บทที่ 86 แพ้แล้ว
ปราณกระบี่สีทองที่ทัดเทียมกับการโจมตีด้วยมือจอมยุทธ์พรสวรรค์ ไม่ใช่เพียงแค่พูดเท่านั้น ในนั้นมีพลังอันแข็งแกร่งแฝงอยู่ ห่างชั้นระดับที่บรรลุถึงชี่ไห่ หลัวซิวโดนพลังโจมตีเข้าไปในร่างกาย เส้นเลือดและภายในร่างกาย ได้รับบาดเจ็บภายในไม่น้อย
เวทีดวลความเป็นตาย เละเทะไปหมด หลุมสามหลุมสะดุดตาจนน่าตกใจ เห็นได้เลยว่าพลานุภาพของปราณกระบี่สามปราณ แข็งแกร่งขนาดไหน
เมื่ออยู่ตรงข้ามหลัวซิว ถึงสีหน้าของหลินจิงหยุนจะซีดเผือด แต่อาการดีกว่าหลัวซิวเยอะมาก
โดยทั่วไปแล้วสมบัติค่ายกลสามระดับ ต้องใช้ผลการฝึกตน ระดับจอมยุทธ์พรสวรรค์ ถึงจะกระตุ้นหรือขยับได้ หลินจิงหยุนใช้ผลการฝึกตนวิชาชี่ไห่ขั้น7 ในการกระตุ้นหรือขยับของล้ำค่าเช่นนี้ ปราณแท้ทั้งตัว ก็สูญเสียไปจนใกล้จะหมด
เห็นสภาพจนตรอกของหลัวซิว หลินจิงหยุนถึงกับโล่งอก ขณะเดียวกันก็รู้สึกหวาดกลัว ปราณกระบี่สามปราณนั้น ทัดเทียมกับการโจมตีของจอมยุทธ์พรสวรรค์ หลัวซิวไม่ตายอย่างนั้นเหรอ
“แต่ไม่ตายก็ไม่เป็นไร ตอนนี้กำลังของนายหมดแล้ว ต้องตายคามือฉันแน่นอน!”
หลินจิงหยุนรู้ดีว่าตัวเองต้องฆ่าหลัวซิว ขืนปล่อยให้เขาเติบโตตามใจชอบ คนที่ตายจะเป็นตัวเขาเอง
ในมือของเขาถือกระบี่ ก้าวเข้าไปหาหลัวซิวที่เลือดเต็มตัว
“หยุดนะ!”
เห็นชีวิตของหลัวซิวกำลังอันตราย ลู่เมิ่งเหยาที่อยู่ล่างเวที ถึงกับหน้าเปลี่ยนสี เธอรีบตะโกนออกมา
“หลินจิงหยุน ถ้านายฆ่าหลัวซิว ฉันจะฆ่านาย!”
ถึงเป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอ แต่ตอนที่ลู่เมิ่งเหยาพูดประโยคนี้ออกมา ความอาฆาตอันเย็นยะเยือก แผ่ซ่านออกมาจากตัวเธอ
ฐานะของลู่เมิ่งเหยาพิเศษ ทำให้หลินจิงหยุนรู้สึกหวาดกลัว เท้าที่กำลังก้าวเข้าไปหาหลัวซิว ถึงกับชะงักลง
เขามองไปยังจางหลู่เหลียง ผู้รับผิดชอบเอกสารรับรอง ที่อยู่บนห้องใต้หลังคาไม่ไกล เสียงของผู้ดูแลนอกสำนัก ดังเข้ามาในหู “นายวางใจเรื่องฆ่าหลัวซิวได้เลย มีข้าคอยคุ้มครองอยู่ ยัยเด็กแซ่ลู่ ฆ่านายไม่ได้หรอก แต่ถ้านายไม่ฆ่าหลัวซิว ข้าจะฆ่านายเอง!”
เมื่อได้ยินดังนั้น หลินจิงหยุนอดตัวสั่นไม่ได้ ความร้ายกาจของจางหลู่เหลียง เป็นที่เลื่องลือนอกสำนักเซียวเหยา ตอนนี้เขาจะฆ่าหรือไม่ฆ่าหลัวซิว ก็ยากที่จะลงจากหลังเสือ
“ฉันเป็นคนพูดเรื่องดวลความเป็นตาย ถ้าฉันไม่ฆ่าหลัวซิว ไม่เพียงแต่จะโดนหัวหน้าจางฆ่าเพื่อระบายความโกรธ หลัวซิวก็ไม่ปล่อยฉันไว้เหมือนกัน”
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หลินจิงหยุนตัดสินใจได้ทันที เขาหยิบกระบี่เดินเข้าไปหาหลัวซิว
“หลินจิงหยุน!”
ลู่เมิ่งเหยาร้อนใจขึ้นทันที เธอรีบใช้วิชาท่าร่างเด้งตัวขึ้น กำลังจะพุ่งขึ้นไปบนเวทีดวลความเป็นตาย
แต่แน่นอนว่าจางหลู่เหลียง ไม่มีทางยอมให้เธอทำเช่นนี้ เขาหายตัวไปขวางเธอไว้
“คุณลู่ ดวลความเป็นตาย ผมเป็นคนรับผิดชอบเอกสารรับรอง ใครก็ห้ามเข้ามาก้าวก่าย” จางหลู่เหลียงพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
“จางหลู่เหลียง! อย่าคิดว่าฉันไม่รู้กลอุบายของนาย ถอยไปซะ!” ใบหน้าของลู่เมิ่งเหยาเย็นชา กระบี่บางปรากฏขึ้นในมือ
จางหลู่เหลียงไม่กลัวคำขู่ของลู่เมิ่งเหยา เขาพูดเนิบๆ “การเป็นผู้ดูแลนอกสำนัก การรักษากฎ คือหน้าที่ของผม หวังว่าคุณลู่อย่าทำผิดพลาด!”
“นาย!……”
ลู่เมิ่งเหยาส่งเสียงหึอย่างโมโห เธอสะบัดกระบี่ พุ่งเข้าไปแทงจางหลู่เหลียงข้างหน้า
“คุณลู่ คุณจะเอาแต่ใจเกินไปแล้ว”
สีหน้าของจางหลู่เหลียงแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา เขายกนิ้วขึ้นมาช้าๆ รวบรวมปราณแท้พรสวรรค์
ได้ยินเสียงชิ้ง เล็บของเขาปะทะกับกระบี่ในมือลู่เมิ่งเหยา จางหลู่เหลียงแทบจะไม่ขยับแต่ลู่เมิ่งเหยากลับโดนสะท้อนกลับ จนร่างลอยกระเด็นไปในอากาศ
ขณะนั้น แขนอันทรงพลังรับลู่เมิ่งเหยาเอาไว้กลางอากาศ
“พ่อ” ลู่เมิ่งเหยาหันไปมอง แล้วพูดอย่างร้อนใจ “พ่อรีบไปช่วยหลัวซิว!”
คนที่รับลู่เมิ่งเหยาเอาไว้ คือนายท่านของนอกสำนัก ลู่เฟยเฉิน
เห็นลู่เฟยฉินขมวดคิ้ว แล้วพูดว่า “แกลืมกฎบนเวทีดวลความเป็นตายไปแล้วเหรอ พ่อเป็นนายท่านของนอกสำนัก ต้องทำตัวแบบอย่าง จะทำลายกฎที่บรรพบุรุษตั้งไว้ ตามอำเภอใจได้อย่างไร”
“พ่อ……” ลู่เมิ่งเหยาอึ้งไป เธอคิดไม่ถึงว่าพ่อของตัวเอง จะนิ่งดูดายกับความตาย
“หลัวซิว ตายซะเถอะ!”
บนเวทีดวลความเป็นตาย หลินจิงหยุนเดินมาใกล้หลัวซิว สะบัดกระบี่ยุทธ์ในมือ และฟันไปที่คอของหลัวซิว เพื่อตัดหัวของเขา
ลู่เมิ่งเหยาเห็นภาพนั้นพอดี ใจดุจเถ้าที่ดับมอดไป เธอหลับตาลง ไม่กล้ามอง
ขณะที่ทุกคนคิดว่าหลัวซิว ไม่มีกำลังตอบโต้กลับ และต้องตายสถานเดียว หลัวซิวที่กำลังก้มหน้า มีความอาฆาตฉายแวบเข้ามาในตา
ช่วงเวลาเสียวไส้ เห็นหลัวซิวยังคงก้มหน้า เหมือนสายฟ้าสีดำโผล่มาจากอากาศ แค่กะพริบ จากนั้นก็หายไป
เสียงตุ้บดังขึ้น ร่างของหลินจิงหยุนล้มลงกับพื้นทันที ดวงตายังคงเบิกกว้าง ก่อนสิ้นใจ เขาเห็นแสงกระบี่ที่รวดเร็วสุดขีดเป็นสิ่งสุดท้าย!
“คนที่ตาย คือนาย!”
หลัวซิวพูดประโยคนี้ออกมาช้าๆ กระบี่สุดท้าย เขาต้องใช้พลังทั้งหมด จนส่งผลกระทบต่ออาการบาดเจ็บภายใน เขากระอักเลือดออกมาอีกสองครั้ง
ทุกคนพากันตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิด วินาทีสุดท้าย หลัวซิวยังเหลือแรงสู้ ตวัดกระบี่ออกไป หลินจิงหยุนแม้แต่ตั้งตัวยังทำไม่ทัน เขาถูกฆ่าที่นี่!
หลังความเงียบผ่านไป ตามมาด้วยเสียงโหวกเหวกของทุกคน พากันถกเถียงขึ้นมา ตอนที่ดาบเร็วสุดขีดที่หลัวซิวใช้ตอนสุดท้าย!
กระบี่ของหลัวซิว เดิมก็เร็วมากอยู่แล้ว แต่จอมยุทธ์วิชาชี่ไห่ขั้น7 ขึ้นไปบางส่วน ยังพอจับร่องรอยการออกกระบี่ของเขาได้
แต่ขีดสุดของกระบี่เมื่อครู่ เห็นได้เพียงสายฟ้าสีดำเท่านั้น เพราะท่าทางการใช้กระบี่ของหลัวซิวรวดเร็วเกินไป จึงทำให้คนส่วนใหญ่ดูไม่ออกว่านั่นคืออะไร
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าศึกครั้งนี้ ชื่อของหลัวซิว สามารถทำให้นอกสำนักเซียวเหยาสั่นคลอน!
เขาเพิ่งมีวิชาชี่ไห่ขั้น3 รอให้เขาพัฒนาไปถึงวิชาชี่ไห่ขั้น4 หรือจนถึงวิชาชี่ไห่ขั้น7 ล่างพรสวรรค์ลงไป คงไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้เลยไม่ใช่หรือ
ไม่เพียงแค่กลุ่มคนที่มาดูการต่อสู้ หลัวซิวก็กำลังนึกย้อนถึงกระบี่สุดท้าย ที่ใช้พละกำลังจนหมด
เพราะต้านทานกับสามปราณกระบี่สีทอง เขาเกือบจะหมดพลัง พลังที่เหลือ อย่างมากก็แค่กระบี่เดียว ถ้าไม่สามารถฆ่าหลินจิงหยุน คนที่ตาย ต้องเป็นเขาอย่างแน่นอน
ดังนั้น ตอนที่ตกอยู่ในสถานการณ์บีบบังคับ ระหว่างเป็นกับตาย ระดับของกระบี่นั้น เกินกว่าขอบเขตของวิชาดาบเร็วขั้นต้น และถึงระดับที่พอๆ กับดาบเร็วขั้นสูง!
เป็นไปตามคาด ฝึกฝนแทบเป็นแทบตาย เป็นหนทางที่ยอดเยี่ยม นำไปสู่การยกระดับพละกำลัง
ภาพบนเวทีดวลความเป็นตาย ทำให้ใบหน้าชราของจางหลู่เหลียง แปรเปลี่ยนเป็นไม่สู้ดีเป็นอย่างมาก เดิมทีเข้าใจว่าครั้งนี้จะไร้ข้อผิดพลาด แต่ผลที่ได้กลับ……
ลู่เมิ่งเหยาได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายของผู้คน เธอค่อยๆ ลืมตา เห็นคนที่ล้มลงบนเวทีดวลความเป็นตาย ไม่ใช่หลัวซิว แต่เป็นหลินจิงหยุน
ทันใดนั้น อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ทำให้เธอร้องไห้ออกมาอย่างสะเทือนใจ และสะบัดมือของผู้เป็นพ่ออย่างลู่เฟยเฉิน เธอเด้งตัวขึ้นไปบนเวทีดวลความเป็นตาย
เมื่อเดินเข้ามาใกล้หลัวซิว เธอเอายารักษาบาดแผลออกมาหนึ่งเม็ด และป้อนให้หลัวซิว
หลัวซิวอ้าปากอย่างไม่รีรอ เขาเชื่อว่าลู่เมิ่งเหยาไม่มีทางทำร้ายตัวเอง ตอนนี้เขาไม่มีเรี่ยวแรงสักนิด หลังได้รับยา เขาปิดตาลงทันที เคลื่อนไหวพลังหยางบริสุทธิ์และวงล้อแห่งชีวิตและความตาย เริ่มฟื้นฟูอาการบาดเจ็บในร่างกาย
หลังผ่านไปครู่หนึ่ง ถึงบาดแผลของหลัวซิว ยังฟื้นฟูไม่สมบูรณ์ แต่ใช้วิธีพิเศษในการฟื้นฟูลายเส้นชีวิต นอกจากร่างกายอ่อนแอ ความสามารถในการเคลื่อนไหว ได้รับการฟื้นฟูแล้ว
“ขอบใจนะเมิ่งเหยา”
ช่วงระหว่างความเป็นความตาย สิ่งที่ลู่เมิ่งเหยาทำ อยู่ในสายตาของหลัวซิวทั้งหมด เขารู้สึกซาบซึ้งใจมาก
แต่เมื่อเทียบขึ้นมา ลู่เฟยเฉินพ่อของเธอ ดูเลือดเย็นกว่า
########################