บทที่ 178 อำนาจของตราแห่งความตาย (2)
“ไปให้พ้น!”
หลัวซิวปล่อยรังสีสังหารสีแดงเลือดออกมารอบตัว ภายใต้การรวมกระบี่สังหารของห้วงยุทธ์ กลายเป็นปราณกระบี่สีแดงเลือด สะท้อนกลับปราณกระบี่สีทองของนางผู้นั้นจนแหลกสลายไป
วินาทีต่อมา หลัวซิวใช้แขนข้างหนึ่งโอบหญิงสาวชุดขาวที่หมดสติไว้ แล้วลอยขึ้นไปในอากาศ เทียบได้กับการระเบิดพลังร่างเนื้อของร่างยุทธ์ขั้นสูงทั่วไป หมัดหนึ่งถูกปล่อยอัดไปยังหญิงสาวผมทอง
ผู้หญิงผมทองคนนั้นคือผลการฝึกตนของปรมาจารย์ยุทธ์แห่งการฝึกจิตขั้นหนึ่ง กระบี่สองเล่มในมือของนางถูกหมัดหลัวซิวต่อยกระจายด้วยแรงที่ไม่มีใครเทียบได้ การโจมตีอย่างดุเดือดทำให้นางลอยตีลังกาไป พร้อมเลือดออกที่มุมปาก
“หยุดมือ!”
ชายชุดสีดำและชุดสีฟ้าทั้งสองมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป ใครจะไปคาดคิดว่าชายหนุ่มชุดดำตรงหน้าจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ไม่เพียงแต่สามารถหยุดการโจมตีได้อย่างง่ายดาย ยังสามารถใช้หมัดโจมตีกลับปรมาจารย์ฝึกจิตจนบาดเจ็บได้
“เป็นเพียงแค่ระดับฝึกจิตครึ่ง แม้จะยืนลอยบนอากาศยังทำไม่ได้ จงตายเสียเถอะ!”
ชายหนุ่มชุดสีฟ้าฟาดฟันอย่างดุเดือดด้วยลำแสงกระบี่ยาวกว่าสิบเมตร และฟันไปทางหลัวซิวอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า
“จงสลายไป!”
หลัวซิวเอื้อมมือไปหยิบกระบี่ยุทธ์ที่อยู่ในฟักด้านหลังเขาออกมา เมื่อกระบี่นั้นถูกฟันออกไป ลำแสงกระบี่ยาวกว่าสิบเมตรก็ถูกตัดจนสลาย
ในเวลาเดียวกัน ร่างของเขาก็ร่วงลงมาจากกลางอากาศ เนื่องจากเขายังไม่ได้ฝึกจนถึงแดนที่สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้
ถึงแม้จะยังไม่สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ แต่ก่อนที่ร่างของหลัวซิวจะตกลงกับพื้น ดาบอีกเล่มก็ถูก ฟันออกไป
วิชายุทธ์ระดับเจ็ด กระบี่เพลิง!
เพลิงมรณะหลอมรวมกันเป็นปราณกระบี่เปลวไฟดำยาวนับสิบเมตร อีกทั้งปราณกระบี่นี้ยังหลอมรวมพลังกระบี่สังหารห้วงยุทธ์ไว้อีกด้วย
และพลังที่ประกอบไปด้วยห้วงยุทธ์นี้ ปรมาจารย์ฝึกจิตทั้งสามคนนั้นก็สามารถรับรู้ได้
“ไม่ได้การ รีบถอยก่อน!”
ชายชุดดำตะโกนเสียงดัง เพราะเขาสามารถสัมผัสได้ อำนาจของกระบี่ยุทธ์ครั้งนี้ เปรียบได้กับการลงมือของปรมาจารย์ยุทธ์ฝึกจิตระดับสี่
และพวกเขาทั้งสามพี่น้อง ต่างก็เป็นเพียงแค่ฝึกจิตระดับหนึ่ง
แม้ว่าชายชุดดำจะถอยกลับอย่างรวดเร็ว แต่ชายหนุ่มชุดฟ้าและหญิงผมทองนั้นมีปฏิกิริยาช้ากว่าเล็กน้อย
และเพราะปฏิกิริยาช้ากว่าเล็กน้อยนั้น ร่างทั้งสองจึงถูกตรึงไว้ด้วยกระบี่สังหารห้วงยุทธ์ของหลัวซิว
พลังของห้วงยุทธ์เดิมทีมาจากการปราบปรามของโลกยุทธ์ ภายใต้แรงกดดันของกระบี่สังหารห้วงยุทธ์นี้ อีกสามคนมีความรู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับราชายุทธ์ผู้แข็งแกร่ง
“เขาเป็นใครกันแน่? แม้แต่แดนฝึกจิตยังไปไม่ถึง แต่กลับสามารถครอบครองห้วงยุทธ์”
ชายชุดดำที่เผชิญหน้าอยู่เป็นคนแรกนั้นรู้สึกกดดันขึ้นมา และไม่กล้าที่จะดูถูก
“ห้วงยุทธ์นั้นถึงแม้จะเก่งกาจ แต่ผลการฝึกตนของเจ้านั้นไม่สูง ดูสิว่าข้าจะฆ่าเจ้าอย่างไร!” ทันใดนั้นแววตาของชายชุดดำก็เป็นประกายขึ้นมา “ตายซะ!”
คุณลักษณะที่เยือกเย็นของพลังจิตแท้หลอมรวมกัน เกิดเป็นแท่งน้ำแข็งแหลมคมครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับเกิดพายุหิมะ ที่กำลังกลืนกินหลัวซิวเข้าไป
“วิชากระจอก ๆ”
หลัวซิวกระตุกมุมปากแสดงความดูถูก แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะร่ายวิชายุทธ์ระดับเจ็ด แต่ด้วยผลการฝึกตนของฝึกจิตขั้นหนึ่ง ต้องการที่จะบรรลุให้ตนเองนั้นทัดเทียมเสมอเหมือนร่างเนื้อของร่างยุทธ์ขั้นสูงทั่วไป การป้องกันนั้นยังอ่อนเกินไป
“ตราชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ!”
“ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง! …”
แท่งน้ำแข็งแหลมคมพุ่งโจมตีบนร่าง เศษน้ำแข็งกระเซ็นนับไม่ถ้วน หลัวซิวเหมือนเข้าไปอยู่ในดินแดนที่ไร้มนุษย์ แสดงวิชาท่าร่างตามลมล่าจันทราแล้วกระโดดขึ้นไปในอากาศปรากฏตัวอยู่หน้าชายชุดดำ
ชายชุดดำตกใจจนหน้าซีด ไม่กล้าที่จะเชื่อว่า ชายหนุ่มต้องหน้าไม่เพียงแต่ครอบครองห้วงยุทธ์ อีกทั้งยังสามารถไปถึงร่างยุทธ์ระดับสูงแห่งแดนการกลั่นร่าง
ตัวเขานั้นก็เป็นหนึ่งในอัจฉริยะที่มีพลังโดดเด่น น่าเสียดายที่หากเทียบกับชายหนุ่มชุดคลุมยาวดำ ตนเองนั้นกลับห่างชั้นไม่เพียงแค่หนึ่งดาวครึ่ง
คิดได้ดังนั้น เขาก็คิดที่จะเหาะเหินเดินอากาศ ด้วยความคิดว่าชายหนุ่มชุดคลุมยาวดำไม่สามารถเดินบนอากาศได้ น่าจะตามเขามาไม่ทัน?
เปลวไฟดำแห่ง ณ เวลานี้ หลัวซิวที่อยู่ตรงหน้าเขายกมือขึ้นและตบมาทางเขา กลางฝ่ามือนั้นปรากฏรูปวงกลมที่มสีขาวและดำผสานกันขึ้น
ด้วยเหตุนี้จึงได้ปรากฏ ภาพเสมือนวัฏจักรชีวิตของวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ
หลัวซิวเก็บซ่อนวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ เข้าใจความลึกลับของชีวิตและความตายแห่งวัฏจักรชีวิต เข้าใจวิธีการผนึกนี้ มันแตกต่างจากขอบเขตของวิชายุทธ์ธรรมดามานานแล้ว
ผนึกรูปแบบนี้ พร้อมด้วยการรับรู้และความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับ และพัฒนาต่อไป พลังนั้นก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นไปอีก
ภายใต้อำนาจของตราชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ สีหน้าของชายชายชุดดำซีดเซียว ในใจของเขาคิดได้เพียงอย่างเดียว หนี!
ไม่เช่นนั้นเขาต้องตายแน่นอน!
เขาใช้ทุกวิถีทางเพื่อต่อต้าน เปลวไฟดำแห่ง พลังของตราชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพนั้นช่างน่ากลัวเหลือเกิน ฝ่ามือประทับบนหน้าอกของชายชุดดำ ด้วยพลังระเบิด ในเสี้ยววินาทีร่างของชายชุดดำก็แหลกสลาย ฉีกขาดออกจากกัน
หลังจากชายชุดดำตายไป ยันต์หยกขาวนับสิบร่วงหล่นจากละอองเลือดที่กระเซ็น ก็ถูกหลัวซิวเก็บเข้ามาทั้งหมดด้วยมือเดียว
ส่วนยันต์หยกแดงที่สามารถช่วยชีวิตและหลบหนีได้ เพราะชายชุดดำนั้นไม่เคยคิดว่าจะถูกฆ่าตาย ก็เลยไม่ได้คิดที่จะทำลายยันต์หยกแดงเพื่อหนี
ในป่าแห่งการแข่งขันที่มีชีวิตและความตายเป็นเดิมพัน ถึงแม้โดยปกติแล้วหลัวซิวจะฆ่าคนน้อยมาก แต่หากได้ลงมือแล้วเขาก็จะไม่ปรานี
ชายชุดดำคนนี้และอีกสองคนร่วมกันรุมฆ่าเขา หากเขาอ่อนข้อให้นั่นหมายถึงตัวเขาเองที่โง่เง่า
อีกทั้ง ตราชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ วิชายุทธ์นี้เขาไม่ได้ใช้มันบ่อย ๆ และเมื่อมันถูกแสดง มันจะแสดงความสามารถพิเศษซ้ำแล้วซ้ำเล่า และพลังของมันนั้นน่าทึ่งมาก
ชายหนุ่มชุดฟ้ากับหญิงสาวผมทองที่เหลือยู่มีสีหน้าหวาดหวั่น ชายชุดดำเป็นพี่ชายคนโตของพวกเขา มีพลังที่แกร่งที่สุด แต่กลับถูกอีกฝ่ายข้าตายแล้ว?
“น้องหญิงสาม รีบหนีไป!”
ชายหนุ่มชุดฟ้าตะโกนเสียงดัง ไม่รีบเร่งที่จะเขาไปต่อสู้กับหลัวซิว เพื่อให้น้องหญิงสามของเขาหนีไปได้ง่ายขึ้น แต่เขาพยายามเหาะลอยไปบนอากาศ หนีนำไปก่อน
เรื่องของความสัมพันธ์นั้น ระหว่างผู้ฝึกยุทธ์นั้นล้ำค่ายิ่งกว่าสิ่งใด ยิ่งเมื่อต้องเผชิญกับวินาทีแห่งความตาย สามารถไม่ทรยศต่อญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงก็ถือว่าไม่เลวแล้วคน คนส่วนใหญ่ไม่ต้องพูดถึงญาติหรือเพื่อนฝูง แม้แต่ภรรยาและลูกของตนก็สามารถทิ้งได้เพื่อเอาชีวิตรอด
ทั้งสามคนนั้น ผลการฝึกตนต่างเป็นผู้ฝึกจิตขั้นหนึ่ง พลังของทั้งสามกลับมีทั้งมากและน้อย ชายชุดดำแข็งแกร่งที่สุด ดังนั้นหลัวซิวจึงตั้งใจฆ่าเขาเป็นคนแรก
เหลือสองคน ชายหนุ่มชุดฟ้าแข็งแกร่งกว่าหญิงสาวผมทองเล็กน้อย
“กระบี่เพลิง!”
หลัวซิวคว้ากระบี่ยุทธ์ที่อยู่ด้านหลังออกจากฝัก เพลิงมรณะหลอมรวมกันกลายเป็นดาบเปลวเพลิงอัสนี และตามชายหนุ่มชุดฟ้าที่หนีไปก่อนแล้วไป
ดาบเปลวเพลิงอัสนีไม่เหมือนปกติที่เคยใช้ เมื่อใช้กระบี่เพลิงซึ่งเป็นวิชายุทธ์ระดับเจ็ด สามารถยกระดับพลังธาตุไฟปราณแท้แห่งพลังจิตแท้ได้
เพลิงมรณะอัดแน่นไปด้วยพลังของธาตุไฟ แน่นอนว่ายังเป็นช่วงของการเพิ่มชั้นเชิงของกระบี่เพลิง
ชายหนุ่มชุดฟ้ามีความคิดแค่เพียงหนีไปจากตรงนี้ แต่เมื่อรู้สึกได้ถึงอันตรายที่ไล่ตามมาเบื้องหลัง แม้อยากจะโต้กลับสักเท่าไรแต่มันก็สายไปแล้ว เสียงฉับดังขึ้น ดาบเปลวเพลิงอัสนีตัดขาเขาจนหักทั้งสองข้าง
กลางอากาศ ชายหนุ่มชุดฟ้ากรีดร้องโหยหวน บาดแผลที่ถูกตัดขาทั้งสองข้าง มีรัศมีแห่งความตายอันน่าสยดสยองเข้ามาในร่างกายของเขา ความเจ็บปวดอันน่าสลดใจที่ดูเหมือนจะกัดกินชีวิตของเขา ทำให้เขาเจ็บปวดจนอยากตายให้รู้แล้วรู้รอด
หลัวซิวไม่ได้ขัดศรัทธาของคนตรงหน้า มือหนึ่งตวัดดาบ ลำแสงหลายเส้นถูกออกมาปล่อยออกมาจากดาบเปลวเพลิงอัสนี พุ่งตรงไปฆ่าชายหนุ่มชุดฟ้าตายในทันที
ในขณะเดียวกัน หญิงสาวผมทองคนสุดท้ายที่หลบหนีไปได้แล้วนั้น ใช้ประโยชน์จากปรมาจารย์ฝึกจิตที่สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้นั้น ลอยขึ้นไปบนฟ้าสูง หลัวซิวจึงไม่อาจตามไปได้
########################