มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 480
ถ้าอาจารย์มกุฎยุทธ์คนหนึ่งตาย ในแหวนเก็บของ จะต้องมีของล้ำค่าที่น่าพอใจมากเลยทีเดียว
“ในสำนักไท่เสวียน มีเกาเหลียนหงทำหน้าที่กำกับค่ายกล อาจารย์ตระกูลหยูไม่ใช่ปรมาจารย์ค่ายกลขั้น7 ไม่มีอะไรต้องกังวล”
หลัวซิวไม่ได้เข้าไป แต่ได้ตั้งค่ายกลไว้ระหว่างทางผ่าน
โครม!โครม!โครม!
ไม่นาน ก็มีเสียงดังสนั่นไปทั่วทิศ หยูเชียนฮั่วอาศัยที่ตนเองมีผลการฝึกตนระดับมกุฎยุทธ์ เลยเริ่มทำลายค่ายกล
หลัวซิวก็ตั้งค่ายกลอย่างไม่รีบร้อน อันดับแรกเป็นค่ายยากเย็นขั้น7หนึ่งตำแหน่ง จากนั้นก็เป็นค่ายสังหารระดับ7อีก8ตำแหน่ง
ค่ายยากเย็นหนึ่งตำแหน่ง ค่ายสังหารอีก8ตำแหน่ง ค่ายกลระดับ7ติดตั้งทั้งหมด9ตำแหน่ง ต่อให้อาจารย์ตระกูลหยูจะมีผลการฝึกตนระดับมกุฎยุทธ์ขั้น4 แต่ถ้าตกลงไปอยู่ในค่ายกลแล้ว ก็อย่างหวังว่าจะออกมาได้
หยูเชียนฮั่วมาด้วยความโมโหและพลังอฆาตมหาศาล สำนักไม้เสวียนซื้อข่าวกรองเกี่ยวกับสำนักไท่เสวียนจากแก๊งรอบรู้ ข้อมูลบอกว่า สำนักไท่เสวียนก็เป็นแค่กองกำลังที่เพิ่งตั้งตัวเป็นสำนักขึ้นมาเท่านั้น เจ้าสำนักที่ชื่อหลัวซิว ก็เป็นแค่คนรุ่นหลังที่มีระดับมกุฎยุทธ์คนหนึ่งเท่านั้น
ตามหลักแล้ว อาศัยพลังของอาจารย์มกุฎยุทธ์อย่างเขา จะกำจัดสำนักเล็กๆ แห่งหนึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร
แต่ข้อมูลที่สำนักไม้เสวียนซื้อมานั้นไม่ครบถ้วน ในนั้นไม่ได้พูดถึงว่าสำนักไท่เสวียนแห่งนี้ มีค่ายพิทักษ์เขาระดับ7อยู่ด้วย
“ให้ตายเถอะ!”
หยูเชียนฮั่วออกแรงเต็มกำลัง ก็ทำอะไรต่อการป้องกันของค่ายพิทักษ์เขาขั้น7ไม่ได้เลย เลยรู้ว่าอาศัยแค่พลังตนเอง วันนี้คงจะไม่สามารถกำจัดสำนักไท่เสวียนได้แล้ว
“คิดว่ามุดหัวอยู่ในค่ายพิทักษ์เขา แล้วกูจะทำอะไรไม่ได้งั้นหรือ?” หยูเชียนฮั่วสองตาแดงก่ำ จิตอาฆาตเต็มเปี่ยม
เขารู้จักปรมาจารย์ค่ายกลขั้น7คนหนึ่ง เชื่อว่าถ้าเชิญมาได้ การที่จะกำจัดสำนักไท่เสวียน ก็จะเป็นเรื่องง่าย
คิดถึงจุดนี้ หยูเชียนฮั่วก็ส่งเสียไงม่พอใจ แล้วก็คิดจะกลับไป
การมาครั้งนี้ถึงแม้จะไม่สามารถกำจัดสำนักไท่เสวียนที่สมควรตายไปได้ แต่ก็ได้รู้ตื้นลึกหนาบางของฝั่งตรงข้าม ก็แค่อาศัยค่ายพิทักษ์เขาขั้น7มาไว้ปกป้องเท่านั้นเอง ในสำนักไม่มีผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎยุทธ์เลย
“ฮ่าๆ ตาเฒ่าประหลาดหยู ในเมื่อมาแล้ว จะคิดกลับออกไปทำไมเล่า?”
เกาเหลียนหงผู้ที่กำกับค่ายพิทักษ์เขา เห็นว่าหยูเชียนฮั่วจะกลับออกไป ก็เลยเงยหน้าหัวเราะออกมา ค่ายพิทักษ์เขาก็เปลี่ยนจากระบบป้องกันเป็นระบบโจมตี ยิงแสงสีทองขนาดใหญ่เข้าไป
“บัดซบ!”
หยูเชียนฮั่วก็มีแสงสีขาวรอบตัว ซัดฝ่ามือทำลายแสงสีทองที่พุ่งใส่ แต่ว่าเขาเองก็ถูกเศษพลังของแสงสีทองทำร้ายเหมือนกัน จนต้องถอยหลังไปหลายก้าว เลือดลมในตัวสั่นไหว
แต่ว่าตาของหยูเชียนฮั่วก็หยีลง แล้วพูดในใจว่า ค่ายพิทักษ์เขาของสำนักไท่เสวียนมีการป้องกันแน่นหนามาก แต่การโจมตีไม่รุนแรง มีพลังเทียบเท่าแค่ระดับมกุฎยุทธ์ขั้น3เท่านั้น
เขาก็ไม่อยู่รอช้า กลายร่างเป็นแสงกระบี่ แล้วก็พุ่งขึ้นท้องฟ้าไปในพริบตา
ห่างจากไปสำนักไท่เสวียน13ลี้ หลัวซิวยืนอยู่บนภูเขาแห้งแล้งแห่งหนึ่ง มือไพล่หลังตาหยียืนมองแสงกระบี่ที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
“หยูเชียนฮั่ว มึงมารุกรานสำนักไท่เสวียนของกู ยังจะคิดกลับไปอีกงั้นหรือ?” หลัวซิวตะโกนดสียงดัง
แสงกระบี่ในอากาศก็หยุดชะงักเล็กน้อย แล้วแสงกระบี่ก็ถูกเก็บกลับไป เผยให้เห็นตัวของหยูเชียนฮั่ว สีหน้าก็นิ่งเย็นดังสายน้ำ
สายตาเย็นชาของเขาก้มลงมองด้านล่าง สายตาตกลงที่ตัวของหลัวซิว “มึงก็คือเจ้าสำนักไท่เสวียนสินะ?”
“ถูกต้อง กูเอง!” หลัวซิวยิ้มเบาๆ
หยูเชียนฮั่วตาหยี พลังการฆ่าก็พุ่งออกมาอีก “ระดับราชายุทธ์เล็กๆ อย่างมึง ก็กล้ามาดักรอฆ่ากูที่นี่งั้นรึ ไม่รู้ว่ากูควรจะบอกว่ามึงนั้นมีความกล้าดี หรือว่าโอหังอวดดีกันแน่?”
“ในเมื่อมึงรนหาที่มาอยู่ในมือของกู กูก็จะฆ่ามึงเสีย แล้วค่อยไปจัดการกำจัดสำนึกมึงทิ้ง!”
พูดไป หยูเชียนฮั่วก็กลายเป็นแสงกระบี่พุ่งลงมา รอบตัวเป็นแสงสีขาว มกุฎยุทธ์ร่างทองทำลายอากาศโดยรอบในชั่วพริบตา