มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake – บทที่ 59 อสูรกายกลืนกิน

บทที่ 59 อสูรกายกลืนกิน

 

 

 

 

 

บทที่ 59 อสูรกายกลืนกิน

 

จากนั้นไม่นาน ปู้เฟยก็เดินออกจากพื้นที่หมอกปกคลุม แล้วเข้าสู่หุบเขา จนหาปากถ้ำเจอ

ถ้ำนี้ มีด้านในสูง10กว่าเมตร ลมพัดหวนอยู่ในถ้ำ ราวกับเสียงร้องโหยหวนของผีสาง เพียงแค่ยื่นอยู่ที่ปากถ้ำ ปู้เฟยก็สามารถรับรู้ได้ว่าในถ้ำนี้มีพลังน่ากลัวครองพื้นที่อยู่

“จากบันทึกที่บรรพบุรุษทิ้งไว้ให้ ทางเข้าของขุมรัพย์นี้ จะมีอสูรกายระดับ5เฝ้าอยู่!”

ปู้เฟยพลิกฝ่ามือ แล้วหยิบป้ายหยกออกมาจากสนับข้อมือเก็บของ จากนั้นเขาก็กัดนิ้วตนเอง เอาเลือดหยดบนป้ายหยกนั้น ป้ายหยกนั้นก็เปล่งแสง แล้วดูดซึมเลือดเข้าไปในพริบตา

“โฮก!”

เสียงคำรามที่ทำให้คนหวาดกลัว ดังออกมาจากด้านในถ้ำ เสียงสะท้อนไปไกลกว่าสิบลี้ ทำให้หมอกควันในหุบเขาหมุนวนไปหมด

“นี่มันตัวอะไร?”

หลัวซิวที่กำลังเดินอยู่ในกลุ่มหมอกควัน ก็ได้ยินเสียงคำราม เลือดลมในตัวก็สั่นสะเทือน เจ็บๆ ที่หู แค่เสียงคำรามเท่านั้น ก็ทำให้ใจสับสนวุ่นวายได้

ที่ปากถ้ำในหุบเขาลึก ปู้เฟยสัมผัสได้ถึงพลังที่น่ากลัวกำลังพุ่งเข้ามา อสูรเสือสองหัวตัวดำสนิทปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา

อสูรกายตัวนี้สูง700เมตร ตัวยาว10กว่าเมตร ใหญ่ตาราวกับเป็นภูเขาย่อมๆ ลำตัวปกคลุมไปด้วยไอสังหาร จนแทบจะทำให้คนหยุดหายใจ

“ท่าเสือสองหัวเขมือบลึก!”

ปู้เฟยรู้สึกว่าตนเองหยุดหายใจไป หัวใจเต้นแรงขึ้นมาก

นี่เป็นอสูรกายที่มีพลังเทียบเท่าราชายุทธ์ได้เลย เป็นอสูรสัญญาของราชายุทธ์ปู้เฉิน บรรพบุรุษของตระกูลปู้ ตอนที่ราชายุทธ์ปู้เฉินยังมีชีวิตอยู่ ก็ทิ้งอสูรกายตัวนี้ไว้เฝ้าสมบัติ ในขณะเดียวกันก็ทิ้งของแทนสัญลักษณ์ไว้ให้ลูกหลานตนเองด้วย

และป้ายหยกในมือของปู้เฟย ก็คือสัญลักษณ์นั้น!

ดวงตาสีแดงทั้งสี่บนสองหัวของอสูรกายจับจ้องมาที่ป้ายหยกในมือของปู้เฟย พลังรอบตัวของท่าเสือสองหัวเขมือบลึกก็เริ่มเก็บเข้าไป แล้วส่งเสียงคำรามต่ำๆ ออกมา พลังอาฆาตในดวงตาสีเลือด ก็อ่อนโยนลงมามาก

กลิ่นไปเลือดในป้ายหยก ทำให้มันมั่นใจได้ว่า มนุษย์ตรงหน้านี้ ก็คือลูกหลายรุ่นหลังของอดีตเจ้านายมัน

พอเห็นว่าท่าเสือสองหัวเขมือบลึกไม่ทำร้ายตนเอง ปู้เฟยก็หายใจเข้าอย่างลึก แล้วก็ตั้งสติได้

เขาจับป้ายหยกในมือแน่น นิ้วชี้ไปยังพื้นที่ที่มีหมอกควันปกคลุม แล้วพูดอย่างมีความอาฆาตว่า “มีคนจะมาแย่งชิงขุมทรัพย์ที่บรรพบุรุษทิ้งไว้ เจ้าไปฆ่ามันเสีย!แล้วเอาของในตัวมันหลับมา”

อสูรกายระดับ5ก็ฉลาดมาก ถึงแม้จะพูดภาษาคนไม่ได้ แต่ฟังรู้เรื่องว่าปู้เฟยหมายความว่าอะไร

“โฮก!”

ท่าเสือสองหัวเขมือบลึกเงยหน้าคำรามออกไป ตัวยักษ์ใหญ่ของมันก็พุ่งออกไป เร็วดั่งสายฟ้าสีดำ บุกเข้าไปยังพื้นที่หมอกควัน

มีพลังของประสาทสัมผัสสิ่งมีชีวิต หลัวซิวรับรู้ถึงพลังชีวิตของปู้เฟยแล้ว แค่อีกไม่นาน ก็จะสามารถเดินออกไปจากพื้นที่นี้ได้แล้ว

ทันใดนั้น พลังชีวิตที่ใหญ่โตมโหฬารก็ปรากฏขึ้นในการรับรู้ของเขา แถมยังบุกมาถึงตำแหน่งของเขาอย่างรวดเร็วอีกด้วย

“ไม่ได้การแล้ว!”

หลัวซิวได้ยินเสียงคำรามที่น่ากลัวนั้น ภายใต้หมอกควันที่อึมครึม ก็มองเห็นเงาดำใหญ่ๆ บุกเข้ามาอย่างน่ากลัว

พลังที่น่ากลัวเกือบทำให้หลัวซิวหยุดหายใจ ภายใต้ความเป็นความตาย วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพในจุดตันเถียนก็หมุนเร็วขึ้นมา ปราณเป็นตาย2ระดับไหลเวียนไปทั่วร่าง

“ฟิ้ว!”

ใช้วิชาท่ากลไกวิเศษ ร่างกายของเขากลายเป็นเงา แล้วหายไปจากตำแหน่งเดิม

“โครม!”

เงาดำใหญ่ๆ มาทับตำแหน่งเดิมของหลัวซิว หินกรวดกระเด็นไปทั่ว ดวงตาสีแดงทั้ง4ก็เปล่งแสงสีแดงของอสูรการออกมา ภายในหมอกที่หนาแน่น เผยให้เห็นเหมือนตะเกียงไฟสีแดง

อสูรกายที่น่ากลัวตัวนี้ มันน่ากลัวมาก ต่อให้เป็นจอมยุทธ์ที่เก่งที่สุดที่หลัวซิวเคยเจอ เช่นเจ้าสำนักยุทธ์ของเมืองชิงหยุน เมื่อเทียบกับเสือดำตัวนี้แล้วล่ะก็ เจ้าสำนักยุทธ์เป็นเหมือนเด็กเลย

“วิ่ง!”

หลัวซิวไม่จำเป็นต้องช้าอะไร วิชาท่าร่างถูกเขาใช้ออกมาอย่างสุดขีดจำกัด ภายใต้สภานการณ์เป็นตายแบบนี้ สัญชาตญาณทุกอย่างก็ถูกเอาออกมาใช้จนหมด

แต่ต่อให้หลัวซิวจะเร็วแค่ไหน ต่อหน้าท่าเสือสองหัวเขมือบลึก ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย

“ฟิ้ว!”

ท่าเสือสองหัวเขมือบลึกกระโดดเบาๆ ตัวยักษ์ใหญ่ของมันก็พุ่งออกไป ราวกับเป็นเงาดำสูงขึ้น ปกคลุมตัวหลัวซิวได้ทั้งหมด

“ไม่!”

หลัวซิวตะโกนออกมาอย่างดัง ดวงตาทั้งสองกลัวสุดขีด เขาไม่ยอมตายไปง่ายๆ แบบนี้แน่นอน

ช่วงเวลาคับขัน ความตายบีบให้เขาระเบิดใช้สัญชาตญาณออกมา วิชาท่ากลไกวิเศษแดนบรรลุผล พอกระโดดก็เลื่อนระดับใหม่เลย

“โครม!”

อุ้งมือขนาดยักษ์ก็ตะครุบลงไปที่พื้นจนเป็นหลุมใหญ่ สิ่งที่แหลกสลายนั้น เป็นเพียงเงาของหลัวซิวเท่านั้น

“โฮก!”

ท่าเสือสองหัวเขมือบลึกคำรามเสียงต่ำ อดไม่ได้ที่มนุษย์ตัวเล็กหลุดรอดไปจากเงื้อมมือตนเองได้

มันอ้าปากกว้าง พลังดูดที่รุนแรงก็บังเกิดขึ้นมา หมอกควันรอบด้านถูกรวมเข้ามา หลัวซิวที่เพิ่งหนีไปได้ไม่ไกล ก็รับรู้ได้ถึงแรงดูดมหาศาล ร่างกายเหมือนถูกยึดติดไว้ ขยับไม่ได้

พอเขาหันกลับไปมอง ก็เห็นท่าเสือสองหัวเขมือบลึกอ้าปากออกมาแดงแจ๋ ราวกับหลุมดำที่กำลังดูดกลืนกินทุกอย่างเข้าไป ปกคลุมไปทั่วทั้งหลายร้อยเมตร

“ไม่!เราจะตายไม่ได้!”

หลิวซิวพยายามเคลื่อนพลังพลังหยางบริสุทธิ์ แต่ต่อให้เป็นวิชาท่ากลไกวิเศษที่ถึงระดับแดนบริบูรณ์แล้ว ก็ไม่มีทางออกไปจากแรงดูดมหาศาลนี้ได้ ร่างกายลอยขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ แล้วลอยตกไปทางปากของใหญ่ๆ ของท่าเสือสองหัวเขมือบลึก

ช่วงเวลาเป็นตายนี้ หลัวซิวรู้สึกว่าในวิญญาณมีอะไรขยับขึ้นมาอย่างรุนแรง แสงสีขาวดำได้ปกคลุมไปทั่วทั้งร่างของเขา

“วิ๊ง!”

ร่างของหลัวซิวหายไป มีเพียงลูกแก้วขาวดำตกลงไปในปากของท่าเสือสองหัวเขมือบลึก

การรับรู้ของหลัวซิว ได้เข้าสู่ห้วงแห่งความมืด

ปู้เฟยก็รออยู่ที่ปากถ้ำ มุมปากก็เผยรอยยิ้มร้ายๆ ออกมา

เขาได้ยินเสียงตะโกนไม่ยอมก่อนตายของหลัวซิว เมื่อเผชิญกับท่าเสือสองหัวเขมือบลึกระดับ5 ไม่ต้องพูดถึงจอมยุทธ์ระดับแดนชี่ไห่หรอก ต่อให้เป็นจอมยุทธ์พรสวรรค์ ก็ต้องตายแน่นอน

“ฟู่!”

ลมที่มีพลังน่ากลัวพัดเข้ามากระทบใบหน้า ท่าเสือสองหัวเขมือบเข้ามาแล้ว หัวด้านซ้ายของมันอ้ากว้าง แล้วยื่นอุ้งมือออกมาชี้

“กินมันไปแล้วหรือ?” ปู้เฟยเผยสีหน้าดีใจ

ท่าเสือสองหัวเขมือบลึกพยักหน้า

“สิ่งของบนตัวมันล่ะ?” ปู้เฟยถาม

ท่าเสือสองหัวเขมือบลึกก็ยังคงชี้ไปที่ปากของตัวเอง

“กินไปแล้วงั้นหรือ?” ปู้เฟยสีหน้าเปลี่ยน

“ให้เจ้าไปฆ่ามัน แล้วเอาสิ่งของมันมา ทำไมเจ้าถึงกินมันไปหมดเลยล่ะ?” ปู้เฟยอยากจะร้องไห้ ตนเองก็คงจะไม่คลานเข้าไปหาของในปากมันหรอกมั้ง?

แต่ท่าเสือสองหัวเขมือบลึกไม่ได้สนใจเขา ในฐานะที่เป็นอสูรกายระดับ5 ถึงแม้จะฉลาด แต่หลักความคิด ยังไงก็ไม่เหมือนกับมนุษย์

ลำตัวยักษย์ใหญ่ก็คลานเข้าไปในถ้ำ ท่าเสือสองหัวเขมือบลึกก็นอนคว่ำลงในที่แห่งหนึ่ง สองหัวอ้าปากกว้าง แล้วก็หาวนอน

ปู้เฟยก็หน้าบึ้งมาก แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรอสูรกายระดับ5ตัวนี้

เขารีบกลับไปยังพื้นที่หมอกควันแห่งนั้น แล้วตามหาอยู่3วัน แต่ก็ไม่เจออะไร

“หรือว่าจะถูดไอ้เดรัจฉานนั้นกินไปแล้วจริง? แล้วจะทำอย่างไรดี?”

เดิมทีนั้นคิดว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผน ปู้เฟยคิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

เขาไม่ยอมจากไปแบบนี้ ดังนั้นก็เลยอยู่หุบเขานี้เสียเลย ทุกสองวันท่าเสือสองหัวเขมือบลึกก็จะออกมาหาอาหาร เขาหวังว่าระบบย่อนอาหารขอไอ้ตัวใหญ่นี้จะไม่ค่อยดี พอถึงตอนนั้นจะได้ขับถ่ายข้าวของในตัวหลัวซิวออกมา

กระบี่สว่างก็ไม่ได้มีการตอบสนองอะไร ปู้เฟยสันนิษฐานว่า หลัวซิวน่าจะเอากระบี่มืดใส่ไว้ในอุปกรณ์เก็บของแล้ว

 

########################
 

 

 

 

 

 

 

 

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท