อ๋องตวนหายใจอย่างร้อนรุ่ม และเอาทั้งสองมือกอดอวิ๋นหลัวฉวนไว้:“เลิกล้อเล่นได้แล้ว สองวันที่ผ่านมาไม่สบายอยู่ไม่ใช่หรือ?”
อ๋องตวนไม่มีอะไรจะพูดแล้ว เขาถูกทำให้ลุ่มหลง อวิ๋นหลัวฉวนต้องการจะไปเชิญคนเข้ามา
เพื่อที่จะเอาใจอ๋องตวน นางจึงให้ตงเอ๋อร์ไปเชิญนางโลมที่มีชื่อเสียงโด่งดังมา เพื่อสร้างความสับสนให้กับอ๋องตวน และทำให้อ๋องตวนเกลียดนาง แต่นางไม่รู้ว่าอ๋องตวนไม่ได้จัดการเรื่องเหล่านี้เลย เขาเพียงแค่ใช้ชีวิตอยู่แต่ในโลกของความฝัน อวิ๋นหลัวฉวนกลอกตามองไปที่อ๋องตวน และต้องการจะเอาขาลง แต่ถูกอ๋องตวนจับไว้ จากนั้นอ๋องตวนก็ผลักอวิ๋นหลัวฉวนลงไปที่เตียงและต้อนนางเข้ามุม
อวิ๋นหลัวฉวนยังคงประหม่าเล็กน้อย หัวใจของนางเต้นแรง!“ท่านอ๋อง……” อวิ๋นหลัวฉวนกล่าว หัวใจของอ๋องตวนกระปรี้กระเปร่า
อ๋องตวนก้มหน้าลงมองอวิ๋นหลัวฉวนอย่างใจจดใจจ่อ เขาต้องการนาง
“ฉวนเอ๋อร์ ข้าต้องการเจ้า”
“แต่หม่อมฉันเหนื่อยมากจริง ๆ!” อวิ๋นหลัวฉวนรู้สึกเขินอายเล็กน้อย หากยังเสแสร้งต่อไปคงจะไม่ได้ ทำอะไรไม่ถูกเลย เช่นนั้นนาง……รู้สึกละอายใจเล็กน้อย!อ๋องตวนก้มลงจูบอวิ๋นหลัวฉวน ในเวลานี้เขาก็ไม่คิดอะไรแล้ว และจำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น
อวิ๋นหลัวฉวนมีจุดประสงค์ที่เข้ามาใกล้ และไม่ได้คิดถึงจวินฉูฉู่ ทั้งสองเข้ากันได้ดีมาก
อ๋องตวนจูบหลายครั้งติดต่อกัน เขาบีบคางของอวิ๋นหลัวฉวน และเตรียมที่จะงัดปากของอวิ๋นหลัวฉวน ในขณะที่เขากำลังคิด……ปัง!จิ้งจอกหางสั้นตบหลังของอ๋องตวนไม่หนึ่งฝ่ามือ และตบให้อ๋องตวนปล่อยมือ
อ๋องตวนลุกขึ้นไปมองอวิ๋นหลัวฉวนก็ขึ้นไปด้วย จากนั้นจิ้งจอกหางสั้นก็เข้าไปในอ้อมแขนของอวิ๋นหลัวฉวนอย่างภาคภูมิใจ อวิ๋นหลัวฉวนลูบจิ้งจอกหางสั้น:“หม่อมฉันจะไปดูหน่อย ท่านอ๋อง รอหม่อมฉันหน่อยนะเพคะ กลับมาแล้วเราไปอาบน้ำด้วยกัน”
อวิ๋นหลัวฉวนรู้ว่าอ๋องตวนชอบอาบน้ำและชอบเล่นน้ำกันเป็นคู่ด้วย ดังนั้นนางจึงเอาอกเอาใจเขา
อ๋องตวนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ใบหน้าของเขาแดงก่ำ เขาสวมเสื้อคลุมและหยิบเสื้อคลุมมาหนึ่งตัว จากนั้นก็เดินตามออกไปด้วย เมื่อเดินออกมาข้างนอกแล้ว เขาก็เอาเสื้อคลุมมคลุมให้อวิ๋นหลัวฉวน และทั้งสองก็เดินไปที่เปิดประตูด้วยกัน
ฉีเฟยอวิ๋นอยู่ในรถม้า เมื่อเห็นจิ้งจอกหางสั้นออกมา ฉีเฟยอวิ๋นก็เปิดผ้าม่านบนรถม้า
หลังจากเปิดประตูแล้ว อวิ๋นหลัวฉวนก็เห็นฉีเฟยอวิ๋น และรีบขึ้นมาบนรถม้า ท่าทางของอ๋องตวนดูกังวล ราวกับว่าจะถูกแย่งชิงภรรยาไป เขากำลังจะตามขึ้นไปบนรถม้า แต่สุดท้ายก็ถูกจิ้งจอกหางสั้นและอาอวี่ขวางไว้
อ๋องตวนเกือบจะเตะอาอวี่ออกไป และเสียงของฉีเฟยอวิ๋นก็ดังขึ้นออกมาจากรถม้า:“ท่านอ๋องตวน หากพระองค์ทรงขึ้นมา หม่อมฉันก็คงต้องปฏิบัติตามมารยาทอันสมควร หากกลายเป็นหนึ่งศพสองชีวิตคงจะไม่ดีนัก”
“อะไรนะ?” อ๋องตวนตกตะลึง และยืนอยู่ข้างล่างรถม้าด้วยความงุนงง แม้แต่อวิ๋นหลัวฉวนก็ตกตะลึงเช่นกัน
ฉีเฟยอวิ๋นคว้าข้อมือของอวิ๋นหลัวฉวน และนางก็ไม่คิดว่าจะสังเกตเห็นว่าอวิ๋นหลัวฉวนตั้งครรภ์
แต่เพื่อให้แน่ใจ ฉีเฟยอวิ๋นจึงตรวจสอบอย่างละเอียด และพบว่าอวิ๋นหลัวฉวนกำลังตั้งครรภ์อยู่จริง ๆ
“เจ้ากำลังตั้งครรภ์!” ฉีเฟยอวิ๋นกล่าว อวิ๋นหลัวฉวนดีใจจนเกือบจะร้องไห้ออกมา และรู้สึกสับสนในใจ
นางต้องจะหย่า ทำไมถึงตั้งครรภภ์ได้?นางก้มลงมองและหัวใจจะวาย นางรู้สึกว่าเด็กคนนี้น่าสงสารมาก
ท่านพ่อของนางไม่ชอบเขา!ฉีเฟยอวิ๋นดึงอวิ๋นหลัวฉวน:“ข้ามีธุระเลยมาหาเจ้า”
อวิ๋นหลัวฉวนไม่กล้าละเลยและฟังอย่างตั้งใจ หลังจากที่ได้แล้วก็โกรธมาก และต่อว่า:“พวกหัวมังกุท้ายมังกรที่ไร้ประโยชน์พวกนี้ ราชสำนักกลับเลี้ยงพวกเขาไว้ ในตอนนี้ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง พวกเขาเอาแต่มุดหัวอยู่ในกระดอง ปกติแล้วเห็นพวกเขาร้องตะโกนว่าจงรักภักดียิ่งมากกว่าใคร ๆ”
อ๋องตวนขมวดคิ้ว:“ฉวนเอ๋อร์!” อ๋องตวนต้องการพบอวิ๋นหลัวฉวน เขาคิดว่าฉีเฟยอวิ๋นมาที่นี่กลางดึก ต้องไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน
ฉีเฟยอวิ๋นพูดถึงสถานการณ์ในตอนนี้ และอวิ๋นหลัวฉวนก็พยักหน้าในทันที:“ข้ารู้แล้ว ท่านไปที่อื่นก่อนเถอะ ข้าจะไปคุยกับท่านอ๋องตวน และจะกลับไปที่จวนกั๋วกง เรื่องจวนกั๋วกงปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้า ท่านจะได้ไม่ยุ่งยากมากนัก”
“อืม แต่……เจ้าก็ต้องระวังตัวด้วย อย่าให้กระทบทารกในครรภ์ ในตอนนี้จะกระทบทารกในครรภ์ได้ง่าย”
ก่อนที่จะลงจากรถม้า ฉีเฟยอวิ๋นก็หยิบขวดยาออกมา
เมื่อลงไปข้างล่างรถม้าแล้ว นางก็มองไปที่อ๋องตวน:“ท่านอ๋องตวน ยินดีด้วยเพคะ พระชายาตวนทรงมีข้าวดีแล้ว!” อ๋องตวนตกตะลึงอยู่นาน และรีบเดินเข้าไปหาอวิ๋นหลัวฉวน อวิ๋นหลัวฉวนเย่อหยิ่งเล็กน้อย
นางส่งมือไปให้อ๋องตวนและกอดเข้าไว้
อ๋องตวนก็กอดนางไว้แน่นเช่นกัน เขาตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก
ฉีเฟยอวิ๋นมองดูทั้งสองคน มีเวลาไม่มาก นางจึงพูดอย่างรวบรัด
“ท่านอ๋องตวน นี่เป็นยาเป๋าไทหวัน (ยาป้องกันการแท้งบุตร) หม่อมฉันเคยให้พระชายาตวนกินไปแล้วครั้งหนึ่ง ห้ามกินมากเกินไป ห้ามกินมั่วซั่ว หม่อมฉันยังมีเรื่องต้องไปทำ ขอตัวก่อนเพคะ”
ฉีเฟยอวิ๋นกลับขึ้นไปบนรถม้า และอาอวี่ก็ขับรถม้าจากไป
อวิ๋นหลัวฉวนและคนอื่น ๆ เดินไปและหันกลับมามองอ๋องตวน:“ท่านอ๋องตวน หม่อมมีเรื่องอยากจะขอร้องเพคะ”
อ๋องตวนรู้ตั้งแต่ฉีเฟยอวิ๋นมาที่นี่แล้วว่าต้องไม่ใช่เรื่องดี
อ๋องตวนก้มลงไปอุ้มอวิ๋นหลัวฉวนขึ้นมา แต่อวิ๋นหลัวฉวนกล่าวว่า:“แคว้นอู๋โยวต้องการแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีกับแคว้นของเรา เหตุใดท่านอ๋องตวนถึงไม่ช่วยท่านอ๋องเย่ยื่นฎีกาเพคะ?”
“สตรีไม่ควรแทรกแซงงานราชการแผ่นดิน อย่าถามอีกเลย”
อ๋องตวนไม่ได้อธิบาย อวิ๋นหลัวฉวนมองไปที่เขาและไม่พูดอะไรอีก
แต่เมื่อกลับมาถึงห้อง นางก็ไปหาเกราะออกมา เมื่ออ๋องตวนเห็นว่านางทำเช่นนี้ก็ห้ามนางไว้:“อย่าขยับมั่วซั่ว เจ้าตั้งครรภ์อยู่ จะทำเรื่องวุ่นวายเช่นนี้ได้อย่างไร”
“หม่อมฉันไม่ต้องการที่จะให้กำเนิดเด็กคนนี้ เมื่อนึกถึงว่าอีกสิบกว่าปีข้างหน้า บุตรสาวของหม่อมฉันต้องถูกส่งไปที่แคว้นอู๋โยว หม่อมฉันยอมไม่ให้กำเนิดออกมาเสียดีกว่า”
อวิ๋นหลัวฉวนสวมเสื้อคลุมสีแดงและสวมรองเท้า จากนั้นก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว
อ๋องตวนคว้าตัวนางและกอดนางไว้ในอ้อมแขนของเขา:“อย่าทำเรื่องวุ่นวายเลย เรื่องของแคว้นอู๋โยวกับแคว้นต้าเหลียงเป็นเรื่องใหญ่ ไม่สามารถทำเป็นเล่นได้”
“เช่นนั้นท่านอ๋องทรงยินยอมที่วันข้างหน้าจะต้องส่งบุตรสาวไปแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรี?” สีหน้าของอ๋องตวนดูเย็นชา:“ข้าอยู่ที่นี่ ใครจะกล้า?”
“ท่านอ๋องก็ทรงรู้ว่าบุตรสาวไม่สามารถไปที่นั่นได้?แล้วเหตุใดถึงเห็นด้วยเรื่องการแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรี สตรีผู่หนึ่งที่อายุยังน้อยขนาดนั้น อีกทั้งยังไม่รู้ว่าสามีของนางหน้าตางดงามหรือขี้เหร่ อายุน้อยหรือเด็กอายุมาก หรือว่าท่านอ๋องทรงไม่กลัว? ในเวลากลางวันก็ดูดี แต่ถูกรังแกในยามค่ำคืน?ท่านอ๋อง……หม่อมฉันไม่อยากพูดถึงจวินฉูฉู่ แต่จะไม่พูดถึงก็ไม่ได้ หม่อมฉันเป็นจวิ้นจู่ของจวนกั๋วกง มาที่จวนอ๋องตวนแล้วอย่างไร?” สีหน้าของอ๋องตวนไม่น่ามองมากนัก:“ก็ใช่……” อวิ๋นหลัวฉวนไม่รอให้อ๋องตวนพูด และกล่าวว่า:“หม่อมรู้ว่าท่านอ๋องตวนต้องการจะกล่าวอะไร แต่ท่านอ๋องตวนทรงอย่าลืมว่า
นี่ไม่ใช่เรื่องของจวินฉูฉู่ แต่เป็นเรื่องที่สตรีของแคว้นต้าเหลียงต้องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีกับต่างแคว้น
บุรุษของแคว้นต้าเหลียงตายหมดแล้วหรืออย่างไร ถึงได้ให้สตรีอันเป็นที่รักไปต่างแคว้น และแต่งงานกับบุรุษที่ไม่รู้จัก แล้วพวกเขาจะทำอะไร?” อวิ๋นหลัวฉวนรู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย นางคิดว่าอ๋องตวนเป็นคนที่ซื่อตรงและแน่วแน่
อ๋องตวนจับมือของอวิ๋นหลัวฉวน:“ข้าคำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น การแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีจะช่วยส่งเสริมให้ทั้งสองแคว้นแข็งแกร่ง และไม่ให้แคว้นอื่นมารุกรานพวกเรา เมื่อเทียบกับการเสียสละของคนนับหมื่นในแคว้นแล้ว การเสียสละของสตรีผู้หนึ่งไม่นับว่าเป็นอะไรได้”
“เช่นนั้นในราชวงศ์ของเรามีองค์หญิงหรือไม่?”
“ไม่มีองค์หญิง แต่มีจวิ้นจู่”
เมื่ออ๋องตวนกล่าวเช่นนี้ อวิ๋นหลัวฉวนก็ยิ่งรู้สึกผิดหวัง
อวิ๋นหลัวฉวนถามว่า:“เช่นนั้นเราหย่ากันดีหรือไม่เพคะ?หม่อมฉันต้องการจะแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรี หม่อมฉันเคยฆ่าคนของแคว้นอู๋โยวไปมากมาย และบรุษมากมาย หม่อมฉันต้องการจะไปที่นั่น พวกเขาจะต้องดีใจมาก!”
“เจ้าว่าอะไรนะ?” อ๋องตวนตกใจ
อวิ๋นหลัวฉวนออกมาจากอ๋องตวนและหันหลังกลับไป
“ท่านอ๋องทรงได้ยินไม่ผิดเพคะ คนคนหนึ่งสามารถแลกกับความสุขสบายของผู้คนจำนวนมากได้ เป็นการค้าที่ทำกำไร และการค้านี้ก็คุ้มค่า!” อ๋องตวนกล่าวอย่างโกรธเคือง:“ไร้สาระ!” อวิ๋นหลัวฉวนหันกลับมา:“แทนที่จะนึกถึงบุตรสาวของหม่อมฉันในอีกหลายปีข้างหน้า สู้หม่อมฉันไปเสียตอนนี้เลยจะดีกว่า และถือว่าเป็นการดีสำหรับบุตรสาวของหม่อมฉันด้วย” อวิ๋นหลัวฉวนกำลังจะเดินจากไป และอ๋งตวนก็ทุบโต๊ะที่อยู่ข้าง ๆ