บทที่ 150 มังกรเจียวเขาเดียวเกล็ดม่วง
วิชายุทธ์วิชานี้ถูกเรียกว่าเป็นระดับแปด ชื่อพลังก่อนรวมวิญญาณ เป็นวิชาแขนงที่ใช้ในการฝึกวิญญาณ ฝึกตราสำนึก ฝึกเทพจิต
ตามที่เหยียนเยว่เอ่อร์พูด นางก็อาศัยวิชาก่อนรวมวิญญาณ เข้าถึงความลึกลับของห่วงยุทธ์เปลวไฟในแดนฝึกจิต
วิญญาณยิ่งแข็งแกร่ง การสำนึกยิ่งแข็งแกร่ง ก็ง่ายต่อการเข้าถึงแดนโลกยุทธ์มากขึ้น เพราะแดนโลกยุทธ์ดูเหมือนจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณของผู้ฝึกยุทธ์อย่างใกล้ชิด และเป็นส่วนขยายของพลังจิต
การรับรู้ เป็นพลังแบบหนึ่งของพลังจิต ส่วนการสำนึกควบแน่นมาจากพลังจิต ส่วนเทพจิตคือแก่นแท้ของพลังจิต
การฝึกครั้งนี้ดำเนินไปเจ็ดวัน
เนื่องลูกแก้วโลหิตพรสวรรค์เห็นผลไม่ชัดเจนแล้ว หลังจากกลืนกินลูกแก้วโลหิตหนึ่งร้อยกว่าลูก ร่างเนื้อของหลัวซิวก็ไม่ได้ฝากทะลวงถึงร่างยุทธ์ขั้นสูง ยังอยู่ห่างจากจุดสูงสุดของร่างยุทธ์ไม่น้อย
ผลการฝึกตนของเขาถูกยกระดับขึ้นเป็นพรสวรรค์ขั้นสี่ ภายใต้การหนุนเสริมของหินพลังจิตนับร้อยและค่ายผนึกปราณระดับห้า
ดินแดนของโลกยุทธ์ ผลการฝึกตนง่ายต่อการยกระดับ เพียงมีทรัพยากร พรสวรรค์ และเวลาที่เพียงพอ การฝึกถึงระดับดินแดนที่ลึกซึ้งไม่ใช่เรื่องยาก
เพียงแต่ผลการฝึกตนยิ่งสูงขึ้น ทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการยกระดับก็จะยิ่งสูงขึ้น ดังนั้นปรมาจารย์ผู้ฝึกจิตและผู้แข็งแกร่งขึ้นไป จึงมีน้อยมากอย่างที่เห็น
ในประเทศเทียนหวู ปรมาจารย์ฝึกจิตสามารถปกครองเมืองหนึ่งเมือง ถูกขนานนามผู้ปกครองหนึ่งทิศ! ราชายุทธ์สามารถก่อตั้งสำนัก ถูกขนานนามผู้ครอบครองหนึ่งเขต ผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์ถึงขั้นยืนอยู่ระดับแนวหน้าของประเทศเทียนหวู ก้าวข้ามทุกสรรพสิ่ง!
หากเป็นผู้แข็งแกร่งมงกุฎยุทธ์ที่อยู่เหนือจักรพรรดิยุทธ์ สามารถทำลายประเทศเทียนหวูด้วยพลังของตัวเองเพียงลำพังได้อย่างง่ายดาย!
ใจกลางของแท่นบูชาโบราณ หลัวซิวนำหยกอสูรจันทราคู่ออกมา ปลูกถ่ายปราณแท้เข้าไป จันทราสีเงินและจันทราสีเลือดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ประสานหนุนซึ่งกันและกัน
เหยียนเยว่เอ่อร์ลงมือสังหารจอมยุทธ์ทั้งเจ็ดที่สูญเสียผลการฝึกตนอย่างโหดเหี้ยมด้วยสีหน้าที่ร้ายอารมรณ์ พลังและเลือดรวมตัวกันในอากาศ หลั่งไหลเข้าสู่หยกอสูรจันทราคู่ทั้งสอง
ภายในจิตใจของหลัวซิวรู้สึกทนรับไม่ได้ กลับฝืนบังคับทำให้จิตใจของตัวเองเฉยชา มนุษย์หนึ่งมีจิตใจที่เมตตาไม่ใช่เรื่องผิด แต่ก็ต้องดูด้วยว่ามันเป็นเวลาไหน
หลังจากแสงสว่างสายหนึ่งส่องประกายระยิบระยับขึ้น หลิวซิวยื่นมือออกไปเก็บหยกอสูรทั้งสอง ร่างของเขาและเหยียนเยว่เอ่อร์ถูกส่งหายไปจากที่นี่ทันที
ศพทั้งเจ็ดร่างที่สูญเสียพลังและเลือด เริ่มเลือนรางทีละนิดจนสุดท้ายหายไปอย่างสมบูรณ์ เหมือนกับอสูรที่สูญเสียลูกแก้วอสูร เป็นภาพที่แปลกตามาก
หลังจากที่ปรากฏตัวขึ้นในเขตที่สาม หลัวซิวปลดปล่อยประสาทการรับรู้ออกเป็นวงกว้างทันที พบว่าโดยรอบไม่มีอสูรที่แข็งแกร่งอาศัยอยู่
“เขตที่สามเป็นอสูรระดับฝึกจิตทั้งหมด เจ้าอย่าเดินเพ่นพ่านไปทั่ว” หลังจากที่มาถึง สีหน้าของเหยียนเยว่เอ่อร์ดูจริงจังขึ้นมาทันที
แม้หลัวซิวคนนี้จะมีพลังที่แข็งแกร่งมาก บางทีอาจจะสามารถวัดฝีมือกับอสูรฝึกจิตทั่วไป แต่ถ้าเจอกับอสูรฝึกจิตขั้นสามขึ้นไป ไม่มีทางต้านทานได้อย่างแน่นอน
ส่วนตัวของนางในตอนนี้ก็ไม่สามารถใช้พลังแม้แต่นิดเดียว เมื่อไหร่ที่หลัวซิวไม่สามารถต้านทาน ชะตากรรมของนางก็พอจะคาดเดาได้
ไม่ต้องให้เหยียนเยว่เอ่อร์เตือน หลัวซิวก็รู้ถึงความอันตราย นำภาพปริศนาออกมา พบว่าเขตที่สามในภาพปริศนา มีพื้นที่ที่ถูกทำสัญลักษณ์เอาไว้ มันคือตำแหน่งที่อยู่ของหญ้าคืนวิญญาณ
ภายในแดนนานาอสูร เขตที่หนึ่งเต็มไปด้วยอสูรระดับชี่ไห่ จำนวนมากถึงนับแสน สามารถมองเห็นฝูงอสูรได้ทุกแห่ง
เขตที่สองล้วนแต่เป็นอสูรระดับพรสวรรค์ มีจำนวนค่อนข้างน้อย แต่ก็มีหลายแสนตัว
ส่วนอสูรระดับฝึกจิตของเขตที่สามมีนับหมื่น แต่เนื่องจากพื้นที่กว้างใหญ่ ดังนั้นอสูรทุกตัวจึงมีอาณาเขตเป็นของตัวเอง ความหนาแน่นค่อนข้างน้อย ขอเพียงแค่ระวังตัว ก็ไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องการถูกปิดล้อมโจมตี
ตามเส้นทางของภาพปริศนา หลัวซิวพาเหยียนเยว่เอ่อร์เดินอยู่ในป่าทึบด้วยความระมัดระวัง
ทันใดนั้น ฝีเท้าของเขาหยุดชะงักอย่างกะทันหัน เหยียนเยว่เอ่อร์ตื่นตัวขึ้นมาทันที กวาดสายตามองโดยรอบด้วยความระมัดระวัง
นางคิดว่าการที่หลัวซิวหยุดชะงักอย่างกะทันหัน ต้องเป็นเพราะสัมผัสได้ถึงภัยอันตราย
“ด้านหน้ามีอสูรระดับฝึกจิตหนึ่งตัว ความแข็งแกร่งอยู่ในระดับฝึกจิตขั้นสามขึ้นไป พวกข้าเดินอ้อมไปแทน”
หลัวซิวพูดขึ้นอย่างเชื่องช้า
เขาสัมผัสได้ถึงภัยอันตรายจริง แต่ไม่ใช่รู้สึกตัวตอนที่ภัยอันตรายคุกคามเข้ามา เป็นการรับรู้ล่วงหน้า
เหยียนเยว่เอ่อร์มองหลัวซิวด้วยความประหลาดใจ นางพบว่าเด็กหนุ่มคนนี้ค่อนข้างลึกลับ มีวิธีการที่แม้แต่นางเองก็ไม่เข้าใจ
ตามหลัก ในขณะที่การรับรู้ของเดินพรสวรรค์สัมผัสได้ถึงอสูรระดับฝึกจิต อสูรฝึกจิตก็จะต้องสัมผัสถึงเขาด้วยเช่นกันถึงจะถูก
เพียงแต่หลัวซิวสิ่งที่หลัวซิวใช้ไม่ใช่การรับรู้ทางวิญญาณของแดนพรสวรรค์ แต่เป็นลูกแก้วความเป็นตายที่รับรู้กลิ่นอายความเป็นตาย การรับรู้แบบนี้จะไม่ถูกคนอื่นสัมผัสหรือพบเห็น
ระหว่างทาง หลัวซิวไม่ได้เกิดการต่อสู้ขึ้นกับอสูรที่อาศัยอยู่ในละแวกนี้แม้แต่ตัวเดียว บางครั้งพบอสูรฝึกจิตทั่วไปที่ตนเองสามารถสยบได้ เขาเองก็จะหลีกเลี่ยงไม่ไปสังหาร เพียงแค่จดจำตำแหน่งที่อยู่ของอสูรพวกนี้เอาไว้
ตามที่เหยียนเยว่เอ่อร์พูด ขอเพียงได้หญ้าคืนวิญญาณมา แม้จะไม่สามารถกลั่นให้มันกลายเป็นยาฟื้นวิญญาณ แต่ก็มีผลต่อแผลแห่งเทพจิต ทำให้พลังส่วนหนึ่งของนางฟื้นฟูกลับมา
ขอเพียงสามารถฟื้นฟูพลังของนางกลับมาได้ส่วนหนึ่ง ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวสัตว์อสูรส่วนใหญ่ภายในเขตที่สาม
คนทั้งสองใช้เวลาสามวัน ในที่สุดก็เดินทางมาถึงเขตพื้นที่ตั้งของหญ้าคืนวิญญาณที่ถูกทำสัญลักษณ์ไว้บนภาพปริศนา
“เมื่อก่อนข้าเคยมาแดนนานาอสูร ในพื้นที่เติบโตของหญ้าคืนวิญญาณมีอสูรฝึกจิตขั้นสี่ตั้งถิ่นฐานอยู่หนึ่งตัว”
ที่เหยียนเยว่เอ่อร์พูดเช่นนี้ นางเคยเป็นแข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์ ย่อมไม่เห็นหญ้าคืนวิญญาณระดับสี่อยู่ในสายตา ดังนั้นจึงไม่ได้เก็บมันไปด้วย
“ฝึกจิตขั้นสี่ ฆ่าสู้ไม่ได้” หลัวซิวขมวดคิ้ว เป็นเพราะเขารับค่าตอบแทนจึงยอมช่วยเหยียนเยว่เอ่อร์ตามหาหญ้าคืนวิญญาณ แต่เขาก็ไม่ยอมเสี่ยงอันตรายเช่นกัน
“ข้าย่อมไม่มีทางสั่งให้เจ้าไปตายอย่างสูญเปล่า สิ่งที่เจ้าต้องทำคือล่ออสูรตัวนั้นออกไป ข้าจะแอบเข้าไปเก็บหญ้าคืนวิญญาณเอง”
ในขณะที่พูด เหยียนเยว่เอ่อร์นำขวดหยกสีเขียวออกมาจากหน้าอกของตนเอง ส่งไปให้หลัวซิวแล้วพูด “ด้านในเป็นยาระเบิดเทพจิตสามเม็ด ใช้สามเม็ดสามารถทำให้พลังของเจ้าเพิ่มขึ้นสามขั้นเล็กในเวลาครึ่งชั่วโมงยาม ด้วยพลังของเจ้า เพียงพอรับมือกับอสูรตัวนั้น”
ยาระเบิดพลังเทพจิตรเป็นยาเม็ดที่ไร้ระดับชนิดหนึ่ง ไม่ว่าใครก็ตามที่ใช้ ล้วนแต่สามารถเพิ่มพลังสามขั้นเล็กในเวลาครึ่งชั่วยาม
แน่นอน หากผลการฝึกตนอยู่ในระดับสูง ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะลดลง ถ้าหากเป็นผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์ อย่างมากก็สามารถเพิ่มพลังได้หนึ่งขั้นเล็ก
ถึงจะเป็นแบบนั้น ยาระเบิดพลังเทพจิตก็ล้ำค่ามาก มันเป็นอาวุธสังหารในสนามรบ
บนขวดหยกมีความอบอุ่นของเหยียนเยว่เอ่อร์แฝงอยู่ เห็นได้ชัดนางพกติดตัวไว้ตลอดเวลา แม้จะมอบแหวนเก็บของให้หลัวซิวแล้ว แต่ของดีที่แท้จริงล้วนแต่อยู่บนตัวของนาง
แต่หลัวซิวก็ไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้ มียาระเบิดเทพจิต เขามั่นใจว่าน่าจะรับมือกับอสูรฝึกจิตขั้นสี่ได้แล้ว
หลัวซิวเป็นคนไม่ชอบพูดไร้สาระ นำยาระเบิดพลังเทพจิตอมไว้ในปาก พุ่งเข้าตรงเข้าไปผืนป่าที่อยู่ตรงหน้า ทิ้งภาพติดตาไว้ตรงตำแหน่งเดิมสายหนึ่ง
“โหง!”
เสียงคำรามที่โกรธเกรี้ยวดังขึ้น ราวกับพายุโหมกระหน่ำหมู่เมฆ ต้นไม้ใหญ่ล้มระเนระนาด คลื่นน้ำทะยานท้องนภา
ภายในผืนป่าแห่งนี้มีทะเลสาบแห่งหนึ่ง อสูรที่มีความยาวสามฟุต บนตัวเต็มไปด้วยเกล็ดสีม่วง มีเขาหนึ่งเขางอกออกมาจากกลางหัวทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า
มังกรเจียวเขาเดียวเกล็ดม่วง!
ทันทีที่หลัวซิวเข้าสู่อาณาเขตของมัน อสูรตัวนี้พุ่งออกมาด้วยความโกรธ เล่ากันว่ามังกรเจียวเขาเดียวเกล็ดม่วงมีสายเลือดของมังกรจริงที่แท้จริง หากสามารถพัฒนาไปถึงระดับมงกุฎยุทธ์ขั้นเจ็ด สามารถถอดร่างมังกรเจียวกลายเป็นมังกรของจริง!
ทันทีที่มังกรเจียวเขาเดียวเกล็ดม่วงปรากฏขึ้น สีหน้าของหลัวซิวเปลี่ยนไปทันที
“เหยียนเยว่เอ่อร์ เจ้ากล้าหลอกข้า! ?”
########################