอวิ๋นเข้าใจแล้ว ที่จริงเธอกลับไปเพราะเธอมีสิ่งที่ต้องการ เลยอยากกลับไป
เปลี่ยนคำพูดคือ เมื่อเธอมีสิ่งที่ต้องการแล้วพยายามคิด เธอก็สามารถกลับไปได้แล้ว
ส่วนการกลับมา เธอยังหากฎเกณฑ์ไม่เจอ
เพราะสองครั้งล้วนไม่….บางทีอาจจะตายที่ด้านนั้น ทางด้านนี้เลยตื่นฟื้นมาได้
ฉีเฟยอวิ๋นไม่เข้าใจว่ารายละเอียดสรุปแล้วมันเป็นยังไง แต่เธอรู้สึกได้ว่า เธอมีร่างกายอยู่ทางด้านนี้ กลับมาก็จะง่ายหน่อย ถึงอย่างไรร่างกายก็สามารถรับวิญญาณที่กลับมาได้ แต่ทางด้านนั้นคล้ายกับว่าเธอกำลังหลับฝันเลย เพราะฉะนั้นเธอเลยไม่กล้ามั่นใจ ว่าสรุปแล้วเป็นเรื่องเดียวกัน
ฉีเฟยอวิ๋นตรวจดูอาการของเฉินอวิ๋นเจี๋ยก่อน จากนั้นฉีเฟยอวิ๋นเลยสั่งกำชับหมอโจวว่า “หมอโจว ท่านไปดูที่รถม้าหน่อยว่ายังมีหีบยาหรือไม่ ในหีบยานั้นข้าสามารถใช้มันได้”
“พ่ะย่ะค่ะ”
หมอโจวหมุนตัวเดินไป และฉีเฟยอวิ๋นหมุนตัวถึงได้พบว่าเสนาบดีและฮูหยินมีท่าทางแปลกอีกทั้งสาวใช้ยังร้องไห้หลั่งน้ำตาอยู่ด้านข้างด้วย บนพื้นยังมีเฉินอวิ๋นเอ๋อร์ที่นอนหน้าดำคล้ำอยู่
พอเห็นเฉินอวิ๋นเอ๋อร์เป็นอย่างนั้น ชัดเจนเลยว่านางได้รับพิษ
ฉีเฟยอวิ๋นเดินไปดูเฉินอวิ๋นเอ๋อร์ และเริ่มทำการจับแมะชีพจรให้กับเฉินอวิ๋นเอ๋อร์
แน่ใจแล้วว่าได้รับพิษ ฉีเฟยอวิ๋นเลยหยิบยาลูกกลอนออกมาแล้วยัดเข้าไปในปากของเฉินอวิ๋นเอ๋อร์
ริมฝีปากของเฉินอวิ๋นเอ๋อร์จากที่เป็นสีม่วงคล้ำค่อยๆจางลง ฉีเฟยอวิ๋นจับแขนของนางมา ใช้กริชขนาดเล็กกรีดที่ข้อมือของนางเล็กน้อย เลือดสีดำขลับไหลออกมาจากข้อมือของนาง เฉินอวิ๋นเอ๋อร์ถึงได้มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา
ลืมตาเบิกโพลงขึ้น เฉินอวิ๋นเอ๋อร์เห็นฉีเฟยอวิ๋น้ลยหัวเราะอย่างเยือกเย็นออกมาหนึ่งครั้ง
เฉินอวิ๋นเอ๋อร์ไม่ได้เตรียมป้องกันตัว ฝ่ามือของเฉินอวิ๋นเอ๋อร์เลยตบลงมา