Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1031 ผู้ปรีชาสามารถใต้หล้าล้วนเป็นคนรุ่นข้า

ตอนที่ 1031 ผู้ปรีชาสามารถใต้หล้าล้วนเป็นคนรุ่นข้า

ตอนที่ 1031 ผู้ปรีชาสามารถใต้หล้าล้วนเป็นคนรุ่นข้า
เย่หมัวเฮอ!

เสียงสูดหายใจเข้าด้วยความตกใจดังขึ้นในที่นั้นระลอกหนึ่ง

หลินสวินสังเกตเห็นว่าเซียวชิงเหอเองก็ตะลึง สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างยากจะสังเกต

“เพื่อวาสนา เจ้าหมอนี่ไม่เอาชีวิตแล้วจริงๆ แดนมรณะประหัตมารเป็นถึงสนามรบโบราณที่มีชื่อเสียง ภายในเต็มไปด้วยอันตราย อย่าว่าแต่ผู้ฝึกปราณระดับกระบวนแปรจุติ แม้แต่บุคคลระดับราชันที่แท้จริงยังไม่กล้าก้าวเข้าไปง่ายๆ!”

เซียวชิงเหอพึมพำ

เห็นได้ชัดว่าแดนมรณะประหัตมารที่เย่หมัวเฮอเข้าไป ทำให้เขาไม่สามารถสงบได้

“วาสนาอะไร” หลินสวินแปลกใจ

เซียวชิงเหออธิบายอย่างอดทน

เดิมทีแดนมรณะประหัตมารเป็นหนึ่งในห้าเขตหวงห้ามแห่งดินแดนรกร้างโบราณ เป็นสนามรบลี้ลับอันน่ากลัวแห่งหนึ่งที่มีมาตั้งแต่บรรพกาล อันตรายที่แฝงอยู่นั้นยากจะคาดเดา แปลกประหลาดและไม่ชัดเจน

แต่ตอนนี้ภายในก็มีศุภโชคและวาสนามากมายที่ไม่สามารถบอกได้!

ทว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา ผู้แข็งแกร่งคนใดที่เข้าไปในแดนมรณะประหัตมารแทบจะเก้าตายหนึ่งรอด ทำให้เขตหวงห้ามแห่งนี้เป็นที่หวาดกลัวของผู้ฝึกปราณทั่วหล้า แทบจะไม่มีใครกล้าก้าวเข้าไปแม้แต่ก้าวเดียว

“จากบันทึกในตำราโบราณของตำหนักศักดิ์สิทธิ์สุริยันจันทราของข้า แดนมรณะประหัตมารไม่ธรรมดาอย่างมาก มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกี่ยวข้องกับสงครามเทพมารในตำนาน”

เซียวชิงเหอกล่าวเสียงขรึม “และตอนนี้ที่เย่หมัวเฮอนี่เข้าไปโดยลำพัง คงเพื่อฝึกมรรค ‘ต้าหลัวคืนสัจจะ’ ของเขา!”

มรรคต้าหลัวคืนสัจจะเป็นหนึ่งในเก้าสิบเก้ามหามรรคเทียมฟ้า สะเทือนอดีตสาดส่องปัจจุบัน มรรคนี้ถูกลัทธิเทพต้นกำเนิดครอบครองอย่างมั่นคงมาโดยตลอด

ทว่าแม้แต่ในลัทธิเทพต้นกำเนิด ก็ใช่ว่าทุกคนจะสามารถบรรลุและครองครอบแก่นอัศจรรย์ของมรรคนี้ได้

ไม่มีเหตุผลอื่นใด เป็นเพราะมรรคนี้เทียมฟ้า มหัศจรรย์ยากเข้าใจ ไม่ใช่แค่มีพรสวรรค์ก็จะสามารถหยั่งถึงมรรคนี้ได้

แต่เห็นได้ชัดมากว่าเย่หมัวเฮอเป็นกรณียกเว้น

“มรรคต้าหลัวคืนสัจจะ คืนความเป็นความตาย แปรจักรวาล ปราบสิ่งชั่วร้าย มหัศจรรย์เกินคาดเดา ไม่ด้อยไปกว่า ‘มรรคสว่างไสวไม่เคลื่อน’ ของตำหนักศักดิ์สิทธิ์สุริยันจันทราของข้า หากเย่หมัวเฮอสามารถฝึกมรรคนี้จนถึงระดับแก่นมรรคได้ พลังต่อสู้จะต้องน่ากลัวไร้เทียมทานอย่างแน่นอน”

ในเสียงของเซียวชิงเหอแฝงความหวาดกลัวและระแวง “ตอนนี้พลังต่อสู้ของเขาอยู่ในอันดับที่ห้าของสิบยักษ์ใหญ่ยอดมกุฎแห่งแดนชัยบูรพา แต่ถ้าสามารถรอดชีวิตออกมาจากแดนมรณะประหัตมาร อันดับจะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน”

หลินสวินฟังเงียบๆ ในใจไหวสะเทือนอย่างมากเช่นกัน

บนโลกนี้ไม่เคยขาดบุคคลขอบเขตมกุฎ ดังเช่นเย่หมัวเฮอ การที่สามารถอยู่ในอันดับสิบยักษ์ใหญ่ยอดมกุฎ ย่อมต้องเป็นบุคคลระดับปีศาจที่สะดุดตาอย่างยิ่ง

ตอนนี้บนต้นข่าวสารทองคำ ปรากฏข่าวสารที่ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ห้าของกระดานเกียรติภูมิผู้กล้า…

‘จี้ซิงเหยาธิดาเทพรุ่นปัจจุบันของเรือนกระบี่เร้นปุจฉา สำนักอันดับหนึ่งของแดนฐิติประจิมมุ่งหน้าไปท้าทายหวังเสวียนอวี๋ศิษย์แกนหลักแห่งสำนักเอกอุ!’

‘ที่น่าเสียดายคือหวังเสวียนอวี๋ปิดด่านไม่เคยรับศึก จี้ซิงเหยาคนเดียวเอาชนะผู้สืบทอดแกนหลักแปดคนของสำนักเอกอุ จากไปอย่างสง่างาม!’

ในลานฮือฮายิ่ง

จี้ซิงเหยา ชื่อนี้จะต้องเป็นที่รู้จักของทุกสำนักใหญ่ในแดนชัยบูรพาภายในชั่วข้ามคืนอย่างแน่นอน!

‘ผู้หญิงเย่อหยิ่งคนนี้ก็มาแล้วหรือ…’ สีหน้าของหลินสวินแปลกประหลาดเล็กน้อย นึกถึงเหตุการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้นกับจี้ซิงเหยาในแดนฐิติประจิม

“เจ้าเองก็มาจากแดนฐิติประจิม เจ้าคิดว่าจี้ซิงเหยาแข็งแกร่งเพียงใด” เซียวชิงเหออดถามไม่ได้

“แข็งแกร่งมาก คงจะแข็งแกร่งกว่าเจ้าไม่ใช่น้อยๆ แน่” หลินสวินพูดสบายๆ

เซียวชิงเหอท่าทางผิดพแปลก ยิ้มขื่นพูด “ข้าเพียงถามดูเท่านั้น จำเป็นต้องโจมตีข้าเช่นนี้หรือ”

“ข้าเพียงพูดตามความจริง ผู้ฝึกปราณหญิงคนนี้มี ‘ประทับกระบี่ไตรภพ’ ที่แข็งแกร่งมาก ยามอยู่ในเทศกาลโคมกถามรรคยังหยั่งถึงมหามรรคแห่งนิลกาฬที่ถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสี่ยอดมรรคสังหาร พลังต่อสู้นั้นใช่ว่าคนในขอบเขตมกุฎทั่วไปจะเทียบได้”

หลินสวินอธิบาย

เซียวชิงเหอเบ้ปาก จู่ๆ ก็พูดว่า “เช่นนั้นเจ้ากับนางใครแข็งแกร่งกว่า”

หลินสวินชะงัก ใคร่ครวญแล้วเอ่ย “เรื่องนี้พูดยาก ตอนอยู่ในแดนฐิติประจิมข้าเคยดวลกับนางครั้งหนึ่ง แต่ยังไม่รู้แพ้ชนะ ส่วนตอนนี้…”

“ตอนนี้เป็นอย่างไร” เซียวชิงเหอซักไซ้

“พูดยาก” หลินสวินส่ายหน้า เขาแข็งแกร่งขึ้น แต่อีกฝ่ายก็แข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน นอกจากประลองกันอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นเขาไม่กล้าคุยโวว่าจะสามารถชนะอีกฝ่ายได้

เห็นได้ชัดว่าคำตอบนี้ไม่สามารถทำให้เซียวชิงเหอพอใจได้ แต่คิดดูอย่างละเอียดแล้ว เขาเองก็เข้าใจได้ว่า ผู้ที่แข็งแกร่งระดับเทพมารหลิน ไม่สามารถใช้มาตรฐานทั่วๆ ไปมาวัดได้ตั้งนานแล้ว

จากนั้นบนต้นข่าวสารทองคำก็ทยอยปรากฏข่าวที่ถูกจัดอยู่ในอันดับที่สี่ สาม สองบนกระดานทองคำผู้กล้า

ทุกข่าวที่เผยแพร่ออกมาล้วนทำให้เกิดความฮือฮาขึ้น

แม้แต่หลินสวินก็ยังดูอย่างเพลิดเพลิน

อย่างข่าวที่ถูกจัดอยู่ในอันดับที่สี่ เกี่ยวข้องกับนักดาบนามว่าเซี่ยวชางเทียน คนผู้นี้มาจากแดนดาราอุดร ชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาพร้อมกับมารกระบี่เยี่ยเฉิน ทั้งสองถูกมองว่าเป็น ‘คู่ยอดดาบกระบี่’ รุ่นเยาว์ของแดนดาราอุดร พลังต่อสู้พลิกฟ้า

ข่าวที่ถูกจัดอยู่ในอันดับที่สาม เกี่ยวข้องกับหมีเหิงเจินผู้สืบทอดตำหนักศักดิ์สิทธิ์สุริยันจันทรา บอกว่าเขาหมายจะเลียนแบบอริยบุคคลบรรพกาล มุ่งหน้าไปฝึกปราณที่ ‘เส้นทางดาราวัฎจักร’ ที่เป็นหนึ่งในห้าเขตหวงห้าม

ตอนที่ได้ยินข่าวนี้ เซียวชิงเหอทั้งตกใจทั้งกังวล

เพราะหมีเหิงเจินเป็นคนในรุ่นเดียวกันที่เขาชื่นชมที่สุดในสำนัก

แต่เซียวชิงเหอรู้ดีว่า เส้นทางดาราวัฎจักรก็เหมือนกับแดนมรณะประหัตมาร ใช่ว่าใครจะบุกรุกเข้าไปได้ง่ายๆ!

ข่าวที่จัดอยู่ในอันดับที่สองกลับทำให้หลินสวินตะลึงอย่างมาก เพราะเกี่ยวข้องกับผู้หญิงที่มีที่มาลึกลับไม่อาจคาดเดคนหนึ่ง

ตามข่าวระบุว่าผู้หญิงคนนี้อาศัยอยู่ในโลงศพน้ำแข็งแผนที่ดาราอันลึกลับและแปลกประหลาด รอบตัวมีข้ารับใช้ที่พลังต่อสู้คับฟ้าสองตัว ซึ่งเป็นหมียักษ์สีเงินตัวหนึ่งและตะพาบมังกรเลือดบริสุทธิ์ตัวหนึ่ง!

กลุ่มของพวกเขาเคยปรากฏตัวริมแม่น้ำพรมแดน ผู้หญิงที่อยู่ในโลงศพน้ำแข็งนั่นเผยร่องรอย ดึงดูดความสนใจของสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันผู้หนึ่งในแดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์ หมายจะช่วงชิงโลงศพน้ำแข็งที่นางอาศัยอยู่

แต่ผลลัพธ์กลับทำให้กลัวจนตัวสั่น ผู้หญิงคนนั้นหิ้วฝาโลงศพสังหารสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันคนนั้นภายในการโจมตีเดียว!

ตามการคาดเดาของเผ่าวาทวาโย โลงศพน้ำแข็งนั่นต้องเป็นสมบัติอริยะที่ลึกลับและน่ากลัวอย่างที่สุดชิ้นหนึ่งแน่!

และด้วยเหตุนี้ ทำให้ผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในโลงศพน้ำแข็งเต็มไปด้วยสีสันอันลึกลับอย่างไร้ที่เปรียบชั้นหนึ่ง

“ฝาโลงศพอันเดียวกระแทกสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันคนหนึ่งจนตาย ผู้หญิงโลงศพน้ำแข็งนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ!” เซียวชิงเหอจุ๊ปาก

แต่หลินสวินกลับนึกขึ้นได้ว่าเคยเห็นหมียักษ์สีเงินและโลงศพน้ำแข็งที่ถูกตะพาบมังกรตัวนั้นแบกไว้กลางหลัง ตอนที่อยู่ใต้หาดดาราขจรอันลึกลับนั่น

ประสบการณ์ในตอนนั้นค่อนข้างแปลกประหลาด ไม่ว่าจะเป็นหมียักษ์สีเงินหรือตะพาบมังกรนั่น หลังจากเห็นตนก็เหมือนเห็นผี ตกใจจนหนีเตลิดไป

จวบจนถึงตอนนี้หลินสวินก็ยังไม่เข้าใจเหตุผลที่ซ่อนอยู่

และตอนนี้พอได้ยินข่าวของหมียักษ์สีเงินและตะพาบมังกรเลือดบริสุทธิ์อีกครั้ง ทำให้เขาเข้าใจว่า ที่แท้โลงศพน้ำแข็งที่ประทับภาพแผนที่ดาราอันลึกลับนั่น กลับมีผู้หญิงคนหนึ่งอาศัยอยู่ภายใน!!

นางเป็นใคร

หรือจะเป็นบุคคลลึกลับเหมือนนายน้อยเผ่าราชันเร้นดารา ‘เซ่าเฮ่า’ และ ‘คุณชายน้อย’ แห่งเกาะอริยะปัญจธาตุ

หลินสวินคิดวิเคราะห์อย่างรวดเร็ว

และตอนนี้เอง เสียงฮือฮาราวกับคำรามดังขึ้นในที่นั้นอย่างกะทันหัน สะเทือนฟ้าสะท้านดิน อานุภาพเสียงทรงพลังอย่างมาก

เซียวชิงเหอกลับตบไหล่หลินสวิน สื่อจิตอย่างตื่นเต้น ‘เก่งจริงพี่หลินของข้า ข้าว่าจะด้วยวีรกรรมอันยิ่งใหญ่เกรียงไกรในนครหยกขาวของเจ้า เพียงพอที่จะสะเทือนใต้หล้าแล้ว!’

หลินสวินได้สติจากภวังค์ความคิด เงยหน้าขึ้นมองไป ข่าวที่ถูกจัดอยู่ในอันดับหนึ่งของกระดานเกียรติภูมิผู้กล้านั่นไม่รู้ว่าปรากฏขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ สร้างความตื่นตะลึงให้ทุกคน

——

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท