เธอรู้ดีว่าพละกำลังของอาจารย์คนนี้แข็งแกร่งมาก ถึงแม้จะมีแค่ผลการฝึกตนราชายุทธ์ขั้น1 แต่กลัวว่าพละกำลังจะแกร่งกล้ากว่ากู้เผิง ราชายุทธ์ขั้น8 เสียอีก ยิ่งไปกว่านั้นคนที่สามารถเอาวิชาปฐมอสูรฟ้ามาได้ จะธรรมดาได้อย่างไร
ไม่ต้องพูดเรื่องที่เขามีบุญคุณกับตัวเอง มีผู้แข็งแกร่งแบบนี้ร่วมทางไปด้วย มีเพียงแต่ประโยชน์เท่านั้น พวกกู้เผิงมองการณ์ตื้นเขิน ไล่เขาไป ช่างโง่เขลาสิ้นดี
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็เชิญตามสบาย!” กู้เผิงพูดเคร่งขรึม เขาไม่เข้าใจว่าศิษย์น้องคนนี้เป็นอะไรไป ทำไมถึงให้ความสนใจกับคนแปลกหน้าเช่นนี้
หลัวซิวมองฮู๋ชิงชิง ยิ้มแล้วพูดว่า “แม่นางชิงชิงไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ฉันมีเรื่องที่ต้องไปจัดการพอดี ขอลาก่อน”
ระหว่างพูด หลัวซิวพลิกมือหยิบม้วนหยกออกมา ยื่นให้ฮู๋ชิงชิง พูดผ่านตัวสำนึกว่า “ในม้วนหยกนี้เป็นวิชาฝึกตนแดนราชายุทธ์ วิชาปฐมอสูรฟ้า หลังจากเธอฝึกตน พละกำลังน่าจะแข็งแกร่งขึ้นไม่น้อย”
เพราะข้อจำกัดของผลการฝึกตนของตัวเอง เขาจึงได้รับเพียงวิชายุทธ์ที่ไม่เกินระดับราชายุทธ์ ผ่านเทพแห่งวัฏจักรชีวิต สำหรับวรยุทธ์ที่ตามหลังวิชาปฐมอสูรฟ้ามานั้น ต้องรอให้เขามีระดับผลการฝึกตนถึงจักรพรรดิยุทธ์ขึ้นไป
ฮู๋ชิงชิงยื่นมือมารับม้วนหยก ขณะกำลังจะเอ่ยขอบคุณ ก็เห็นหลัวซิวหันหลังเดินไปแล้ว ร่างกายแวบไปมาไม่กี่ครั้ง ก็หายวับไปทันที
หวูสงที่โดนงูพิษกัดก่อนหน้านี้ ได้กินยาแก้พิษแล้ว เห็นหลัวซิวเดินจากไป ก็พูดอย่างเคร่งขรึม “ไอ้หมอนี่มีพละกำลังแข็งแกร่ง ถ้าไม่มีเจตนาไม่ดี ทำไมถึงช่วยแค่ศิษย์น้องชิงชิง แต่ไม่ช่วยฉันล่ะ”
เขาเอาการที่ตัวเองโดนงูพิษกัด ผลักเป็นภาระให้หลัวซิว ที่เห็นคนจะตายแล้วไม่ช่วย
เมื่อพูดจบ เขาหันไปมองฮู๋ชิงชิง แล้วพูดว่า “ศิษย์น้องชิงชิง ม้วนหยกที่เขาให้เธอ ทางที่ดีดูให้ละเอียดสักหน่อย ว่ามีวิธีอะไรไม่ดีหรือเปล่า”
ฮู๋ชิงชิงส่งเสียงหึ เพราะการที่หลัวซิวจากไป เธอรู้สึกหดหู่ใจ แต่เธอไม่สามารถอธิบายเรื่องหลัวซิวให้คนพวกนี้ฟังได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงปล่อยให้คนพวกนี้เข้าใจเขาผิด
เมื่อมองพวกกู้เผิง ฮู๋ชิงชิงรู้สึกหงุดหงิด ถ้าให้เธอเลือก เธอยอมไปกับหลัวซิว ดีกว่าอยู่กับพวกเมืองฝูถู ที่หยิ่งยโสเป็นอย่างมาก
ในแดนแต่งตั้งราชา ไม่ได้ห้ามเหาะเหิน หลัวซิวเหาะบนท้องฟ้า ใช้วิชาท่าร่างบรรลุมังกรเขียว ร่างกายกลายเป็นเงาเลือนรางรูปมังกรสีเขียวอ่อน เหมือนลอยไปตามลม ราวกับฝนดาวตกพาดผ่านขอบฟ้า สว่างวาบแล้วหายไป
ทันใดนั้น ลมปราณอันโหดเหี้ยมโถมเข้ามา อินทรีย์ขนทองที่มีหงอนบนหัวบินเข้ามา
อินทรีย์ขนทองทั่วไป เป็นอสูรกายระดับ5 แต่ถ้ามีหงอนด้านบน จะเป็นระดับ5 ขั้นสูงสุด เมื่อหงอนแตกออกจะมีเขางอกออกมาหนึ่งอัน จะเป็นอินทรีย์ขนทองเขาสายฟ้า กลายเป็นอสูรกายระดับ6 ทัดเทียมกับผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์
หลัวซิวรู้ดีว่าหากใช้พละกำลังของตัวเอง ฆ่าอินทรีย์ขนทองระดับ5 ขั้นสูงสุด ต้องสูญเสียพละกำลังอย่างมาก และการฆ่ากลางอากาศ เรียกความสนใจจากคนอื่นด้วย ทำให้โดนจับตามองได้ง่าย
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หลัวซิวจึงไม่คิดจะขัดแย้งกับเจ้าแห่งท้องนภาตัวนี้ เขาหายตัวแวบลงมาจากท้องฟ้า
“แกว๊ก!”
อินทรีย์ขนทองไม่ได้ไล่ตามมา แต่ส่งเสียงร้องออกมา ราวกับกำลังประกาศว่าท้องนภาแห่งนี้คือถิ่นของมัน
“ไม่เสียแรงที่เป็นวิชาท่าร่างระดับยิ่งเลิศ”
หลังลอยลงมาจากฟ้า หลัวซิวอดทอดถอนใจไม่ได้ หลังใช้วิชาวิชาท่าร่างบรรลุมังกรเขียว ถึงความเร็วของเขาเทียบไม่ได้กับความสามารถเทเลพอร์ต แต่ถึงเป็นผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์ ก็ไม่สามารถเทียบความสามารถด้านความเร็วกับตัวเองได้
ถ้ากระตุ้นปีกทิพย์ไร้มลทินอีก ความเร็วจะเพิ่มไปอีกกี่เท่า เพียงพริบตา สามารถผ่านระยะทาง 700 กว่าเมตร
แต่ปีกทิพย์ไร้มลทิน วรยุทธ์พรสวรรค์ชนิดนี้ ไม่สามารถใช้พร่ำเพรื่อ ถ้ามีคนจับได้ แม้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับมกุฏยุทธ์ขึ้นไป ก็ต้องหวั่นไหว ถ้าลงมือแย่งชิง ตัวเองไม่สามารถต้านทานได้แน่นอน
“หืม มีกลิ่นยารุนแรง……”
ทันใดนั้น จมูกหลัวซิวสั่นเล็กน้อย การเป็นปรมาจารย์กลั่นยาระดับ6 เขารู้สึกไวต่อกลิ่นยาทิพย์เป็นอย่างมาก ถึงไกลหลายสิบลี้ เขาก็สามารถได้กลิ่นยาทิพย์ที่แผ่ซ่านออกมาได้
ดมกลิ่นและทำความรู้จักยา จากที่ได้กลิ่น หลัวซิวพอจะยืนยันได้ว่า ยาทิพย์ที่มีกลิ่นแบบนี้ เป็นยาทิพย์ระดับ6
อีกทั้งยาทิพย์ไม่ได้มีเพียงชนิดเดียว ไม่ได้มีเพียงต้นเดียว!
หลัวซิวรีบเคลื่อนตัวไปตามกลิ่นยาทิพย์
สำหรับเรื่องที่จะได้ฉายาในแดนแต่งตั้งราชาอย่างไรนั้น หลัวซิวไม่สนใจ แดนแต่งตั้งราชาร้อยปีเปิดหนึ่งครั้ง หลังจากเปิดแต่ละครั้ง สภาพด้านในแดนลึกลับล้วนต่างกัน วิธีได้รับฉายา ก็แตกต่างกันไปด้วย
จากบันทึกในประวัติศาสตร์ การได้รับฉายา แบ่งเป็นสามวิธี วิธีแรกคือแก่งแย่งฆ่าฟัน นั่นก็คือให้ราชายุทธ์ที่เข้ามาในแดนแต่งตั้งราชาฆ่าฟันกันเอง ยิ่งฆ่าคู่ต่อสู้ได้มากเท่าไร ลำดับรายชื่อก็จะยิ่งสูงขึ้น สุดท้ายจะได้รับฉายา
ยังมีอีกวิธีก็คือการทดสอบ ในแดนลึกลับจะมีสถานที่ทดสอบ ยิ่งได้รับผลคะแนนดี ลำดับรายชื่อก็จะยิ่งสูง
วิธีที่สามคือแย่งชิงสมบัติ ในแดนลึกลับจะมีสมบัติสิบชิ้น ใครเอาสมบัติหนึ่งในนั้นมาได้ จะมีรายชื่อฉายาหนึ่งในสิบราชายุทธ์
นอกจากฉายาแล้ว ในแดนลึกลับยังมีสมบัติล้ำค่ามากมาย ที่หาได้ยากในโลกภายนอก แม้ไม่สามารถแย่งชิงรายชื่อฉายามาได้ ราชายุทธ์คนอื่นก็สามารถได้รับอะไรอีกมากมาย ทำให้ยกระดับได้ไม่น้อย
สำหรับตอนนี้ การจะได้รับฉายาอย่างไรนั้น ยังไม่สามารถทราบได้ อีกทั้งแดนแต่งตั้งราชาเปิดเป็นเวลา 1 ปี หลัวซิวไม่รีบร้อนอยู่แล้ว
หลังผ่านไปครึ่งชั่วยาม หลัวซิวพบสวนยา ในหุบเขาแห่งหนึ่ง
ยาทิพย์หลากหลายชนิด มีให้เห็นเต็มไปหมด งอกงามอยู่ในหุบเขาแห่งนี้ พลังฟ้าดินจิตที่อยู่ในเขตบริเวณพันลี้ ล้วนรวมตัวกันอยู่ในหุบเขาแห่งนี้ จึงทำให้เขตบริเวณนี้ดูค่อนข้างเงียบสงบ
อีกทั้งยาทิพย์ในหุบเขา ได้รับการซึมซับหล่อเลี้ยงจากพลังจิต เป็นระยะเวลานาน ทำให้โตเต็มที่ ส่งกลิ่นหอมของยาออกมา ดึงดูดหลัวซิว
“หญ้าเขาวัวสามวนงั้นเหรอ นี่เป็นของหายาก สามารถเอามากลั่นยาปีศาจโคแรงม้าระดับ7ได้”
“ยังมีผลปฐวียาทิพย์ระดับ6 ด้วยเหรอ สิ่งนี้กินเพียงเม็ดเดียว สามารถยกระดับฝีมือได้สิบปี! ถ้ากลั่นเป็นยาปฐวีระดับ6 หนึ่งเม็ด สามารถต้านทานการบำเพ็ญตนพลังฟ้าดินจิตกลืนกินสามสิบปี!”
หลัวซิวเห็นยาพวกนี้ ตาของเขาเป็นประกายทันที เขาลองคิดดูครู่หนึ่ง จากระดับการกลั่นยาของเขาในตอนนี้ ยังไม่สามารถใช้ยาทิพย์ระดับ7 สองสามต้นได้ชั่วคราว ส่วนยาทิพย์ระดับ6 ชนิดอื่น สามารถกลั่นเป็นยาได้ทั้งหมด น่าจะทำให้ผลการฝึกตนของเขา ยกระดับขึ้นไม่น้อย
ยาทิพย์ระดับ7 เป็นสิ่งที่หาได้ยากในโลกภายนอก แค่มันปรากฏออกมา ก็จะโดนพวกตาเฒ่าประหลาดมกุฏยุทธ์ชิงไป หลัวซิวคิดไม่ถึงว่าในแดนแต่งตั้งราชา จะมียาทิพย์ระดับนี้อยู่ด้วย